14 พ.ค. 2022 เวลา 16:22 • นิยาย เรื่องสั้น
It's you dear เป็นเธอที่รัก ตอนที่ 1.2
‘ย้อนกลับไป’
“นีน วันนี้ไปเดินห้างแล้วกินชาบูกันมั้ย ฉลองสอบเสร็จ” เมยาวีหรือเมย์เพื่อนสนิทในคณะเอ่ยชวนฉันตอนที่พวกเราสอบเสร็จ
“ไปสิ อยากกินชาบูพอดี” ฉันเอ่ยตกลง เป็นการฉลองชีวิตเฟรชชี่ปีหนึ่งที่กำลังจะจบลง เราสองคนเลือกนั่งรถแท็กซี่มาลงที่ห้างใกล้มหาลัย เดินเล่นกันสักพักก่อนจะเลือกร้านชาบูเจ้าประจำที่คนกำลังเยอะเพราะเป็นช่วงมืดที่คนเริ่มออกมาหาอะไรทาน แต่ยังโชคดีที่เรามากันสองคนเลยได้ที่นั่งเร็ว
“เอาอะไรบ้าง” ฉันถามเมย์แล้วหยิบกระดาษขึ้นมาจด
“เอาเนื้อมาเยอะๆ แล้วก็เซตผัก” พอจดเรียบร้อยก็ยื่นให้พนักงาน รอไม่นานของที่สั่งก็ทยอยเสิร์ฟ
“พอได้กินแล้วหายเหนื่อยเลย” เมย์พูดขึ้น ฉันพยักหน้าสนับสนุน
“แล้วนี่เดี๋ยวกลับบ้านเลยใช่มั้ย” เมย์ถามต่อ
“ใช่ รถติดมากแน่ ๆ”
“ก็บอกให้มาอยู่หอใกล้ ๆ จะได้ไม่เหนื่อย”
“ที่บ้านไม่ให้อยู่นี่สิ ฉันอยากอยู่หออยู่แล้ว ไปกลับแล้วรถติดมันเหนื่อย” ฉันอดบ่นไม่ได้
“พ่อหวงไง ไม่ให้ไปอยู่ที่อื่น”
“ไม่ใช่แน่ ๆ” ฉันปฏิเสธความคิดของเมย์ ที่ไม่ให้เพราะกลัวว่าฉันได้มาอยู่หอแล้วจะไปทำตัวเหลวไหลมากกว่า พ่อเหรอจะมาหวงฉัน แล้วนี่ฉันกลับบ้านไปคงไม่มีใครอยู่ เพราะพ่อคงพาน้าทิพย์ภรรยาคนใหม่ไปต่างจังหวัด
“ช่างเถอะ เปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่า” ฉันเปลี่ยนเรื่องคุย แล้วบทสนทนาของเราก็ไปเป็นเรื่องดารากับซีรีส์ที่เพิ่งมาใหม่แทน ระหว่างที่คุยกันโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้น มองชื่อคนโทรมาแล้วกดรับ
“ว่าไงวาด” เอ่ยทักปลายสาย
“ทำอะไรอยู่เหรอนีน”
“เพิ่งสอบเสร็จเลยออกมาหาอะไรกิน แล้วนี่โทรมามีอะไรรึเปล่า” ฉันถาม ‘ปานวาด’ เพื่อนสนิทตั้งแต่มัธยมของตัวเอง
“นีนมาหาเราหน่อยได้มั้ย”
“เป็นอะไรรึเปล่า” ฉันจับเสียงผิดปกติของเพื่อนได้
“เรามีปัญหาน่ะ นีนมาหาเราหน่อยนะ”
“ได้สิ วาดจะให้เราไปเจอที่ไหน” ฉันถามอย่างเป็นห่วง ถ้าเดาไม่ผิดวาดน่าจะทะเลาะกับพี่แทนแฟนหนุ่มอีกแล้ว เอาจริง ๆ ฉันเคยเจอพี่แทนอยู่สองสามครั้งรู้สึกไม่ชอบแฟนคนนี้ของวาดเลย ดูเป็นผู้ชายเจ้าชู้ และที่สำคัญมาอยู่ให้เพื่อนฉันเลี้ยงทั้ง ๆ ที่วาดก็ไม่ได้มีฐานะดีอะไร เคยเตือนไปแล้วด้วยซ้ำแต่วาดไม่ยอมฟังเพราะรักพี่แทนมาก
“เดี๋ยวเราส่งโลเคชั่นให้นะ ขอบคุณมากนีน” แล้ววาดก็วางสายไป
“มีอะไรเหรอ” เมย์ที่ฟังบทสนทนาถามอย่างสงสัย
“เพื่อนมีปัญหาเลยอยากให้ไปหาน่ะ”
“งั้นคิดเงินเลยมั้ย นี่ก็มืดแล้วด้วย”
“คิดเงินเลยก็ได้ เมย์อิ่มแล้วใช่มั้ย” ฉันถามเมย์
“อิ่มแล้ว” เมย์ตอบกลับมา ฉันเลยเรียกพนักงานให้คิดเงิน พอจ่ายเงินเรียบร้อยก็เดินมาที่จุดเรียกแท็กซี่
“ไม่ให้เราไปเป็นเพื่อนจริงเหรอ” เมย์ถามขึ้นมา
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราเรียกแกร็บไปได้”
“แล้วเพื่อนส่งมารึยังว่าให้ไปหาที่ไหน” ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก่อนจะส่ายหน้า
“ยังเลย แต่ไม่เป็นไร เมย์ไปเถอะเดี๋ยวแม่เป็นห่วง”
“โอเค ถ้างั้นเราไปก่อนนะ ยังไงถึงแล้วส่งข้อความมาบอกด้วย” เมย์กำชับก่อนจะขึ้นรถแท็กซี่ไป พอดีกับที่วาดส่งโลเคชั่นมาให้ เมื่อกดเข้าไปดูถึงรู้ว่าที่ส่งมาเป็นโรงแรมดังแห่งหนึ่ง
“วาดอยู่โรงแรมเหรอ” พึมพำอย่างสงสัยก่อนจะกดส่งข้อความไปถามให้แน่ใจ
Ninnara : วาดอยู่โรงแรม xxx เหรอ
ปานวาด : ใช่ นีนมาหาเราหน่อยนะ
Ninnara : ทำไมไปอยู่ที่โรงแรมล่ะ
ปานวาด : เรามาทำธุระน่ะ เราต้องการนีนมากจริง ๆ
ปานวาด : ขอร้องล่ะ เราไม่ไหว
Ninnara : ก็ได้ เดี๋ยวถึงแล้วเราโทรไป
ปานวาด : ขอบคุณมาก
ถึงจะยังสงสัยแต่ฉันก็เลือกที่จะไม่ปฏิเสธ วาดกำลังต้องการความช่วยเหลือ ฉันจะไม่ไปหาได้ยังไง ฉันกดเรียกแกร็บรอไม่นานรถที่เรียกก็มาถึง
ใช้เวลาเกือบสามสิบนาทีกว่าจะมาถึงที่หมาย โรงแรมที่วาดนัดมาเป็นโรงแรมหรูห้าดาว มองชุดนักศึกษาที่ใส่กับโรงแรมตรงหน้า หวังว่าพนักงานคงให้เข้าล่ะนะ ฉันส่งข้อความบอกเมย์ว่ามาถึงที่หมายแล้ว ก่อนจะส่งบอกวาดต่อ รอไม่นานวาดก็เดินออกมา
“นีน” วาดเรียกฉันก่อนจะดึงไปกอด
“ไม่เป็นไรนะ” ฉันเอ่ยปลอบเพื่อน
“แล้วนี่วาดมาพักที่นี่เหรอ” ฉันถามอย่างสงสัย
“อืม เรามาทำงานน่ะ” ถึงจะสงสัยว่าวาดมาทำงานอะไรแต่ฉันไม่ได้ถามออกไป เพราะสีหน้าวาดดูไม่ดีเลย
“เราเข้าไปข้างในกันเถอะ” ฉันเดินตามการจับจูงไป
“เดี๋ยวเราไปนั่งกินน้ำกันก่อนนะ” แล้ววาดก็พาฉันมานั่งในเลานจ์ ของโรงแรม
“นีนอยากกินน้ำอะไร เอาค็อกเทลมั้ย”
“เอาเป็นน้ำแตงโมดีกว่า” ฉันไม่กินแอลกอฮอล์อยู่แล้วเลยปฏิเสธ
“แล้ววาดเป็นยังไงบ้าง” พอเราสองคนสั่งน้ำเรียบร้อยฉันก็ถามขึ้น เมื่อวาดยังไม่ได้พูดอะไร
“เรา...เราทะเลาะกับพี่แทนน่ะ”
“ทะเลาะเรื่องอะไร”
“พี่แทนเล่นการพนันแล้วเป็นหนี้” ผู้ชายคนนี้แย่มากจริง ๆ
“แล้วนี่พี่แทนอยู่ไหน เค้าเอาเงินวาดไปเหรอ” ฉันถามต่อ พอดีกับพนักงานเอาน้ำมาเสิร์ฟ ฉันมองจนพนักงานเดินออกไปค่อยถึงพูดต่อ
“เค้าไม่ได้เอาเงินเราไป” ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ก็ถือว่าโชคดีแล้ว”
“นีน” วาดเรียกฉันแล้วก็เงียบ
“ว่าไง”
“เปล่า กินน้ำก่อนสิ เริ่มละลายแล้ว” ฉันเลยหยิบน้ำมาดื่มตามที่เพื่อนบอก
“วาดเชื่อเราเถอะ อย่าไปยุ่งกับพี่แทนอีก” พอกลืนน้ำหมดฉันเอ่ยย้ำอีกรอบ
“ได้สิ เราไม่ยุ่งแล้ว คืนนี้นีนนอนกับเรานะ”
“เราไม่มีชุดเปลี่ยน”
“ไม่เป็นไร นีนใช้ชุดเราก็ได้ นอนเป็นเพื่อนเรานะ”
“ก็ได้” ฉันเอ่ยตกลง ยังไงวันนี้ที่บ้านก็ไม่มีคนอยู่ มานอนเป็นเพื่อนวาดคงไม่เป็นไร
“ขอบคุณนะนีน”
“เราเป็นเพื่อนกันต้องช่วยอยู่แล้ว วาดไม่ต้องมาขอบคุณเรา” วาดมองฉันก่อนจะก้มหน้าลงไปดื่มน้ำ พอดีกับที่โทรศัพท์วาดมีข้อความเข้ามา พอวาดตอบข้อความเสร็จก็เงยหน้าขึ้นมาบอกฉัน
“เดี๋ยวเราต้องไปเอาของให้พี่ นีนขึ้นไปรอที่ห้องก่อนนะ นี่คีย์การ์ด”
“เดี๋ยวรอตรงนี้ก็ได้”
“ไม่เป็นไร กลัวนานน่ะ นีนจะได้ไปอาบน้ำให้สบายด้วย” พูดจบวาดก็เรียกพนักงานให้มาเก็บเงิน
“เราเลี้ยงเอง นีนขึ้นห้องเถอะ ชั้น 22 ห้อง 2209 นะ”
“โอเค งั้นเราขึ้นห้องก่อนแล้วกัน” ฉันเดินขึ้นลิฟต์ไปห้องตามที่เพื่อนต้องการ ระหว่างรอลิฟต์ก็ส่ายหัวอย่างมึน ๆ พอลิฟต์มาถึงชั้นยี่สิบสองฉันก็เดินหาห้องพัก ฉันพยายามตั้งสติแล้วค่อย ๆ พาตัวเองมาถึงห้องที่วาดบอก มองเลขห้องอีกครั้งให้แน่ใจ ก่อนจะค่อยแตะคีย์การ์ดเข้าไป
ฉันพาตัวเองไปนั่งที่เตียงรู้สึกเรี่ยวแรงที่มีหายไป ตัดสินใจจะไปอาบน้ำเผื่อจะดีขึ้น พอดีกับที่ประตูห้องก็เปิดออก
สงสัยวาดเสร็จธุระแล้ว ฉันเงยหน้าขึ้น แต่ต้องนิ่งไปเมื่อคนที่เข้ามาไม่ใช่ปานวาด แต่เป็นผู้ชายตัวสูงคนหนึ่ง นี่มันไม่ปกติแล้ว
“คุณเข้ามาได้ยังไง ออกไป!” ฉันตะโกนบอกพร้อมกับเดินถอยหลังหนี ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้พูดอะไรทำแค่กุมหัวของตัวเอาไว้ พร้อมพูดพึมพำกับตัวเองเหมือนคนไม่มีสติ ก่อนจะเริ่มปลดกระดุมเสื้อ ฉันตัดสินใจวิ่งออกจากห้อง แต่ไม่ทัน ตัวของฉันโดนคว้าเอาไว้ซะก่อน
“ปล่อย!!” ฉันตะคอกออกมาเสียงดัง พยายามผลักคนตรงหน้าออกแต่ไม่เป็นผลเพราะเรี่ยวแรงที่หายไป
“ทำงานของเธอ”
“งานอะไร คุณเข้าใจผิดแล้ว ปล่อยฉัน!” ฉันพยายามดิ้นให้หลุด แต่ยิ่งดิ้นมากแค่ไหนคนตรงหน้าก็ยิ่งกอดฉันแน่นมากขึ้น แล้วดูเหมือนยิ่งเวลาผ่านไปผู้ชายคนนี้จะยิ่งไม่มีสติ เค้าพยายามถอดเสื้อนักศึกษาของฉันออก พร้อมกับก้มลงมาทำรอยที่หน้าอกและซอกคอ
“ช่วยด้วย ใครก็ได้!!” ฉันตะโกนสุดเสียงพร้อมน้ำตา แรงฉันสู้ผู้ชายคนนี้ไม่ได้เลย ฉันดิ้นจนมาถึงโซนทีวี พยายามเอื้อมมือคว้าของที่วางไว้บนโต๊ะใส่คนตรงหน้า โชคเข้าข้างเมื่อหนึ่งในของที่ฉันคว้าได้คือที่เขี่ยบุหรี่ ฉันมองคนที่ล้มลงพร้อมกับเอามือกุมหน้าผาก ไม่เสียเวลาคิดรีบวิ่งไปที่หน้าประตูอีกครั้ง ขณะที่จะจับลูกบิดข้อเท้าฉันก็ถูกคว้าเอาไว้ ก่อนจะโดนดึงกลับไป
“กรี๊ดดดด” ฉันกรีดร้องออกมาตอนที่ถูกกดตัวลงบนพื้น ร่างสูงใหญ่ของผู้ชายคนนี้คร่อมร่างฉันเอาไว้
“ปล่อย ได้โปรดปล่อยฉันไป” ฉันอ้อนวอนพร้อมน้ำตา แต่ไม่เป็นผล ดูเหมือนคนตรงหน้าจะไม่มีสติเหลืออยู่แล้ว
“ร้อน” พูดออกมาสั้น ๆ ก่อนจะอุ้มฉันไปไว้บนเตียง ก่อนจะผละตัวออกมากระชากเสื้อกับกางเกงที่ตัวเองใส่อยู่ออก ฉันมองคนที่เริ่มถอดชุดออกมาแล้วร้องไห้
“เราไม่เคยรู้จักกัน อย่าทำฉันเลยนะ” ฉันยกมือขึ้นไหว้เมื่อรู้ว่ายังไงก็สู้ไม่ได้ แต่ขอร้องยังไงผู้ชายคนนี้ก็ทำ เหมือนกับไม่ได้ยิน เมื่อจัดการเสื้อผ้าของตัวเองเสร็จก็ปีนกลับขึ้นมาจัดการชุดนักศึกษาของฉันต่อ
ฉันพยายามหนีลงจากเตียงอีกครั้ง แต่ยังไงแรงที่มีอยู่ก็สู้ไม่ได้ ทำได้แค่นอนอยู่ใต้ร่างให้ผู้ชายที่ไม่รู้จักมากระทำ
ดวงตาเหม่อมองออกไปที่ประตู หวังว่าจะมีใครเปิดมาช่วย แต่ความหวังก็ต้องถูกพังลงเมื่อฉันรับรู้ถึงบางสิ่งที่แทรกเข้ามาในร่างพร้อมกับความเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด
“ออกไป ฉันเจ็บ” พยายามผลักออก แต่ไม่เป็นผล นอกจากจะไม่ปล่อยแล้วก็ยิ่งดันเข้ามา ฉันหลับตาลงไม่อยากมองเห็น ไม่อยากรับรู้ว่าร่างกายของตัวเองโดนทำอะไรบ้าง
แล้วคืนนั้นในห้องกว้างก็มีเสียงครางอย่างสุขสม และเสียงร้องไห้อย่างเจ็บปวดดังคลออยู่เกือบทั้งคืน
**
สวัสดีค่ะ ดีใจมากๆ ที่ได้มีโอกาสมาพูดคุยกับทุกคน หากเจอคำผิดหรือประโยคแปลกๆ บอกได้เลยนะคะ จะรีบแก้ไขให้ค่าา ถ้าหากชอบสามารถคอมเม้นต์ติชมได้เลยยย หรือจะติดตามไปพูดคุยได้ที่
#ไฟล์นิยายที่ลงเป็นไฟล์ที่ยังไม่ได้แก้ไขและรีไรท์เนื้อหานะคะ
โฆษณา