15 พ.ค. 2022 เวลา 08:57 • ประวัติศาสตร์
ชื่อ “พระประแดง” มาจากไหน
พระประแดง เป็นชื่อที่ได้จากเทวรูปทองสัมฤทธิ์ในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู 2 องค์ มีจารึกนามว่า พระยาแสนตาองค์หนึ่ง ส่วนอีกองค์หนึ่งชื่อบาทสังขกร ขุดพบโดยบังเอิญบริเวณคลองสำโรง จังหวัดสมุทรปราการ ในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 เมื่อราว พ.ศ. 2041
ยุคนั้นการค้าทางทะเลกับบ้านเมืองชายฝั่งห่างไกลขยายกว้างขวางมากกว่าเดิม จึงให้จัดระบบบัญชีไพร่พลและราษฎรที่เคลื่อนย้ายเข้ามาตั้งหลักแหล่งทางดินแดนชายเลน กับซ่อมแปลงคูคลองเส้นทางคมนาคมให้เดินทางขึ้นล่องไปมาระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยากับทะเลอ่าวไทยสะดวกคล่องขึ้น โดยเฉพาะตรงที่เรียกคลองสำโรง (ปัจจุบันคือพื้นที่ระหว่างเขตบางนา กับอำเภอเมืองจังหวัดสมุทรปราการ) ดังความในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาตอนหนึ่งว่า
“สมเด็จพระรามาธิบดีแรกให้ทำตำราพิชัยสงคราม และแรกทำสารบาญชีพระราชพิธีทุกเมือง”
ขณะนั้น คลองสำโรงที่จะไปศีรษะจระเข้ คลองทับนางจะไปปากน้ำเจ้าพระยาตื้น เรือใหญ่เดินไปมาขัดสน จึ่งให้ชำระขุดได้รูปเทพรักษ์ 2 รูป
หล่อด้วยทองสัมฤท์ จารึกชื่อองค์หนึ่งชื่อ พระยาแสนตา องค์หนึ่งชื่อบาทสัง ฆังกร ในที่รวบ (ร่วม) คลองสำโรงกับคลองทับนางต่อกันจึงให้พลีกรรมบวงสรวงแล้วรับออกมาปลูกศาลเชิญขึ้นประดิษฐานไว้ ณ เมืองพระประแดง”
เทวรูป 2 องค์ คือพระยาแสนตา กับบาทสังขกร คนยุคนั้นเรียกด้วยภาษาปากชาวสยามว่าพระประแดง เพี้ยนมาจากคำเขมรว่า กัมรเดง เพื่อจะให้หมายถึงรูปเคารพศักดิ์สิทธิ์ของ “ขอม” ในศาสนาพราหมณ์ (ยังมีตัวอย่างอื่นๆ เช่น ศาลตาผาแดง เป็นปราสาทแบบขอม (เขมร)
ในสมัยกรุงสุโขทัยแม้ชื่อผาแดง นางไอ่ คำว่าผาแดงก็เพี้ยนมาจากกัมรเดง-ประแดง) แล้วให้สร้างศาลไว้เป็นที่ประดิษฐานเทวรูป 2 องค์นั้นเรียกว่า ศาลพระประแดง ในบริเวณชุมชนเมืองตรงริมแม่น้ำฝั่งตรงข้ามคลองสำโรงต่อมาเลยเรียกบ้านเมืองตรงนั้นตามรูปเคารพว่าเมืองพระประแดง
โฆษณา