21 พ.ค. 2022 เวลา 04:00 • อาหาร
ไข่ดาว...ที่ดีที่สุด
อาหารที่ยากที่สุดสำหรับคุณคืออะไรครับ?
ใครหลายคนอาจจะพยายามสรรหาชื่ออาหารภาษาต่างประเทศ หรืออาหารไทยโบราณซับซ้อน ยากต่อการเข้าถึงเสียมากมายใหญ่โต
แต่สำหรับผมแล้ว อาหารที่ยากแสนยาก และน้อยครั้งที่จะทำได้ถูกใจตัวเองหรือคนทานคือเมนูที่เรียบง่ายและอาจสร้างความประหลาดใจให้คุณ
นั่นคือ ... ไข่ดาว
ใช่ครับ คุณอ่านไม่ผิด ถึงแม้ว่าผมจะเรียนทำอาหารจากแม่แบบครูพักลักจำมาร่วม 10 ปี และยังได้มีโอกาสเป็นพ่อครัวตัวเล็ก ๆ ในร้านอาหาร หรือแม้แต่ไปเรียนทำอาหารในสถาบันชื่อดังใจกลางกรุงเทพมาแล้ว
สิ่งที่ยังคงยากที่สุดสำหรับผมคือ “ไข่ดาว”
ไข่ดาวที่ถูกใจเรา มักจะเป็นไข่ดาวที่อร่อยที่สุดเสมอ บางคนชอบไข่แดงสุก บางคนชอบไข่แดงแบบมัน ไหลเยิ้ม ไข่ขาวกรอบ แต่ไข่แดงต้องไม่แห้ง แข็งกระด้าง หรือบางคนกินแต่ไข่ขาว ไปจนถึงบางคนกินแต่ไข่แดง ... ไม่น่าเชื่อว่าแค่ไข่ น้ำมันและไฟ จะสร้างความซับซ้อนให้คนทำและคนกินได้มากมายขนาดนี้
ไข่ดาวในอุดมคติของผมคือ ริมไข่ขาวต้องกรอบ ไม่ขม ไม่เหม็นกลิ่นไหม้ ไข่แดงต้องไม่สุก และไหลเยิ้มหากถูกส้อมหรือช้อนสะกิด และแน่นอนส่วนของไข่แดงต้องไม่บอบบางเสียจนเมื่อเราจะตักขึ้นจากกระทะแล้วไข่แดงจะแตกไหล เลอะเทอะไปหมด นั่นไม่ใช่ดาวที่หลายคนโปรดปรานแน่นอน
แต่จะทำอย่างไรล่ะ ถึงจะได้ไข่ดาวในอุดมคติ ที่แม้มีเพียงข้าวสวยร้อน ๆ และซอสปรุงรสก็เพียงพอที่จะให้พายุแห่งความหิวของเราผ่านไปได้อย่างสวยงาม
ไข่ดาว...เป็นอาหารชนิดแรกที่ผมลงมือทำ ซึ่งหากคุณมีโอกาสติดตามบทความในซีรียส์นี้ตั้งแต่ต้น ๆ คุณจะรู้ว่า ผมใช้ไข่ดาวนี้เป็นปฐมบทของการทำอาหาร ซึ่งแน่นอนว่า ผมทำพลาดในครั้งแรก
ในวันนั้น ด้วยความหิวของ 2 พี่น้อง และไม่มีคนอยู่บ้าน ผมริอ่านจุดเตา ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน โดยมีน้องชายยืนอยู่ข้าง ๆ
“ไม่น่ายาก”
ด้วยความชินตาที่เห็นแม่ทอดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมมั่นใจว่าผมทำได้ในขณะนั้น
ตอกไข่กับโต๊ะ เมื่อเปลือกไข่แตกออก ผมร้องขอให้น้องยกตะหลิวขึ้นมารองไข่จากมือที่อยู่เหนือกระทะร้อน ๆ ไว้ เพราะตัวเองก็ยังไม่กล้าที่จะหย่อนมือลงใกล้น้ำมันที่เดือดพล่านในกระทะ
น้องชายทำตามอย่างว่าง่าย คือยกตะหลิวพร้อมน้ำมันรร้อน ๆ สูงขึ้นเพื่อรอไข่ที่กำลังจะลงไปในกระทะ
สายตาและความตั้งใจทั้งหมดของผม มุ่งไปที่การแยกเปลือกไข่ออกจากจากกันให้สมบูรณ์ที่สุด จนลืมไปว่า นิ้วก้อยของตัวเองอยู่ใกล้ตะหลิวและน้ำมันเดือด ๆ อย่างน่ากลัว
และในที่สุด ไข่ดาวใบนั้นก็ยังคงแตก จากการสะบัดมือด้วยความตกใจของผม เพราะนิ้วก้อยแทบทั้งนิ้วของผม นาบลงไปในน้ำมันเรียบร้อยแล้ว
ตกใจ ร้อน เจ็บ แต่ร้องไห้ไม่ได้เพราะน้องชายเริ่มเบะปาก เสียงสั่นด้วยความกลัว น้องผมรีบขอโทษเพราะหลงเข้าใจว่า ตัวเองเป็นต้นเหตุให้น้ำมันลวกผม
“พี่ไม่เป็นไร รอแป๊บเดียวนะ เดี๋ยวได้กินไข่ดาวแล้ว”
เราสองคนยืนอยู่หน้าเตาแบบนั้น โดยมีผมเอาตะหลิวเขี่ยน้ำมันเล็กน้อย ราดลงบนไข่เพื่อให้ไข่สุก ตักขึ้น วางบนข้าวให้น้อง ปิดแก๊สแล้วไล่น้องออกไปนั่งกินข้าว
เมื่อน้องออกไป น้ำตาผมไหลแทบจะในทันที ด้วยความปวดแสบ ปวดร้อนมืออย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ความหิวที่มีหายไปสิ้น
“ไม่เป็นไร แค่น้องได้กินก็พอแล้ว”
แน่นอนว่า เมื่อแม่กลับมาเห็นสภาพครัว สภาพผม แม่ย่อมรู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในช่วงที่แม่ไม่อยู่ การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเริ่มขึ้นทันที
ในวันนั้นที่ผมเจ็บ แม่เอาว่านหางจระเข้ที่เราปลูกไว้มาทาให้ ความรู้สึกแสบร้อนหายไปแทบจะในทันที
“เดี๋ยวมันจะพอง เป็นน้ำข้างใน ห้ามแกะเชียวนะ” ... ทุกอย่างมีกระบวนการของมันอย่างเป็นธรรมชาติและแน่นอน ไม่บิดพริ้ว ...
จากวันนั้น เมื่อผมโตขึ้น กล้าขึ้น และรู้ธรรมชาติของไฟและความร้อนมากขึ้น ผมพยายามค้นหาวิธีการดาวไข่ให้ถูกใจตัวเอง จนแล้วจนรอดก็ยังไม่เคยได้พบเจอ
ติดกระทะบ้าง ดิบไปบ้าง ไหม้ไปบ้าง บางทีก็สุกไป แบนไป อมน้ำมันมากไป ... สารพัดปัญหาที่ขัดใจ
กลวิธีต่าง ๆ ถูกนำมาพิสูจน์ ทดลองครั้งแล้วครั้งเล่า จนวิธีสุดท้ายที่ผมคิดจะทดลองคือการ “ปล่อยมันไป” ผุดขึ้นในใจของผม
ปล่อยให้ไข่ทำหน้าที่ของมันไป
ปล่อยให้เวลาและไฟทำงาน
ไม่ต้องไปเร่ง ไปฝืนธรรมชาติของใคร และใดใด
กระทะร้อน น้ำมันร้อน ไข่พร้อม
ใส่ไข่ลงในกระทะ ให้ความร้อนคงที่ ไข่จะเกรี้ยวกราด อาละวาดในกระทะเพียงครู่ อย่าแซะ แงะ หรืออย่าไปยุ่งกับมันนัก ... แม่บอก
“ทำไมจะต้องเคาะ ต้องคน ต้นขี่ยตลอดเวลา ปล่อยมันบ้างเถอะ”
ปล่อยมันบ้าง ... ฟังดูง่ายแต่ยากเหลือเกินนะแม่
... ปล่อยมันบ้าง
แต่ก็จริงอย่างที่แม่บอก เมื่อไข่ด้านล่างสุกได้ที่ ไข่จะลอยแยกจากกระทะโดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเลย ขอบไข่ขาวก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ไข่แดงยังดูหยุ่น ไม่แข็งสุกเกินไป เมื่อได้ที่ ก็ตักสะเด็ดน้ำมัน วางบนข้าวสวยร้อน ๆ ราดซอสปรุงรส แค่นี้ก็พอแล้ว ... แค่นี้จริง ๆ
โฆษณา