23 พ.ค. 2022 เวลา 00:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ
10 สาเหตุหลัก ที่ทำให้คนรวยต้องถังแตก
ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ ได้มีโอกาสคลุกคลีกับมหาเศรษฐีเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่ในวัยเด็ก เขาได้ทำการสังเกตเพื่อสรุปสิ่งที่เหมือนกัน ที่ทำให้มหาเศรษฐีเหล่านั้นต้องตกอับ เพื่อเราสามารถเรียนรู้ที่จะไม่ทำตาม ได้ที่สรุปหนังสือ The Top 10 Reasons the Rich Go Broke (10 เหตุผลที่ทำให้คนรวยถังแตก) โดย John MacGregor
The Top 10 Reasons the Rich Go Broke by John MacGregor
ผู้เขียนได้ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล ให้กับบุคคลต่างๆเป็นจำนวนมาก ปัญหาที่ผู้เขียนพบ คือ ไม่ว่าเขาจะให้คำปรึกษา แนะนำทางออก ไม่ว่าผู้ขอคำปรึกษาจะรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะทำตามแผนนี้แค่ไหน สุดท้ายก็มักจะล้มเหลว ควบคุมตัวเองไม่ได้ กลับไปมีพฤติกรรมเดิมๆ แล้วก็กลับไปถังแตกเหมือนเดิม จึงทำให้ผู้เขียนสามารถมองเห็นพฤติกรรมที่คล้ายๆกันมาสรุปให้ทุกท่านทราบได้
เข้าเรื่องกันเลย 10 สาเหตุหลัก ที่ทำให้คนรวยต้องถังแตก ประกอบด้วย
1. ยึดติดในภาพลักษณ์
ห่วงสายตาคนอื่นมากเกินไป จนชอบสร้างภาพลักษณ์หรูหรา ดูดี ไม่สนใจราคา และ ผลที่จะตามมาหลังซื้อ โดยไม่คำนึงถึงสถานะทางการเงินของตนเองในปัจจุบัน ด้วยหวังจะไม่ให้คนรู้ว่าตนเองกำลังประสบปัญหาทางการเงิน อาจใช้บัตรเครดิตไปก่อน โดยที่ก็ยังไม่รู้ว่าจะหาเงินจากไหนมาจ่าย หรืออาจจะผ่อนจ่ายดอกเบี้ยโหด สุดท้ายก็ทำให้ปัญหาทางการเงินของตนเองถลำลึกลงไปกว่าเดิม
Rich people stay rich by living like they’re broke. Broke people stay broke by living like they’re rich.
John MacGregor
2. ไว้วางใจที่ปรึกษามากเกินไป
ไม่พยายามศึกษา และ ทำความเข้าใจด้วยตัวเอง เอาเงินที่หามาได้อย่างยากลำบากไปให้ที่ปรึกษาดูแลให้ โดยคิดว่า ที่ปรึกษา/ผู้จัดการกองทุน จะเก่ง เชื่อถือได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคนสนิทแนะนำที่ปรึกษานี้มา ก็จะยิ่งไว้วางใจ ไม่คิดตรวจสอบก่อน จนสุดท้ายกลายเป็นโดนที่ปรึกษาหลอกบ้าง โกงบ้าง หรือ ไม่เก่งจริงบ้าง จนสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง
Nothing is foolproof, but the more empowered you are, the more information you have at your disposal, the easier it’s going to be to make the right decisions when it comes time to hire a financial advisor.
John MacGregor
3. ไม่รับฟังคำแนะนำของผู้อื่น
อันนี้ตรงข้ามหรือต่อเนื่องกับด้านบน มั่นใจในตัวเองมากเกินไป คิดว่าการตัดสินใจของตนเองถูกต้องแล้ว พอมีใครเตือนอะไรก็ไม่ฟัง โดยเฉพาะคำแนะนำที่ขัดกับ ความคิด/ความเชื่อ ของตน
In the business world, confidence is essential, but arrogance will sabotage you.
John MacGregor
4. รู้ตัวสายเกินไป
ปล่อยให้สามี หรือ ภรรยา ของตนเองดูแลเงินและทรัพย์สินของตนเอง โดยไม่เข้ามาติดตาม ร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ เพราะไว้วางใจ คิดว่าพวกเขารู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ หรืออาจด้วยความที่ไม่อยากทำความเข้าเรื่องเงิน เลยให้คู่สมรสจัดการทุกอย่าง ปรากฏว่าสุดท้ายโดนทิ้ง คู่สมรสหอบเงินหนีไปหมดบ้าง ดูแลออกมาไม่ดี ไม่เหลือเก็บบ้าง
When it comes to financial freedom and peace of mind, everyone involved must be involved.
John MacGregor
5. ผัดวันประกันพรุ่ง
เอาไว้ก่อน ยุ่งอยู่ เอาไว้วันหลัง ไม่จัดลำดับความสำคัญว่าอะไรควรทำก่อนหลัง มีแรงทำงานเน้นสร้างหนี้ ทรัพย์สินเอาไว้ก่อน ไม่คิดว่าสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอ ปรากฏสุดท้ายประสบอุบัติเหตุ ทำงานไม่ได้ ไม่มีประกัน ไม่เงินเก็บ หรือกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ใกล้เกษียณไม่ทันได้เก็บเงิน
Don’t hang your hat on some belief that because you’re strong and healthy today that tomorrow is guaranteed.
John MacGregor
6. ตามใจลูกมากเกินไป หมดเงินไปกับลูก
คิดว่าเงินสามารถชดเชยเวลาที่ตนเองไม่มีให้ลูกได้ เลยชอบปรนเปรอ เอาใจ ตามใจ ซื้อของทุกอย่างที่ลูกอยากได้ รวมถึงพยายามทุ่มเทกายใจปั้นธุรกิจให้ยิ่งใหญ่ เพื่อให้ลูกดูแลต่อ แต่ปรากฏว่าสุดท้าย ลูกมีปัญหา ใช้เงินไม่เป็น ไม่มีความฝัน ทำอะไรด้วยตนเองไม่เป็น คิดว่าพ่อแม่จะต้องช่วยเหลือรับผิดชอบดูแลไปตลอด
We’re warned not to feed wild animals because they’ll become dependent on it and no longer scavenge or hunt for their own food. In other words, they’ll become weaker as a result. The same concept applies here.
John MacGregor
7. ติด สุรา ยาเสพติด
ยิ่งคนมีเงินเยอะ ถ้าติดยาเสพติดจะยิ่งมีผลกระทบที่รุนแรง เพราะเขามีเงินมาก เข้าถึงสิ่งล่อใจได้มาก และสามารถหาอะไรมาปกปิดให้คนอื่นดูไม่ออกได้มากด้วย กว่าจะรู้ตัวอีกทีของถลำลึกอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
8. รวยเร็วเกินไป/เศรษฐีข้ามคืน
เมื่อได้เงินก้อนโตมาอย่างไม่คาดฝัน จึงคิดว่าเงินหามาได้ง่ายๆ และนำเงินไปใช้ซื้อของฟุ่มเฟือย เพื่อให้ตัวเองมีเหมือนคนในสังคมที่ร่ำรวยคนอื่นๆ ยิ่งถ้าหาเงินได้มาก ก็ยิ่งซื้อของฟุ่มเฟือยมาก จนใช้เงินเกินตัว ไม่มีกันเผื่อให้ตัวเองล้ม ใจร้อน ไม่ยั้งคิด กลัวพลาดโอกาส สุดท้ายล้มละลาย ไม่เหลืออะไรเลย
If you want financial success, a simple fact you must embrace is that the best time to protect your money is when you have some.
John MacGregor
9. ไม่รู้จักพอ
นักธุรกิจบางรายสามารถปั้นธุรกิจของตนเองได้จนประสบความสำเร็จ พอเห็นธุรกิจคนอื่นไปได้ดีก็จะทำบ้าง อยากได้ส่วนแบ่งทางการตลาด คิดว่าสามารถปั้นธุรกิจอื่นได้เหมือนที่เคยทำสำเร็จ ปรากฏว่าสุดท้ายยิ่งทำทุนยิ่งจม และทำออกมาก็ทำได้ไม่ดี รวมไปถึงคนที่ทำงานตำแหน่งสูงๆรายได้สูงๆ เห็นที่อื่นให้เงินสูงกว่าก็กระโดดไปหา สุดท้ายทำที่ใหม่ก็ไม่มีความสุข
I am simply cautioning against jumping in without looking. Have a plan. Have measurable goals. Have expectations. And have a way out.
John MacGregor
10. คิดว่า บริษัท/รัฐ จะดูแล
ติดอยู่ใน Comfort zone คิดว่าธุรกิจที่ตนทำงานอยู่มีความมั่นคง ไปได้สวย ปลอดภัย มีสวัสดิการรองรับ ฯลฯ โดยไม่คิดเผื่อเหตุการณ์เลวร้ายที่จะมีผลกระทบต่อบริษัทที่ตนทำงานอยู่ จึงไม่ได้เตรียมเก้บเงินสำรองไว้ ปรากฏว่าสุดท้ายธุรกิจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง รวมถึงคิดว่าตนเองมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไว้ใช้จ่ายตอนเกษียณ แต่พอเกษียณกลับเจอวิกฤต เช่น โควิด ส่งผลต่อกองทุน
Millions of people are about to reach retirement only to find what they expected to receive is simply not going to be there, or it’ll be drastically cut.
John MacGregor
อ่านแล้วเป็นอย่างไรบ้าง เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจเรียนรู้จากความผิดพลาดของผู้อื่นเพื่อป้องกันไม่ให้เราผิดพลาดตาม
🙏🏻 หากชื่นชอบบทความนี้ โปรดส่งต่อเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น และ อย่าลืมกดติดตามเพจ เพื่อไม่ให้พลาดเนื้อหาดีๆ ที่ https://www.blockdit.com/wealthyreaders
โฆษณา