21 พ.ค. 2022 เวลา 12:07 • ไลฟ์สไตล์
1) ลองถามใจคุณเองนะครับ
คุณคิดว่า คนที่ขับรถราคา “สองล้าน” จะมีความสุข เป็น”สี่เท่า” ของคนที่ขับรถราคา “ห้าแสน” อย่างนั้นหรือเปล่าครับ?! (หลอกตัวเองไม่ยากครับ แต่คิดจะไปหลอกคนที่มีปัญญาสูงกว่า มันเป็นเรื่องขำขัน!)
คนที่ขับรถราคา “ห้าแสน” ที่เขาสร้างเนื้อสร้างตัวจนเก็บเงินซื้อรถราคาห้าแสนได้เอง ไม่สามารถภาคภูมิใจในตัวเองได้เพียงเพราะว่า ในโลกนี้มีใครบางคนที่ใช้เงินมรดก, เงินกงสี, เงินขายที่ดิน, หรือเงินที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เอาไปซื้อรถราคา “สองล้าน” มาขับเฉิดฉายอวดชาวบ้านงั้นหรือครับ?
แล้วคนที่ใช้เงินที่ตัวเองไม่ได้หามาเองแบบนั้น ควรเป็นที่อิจฉาของผู้อื่นงั้นหรือครับ?
2) ผมมองว่า “ความสำเร็จในชีวิต” เป็นเรื่อง “ส่วนบุคคล” เอามากๆ มันเป็น “สิทธิ์” ที่คุณนิยามด้วยตัวเองโดยไม่ขึ้นกับสิ่งภายนอกที่ชัดเจนอยู่ว่า “ไม่ได้มีคุณค่าใดๆกับชีวิตของคุณเอาเสียเลย” (not giving a fu*ck)
1
ผมจึงมองว่า “ความสำเร็จที่แท้จริงในชีวิต” คือ “ความพึงพอใจและความภาคภูมิใจในความเป็นตัวของตัวเอง” โดยไม่เกี่ยวกับความรู้ความสามารถและทรัพย์สินเงินทองแต่อย่างใด และต้องไม่ไปเข้าข่ายหลงตัวเองแล้วเที่ยวไป “ยกตน ข่มท่าน” ด้วย!
1
เพราะความร่ำรวยและชื่อเสียงเงินทอง อำนาจวาสนา เป็นของไม่เที่ยง จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้!
ทรัพย์สินที่ครอบครองอยู่ก็เป็นเพียง
“สมบัติน้ำแข็ง”
วันนี้คุณมี วันหน้าคุณอาจไม่มี และ ถ้าคุณมีได้ คนที่มีมากกว่าคุณก็มีอยู่ถมไป! ใยจึงเอาชีวิตและเวลาอันจำกัดของคุณไปเที่ยวเปรียบเทียบกับผู้อื่นซึ่งคนเหล่านั้นก็เผชิญความไม่เที่ยงเฉกเช่นเดียวกันกับคุณ
3) ผมยังมองอีกว่า
“ความหมายของชีวิต คือการใช้ชีวิตให้มีความหมาย โดยการสร้างประโยชน์ให้ผู้อื่น และจงใช้ชีวิตให้คนอื่นอิจฉาโดยการไม่อิจฉาใคร เพราะชีวิตที่ไม่ต้องเสียเวลาไปอิจฉาใคร เป็นชีวิตที่น่าอิจฉา”
4) ความสุขความสำเร็จของผม ที่จะไม่มีวันใช้ “กฎเกณฑ์ของผู้อื่น” มาตัดสิน!
โฆษณา