22 พ.ค. 2022 เวลา 08:33 • ความคิดเห็น
Realistic Optimism - มองโลกในแง่ดีแบบมีวุฒิภาวะ
เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว หนังสือ The Secret ของ Rhonda Byrne ขายดิบขายดีไปทั่วโลกเพราะมันเปิดเผย "ความลับ" ที่อาจเปลี่ยนแปลงชีวิตเราได้
ความลับที่ว่านั้นก็คือ "กฎแรงดึงดูด" ที่บัญญัติไว้ว่าหากเราคิดถึงสิ่งใดเราก็จะดึงดุดสิ่งนั้นเข้ามาในชีวิต
ถ้าคิดถึงแต่เรื่องดีๆ เราก็จะเจอแต่สิ่งดีๆ ถ้าเราคิดถึงแต่เรื่องแย่ๆ เราก็จะนำพาแต่สิ่งแย่ๆ เข้ามา
หนึ่งในเคล็ดลับที่กล่าวไว้ในหนังสือเล่มนี้ ก็คือการ visualize สิ่งดีๆ อาจจะมีภาพในจินตนาการที่ชัดเจน หรือปริ๊นท์รูปบ้านในฝัน แล้วมาแปะไว้ตรงที่ที่เราจะมองเห็นมันได้ทุกวัน แล้วเราจะดึงดูดสิ่งเหล่านี้เข้ามาหาตัวเราได้อย่างแน่นอน
The Secret ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์มากมายว่าเป็นหนังสือหลอกเด็ก แค่นั่งจินตนาการเฉยๆ แล้วเรื่องดีๆ มันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร
สิ่งที่อยู่ในหนังสือเล่มนี้ อาจพูดได้ว่ามันคือการสอนให้คนมี Unrealistic Optimism หรือการมองโลกในแง่ดีเกินเหตุ
แต่การมองโลกในแง่ดีนั้นก็เป็นสิ่งจำเป็นเหมือนกัน
เพราะหากเราศึกษาประวัติคนที่ประสบความสำเร็จ เรามักจะพบว่าเขาเป็นคนมีความเชื่อมั่นและมองโลกอย่างมีความหวังแทบทุกคน แม้จะเริ่มต้นจากศูนย์หรือจากติดลบเขาก็ยังเชื่อว่าตัวเองสามารถสร้างอนาคตที่ดีกว่านี้ได้
ดังนั้น คนที่ประสบความสำเร็จและมีความสุขก็มองโลกในแง่ดีเช่นกัน แต่เป็นแบบ Realistic Optimism คือมองโลกในแง่ดีอย่างมีวุฒิภาวะ
คนที่เป็น realistic optimist คือคนที่เชื่อว่าดีชั่วอยู่ทีตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว รู้ว่าความสำเร็จและอนาคตที่ดีเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ แต่มันไม่ใช่เรื่องที่จะได้มาง่ายๆ ต้องลงแรงและต้องอดทน
2
คนกลุ่มนี้อาจจะมีภาพที่ชัดเจนอยู่ในหัวพอๆ กับคนที่อ่านหนังสือ The Secret ก็ได้ การมี visualization ภาพอนาคตไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่ความแตกต่างก็คือ เขาเข้าใจกฎธรรมชาติที่ว่าทุกอย่างย่อมเกิดตามเหตุปัจจัย ดังนั้นจึงต้องเพียรพยายามทำปัจจัยให้ถึงพร้อมเสียก่อน ผลจึงจะตามมา
4
สำหรับคนที่ผ่านโลกมาสักพัก และเห็นสถานการณ์วุ่นวายทั้งในไทยและเทศตลอดหลายปีที่ผ่านมา คงจะเป็นการยากที่จะมองโลกในแง่ดี เพราะมองไปที่ไหนก็มีแต่สีหม่นๆ ทั้งนั้น
แต่อย่าลืมว่าข่าวร้ายนั้นขายง่ายกว่าข่าวดี คนดีๆ ยังมีอยู่ เรื่องดีๆ ยังมีมาก เพียงแต่เราไม่ค่อยได้ยินได้ฟังเท่านั้นเอง
ตราบใดที่เรายังมีสติปัญญาและแรงกายแรงใจอยู่ เราจึงไม่ควรมองโลกในแง่ร้ายเกินไป เพราะมันไม่ส่งผลดีกับใครเลย
ขอให้เราเป็นคนมองโลกในแง่ดีแบบมีวุฒิภาวะ และทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
แล้วอนาคตคงไม่ใจร้ายกับเราเกินไปครับ
โฆษณา