สาวอังกฤษสุดช้ำ หญิงผู้ลี้ภัยชาวยูเครน แย่งสามี
สาวอังกฤษ รับหญิงผู้ลี้ภัยชาวยูเครน มาอยู่บ้านได้ เพียง 10 วัน โดนแย่งสามี
ลอร์นา การ์เน็ตต์ ภรรยาและคุณแม่ลูก 3 วัย 28 ปี และสามี โทนี การ์เน็ตต์ วัย 29 ปี ชาวอังกฤษได้ตกลงรับ โซเฟีย คาร์คาดิม ผู้ลี้ภัยชาวยูเครนวัย 22 ปี เข้ามาอาศัยในบ้าน โดยติดต่อกันผ่านทาง Facebook
ในทีแรก ลอร์นาไม่ได้กระตือรือร้นที่จะมีผู้ลี้ภัยอยู่ในบ้านมากขนาดนั้น เพราะมันหมายความว่าพวกลูกๆ ต้องย้ายเข้าไปอยู่ในห้องเดียวกัน
แต่ เหตุผลที่รับ โซเฟีย เข้ามาอาศัยด้วย เพราะต้องการทำสิ่งที่ถูกต้อง และโซเฟียก็เป็นคนแรกที่ติดต่อเข้ามาผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจที่ตนลงประกาศให้บ้านพักกับผู้ลี้ภัย
ทว่า... เพียงแค่สิบวัน หลังจากหญิงสาวชาวยูเครนมาพักอาศัยอยู่ในบ้าน
ชีวิตแต่งงานของคู่รักชาวอังกฤษคู่นี้ ที่อยู่ด้วยกันมา 10 ปี ก็พังทันที
ลอร์นาเปิดเผยว่า ว่าตนถูกทิ้งให้หัวใจแตกสลายเมื่อ โทนี สามีที่ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยวัย 29 ปีที่อยู่ด้วยกันมานาน 10 ปี ทิ้งเธอไปอยู่กับ “โซเฟีย คาร์คาดิม” ผู้ลี้ภัยชาวยูเครนวัย 22 ปี หลังจากโซเฟีย ย้ายเข้ามาพักพิงที่บ้านได้เพียง 10 วันเท่านั้น
ลอร์นา กล่าวว่า โซเฟียได้เล็งสามีเธอตั้งแต่แรก และตัดสินใจที่จะแย่งสามีของเธอไปโดยที่ไม่สนใจเลยว่ามันเป็นเรื่องผิด
“เธอไม่สนใจว่าจะสร้างความเสียหายไว้ข้างหลังมากแค่ไหน ทุกอย่างที่ฉันรู้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น” ลอร์นาระบุ
“ฉันตัดสินใจว่าเป็นเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่จะทำที่จะให้ที่พักพิงกับใครบางคนเพื่อช่วยให้พวกเขาในช่วงเวลาที่ต้องการความช่วยเหลือ” ลอร์นาเล่า
“แต่นี่นะหรือคือสิ่งที่โซเฟียตอบแทนกับฉันที่เป็นคนให้บ้านเธออยู่” ลอร์นาระบุ
โซเฟีย เคยทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายไอที ได้บินมายังเมืองแมนเชสเตอร์ ในวันที่ 4 พ.ค. หลังจากที่ต้องรอวีซ่านานนับสัปดาห์ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เพื่อให้วีซ่าเข้าอังกฤษของเธอได้รับการอนุมัติ
โทนี การ์เน็ตต์ อายุ 29 ปี ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
โทนีระบุว่า ตนกับโซเฟีย ค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์ขึ้นเรื่อยๆ และว่าลูกสาววัย 6 ขวบและ 3 ขวบก็ชื่นชอบโซเฟีย อย่างไรก็ตาม ภรรยาของตนอย่างลอร์นาไม่ได้ชอบด้วย
โทนีใช้ภาษาสโลวาเกียพูดคุยกับโซเฟียที่สามารถเข้าใจภาษากันได้รู้เรื่อง และนั่นทำให้ลอร์นาไม่เข้าใจบทสนทนาของทั้งคู่ โดยโทนีระบุว่า ตนและโซเฟียเข้ากันได้ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรมากเกินกว่านั้น ขณะที่ลอร์นาก็เริ่มแสดงออกถึงความหึงหวงเช่นกัน
เวลาผ่านไปโซเฟียเริ่มออกไปยิมพร้อมกับโทนี และพูดคุยกันในรถ ขณะที่เวลาอยู่ที่บ้านก็เริ่มถึงเนื้อถึงตัวกันมากขึ้น
เวลากลับมาบ้านตอนกลางคืนก็จะเป็นโซเฟียที่ทำอาหารให้ โทนีทาน
เมื่อทั้งคู่ใกล้ชิดกันมากขึ้น ลอร์นาก็เริ่มตั้งคำถามว่า.... ทำไมโซเฟียถึงตามโทนีออกไปทุกครั้ง และบรรยากาศก็เริ่มแย่ลง
จนโซเฟียมาบอกโทนีว่าเธอไม่รู้ว่าตัวเองจะอยู่ต่อไปภายใต้สถานการณ์แบบนี้ได้หรือไม่
เมื่อเกิดการทะเลาะกันรุนแรงระหว่าง “ลอร์นา” และ “โซเฟีย” จนทำให้โซเฟียถึงกับร้องไห้ และเธอบอกว่า เธอไม่สามารถอยู่บ้านหลังเดียวกันกับลอร์นาได้อีกต่อไป
“แล้วมันก็เหมือนมีอะไรปิ๊งขึ้นมาในหัวผม” โทนีระบุ และก็บอกลอร์นาไปว่า “หากเธอไป ผมไปด้วย”
จากนั้นโทนีและโซเฟียก็เก็บเสื้อผ้า และย้ายออกไปอยู่ที่บ้านพ่อและแม่ของโทนีเป็นการชั่วคราวในระหว่างที่หาที่อยู่ใหม่
หลังจากความสัมพันธ์กับภรรยาที่อยู่ด้วยกันมา 10 ปีสิ้นสุดลงในระยะเวลาเพียง 10 วัน โทนีระบุว่า ตนรู้สึกแย่และลอร์นาก็ไม่ได้ทำผิดอะไร
“ผมขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับลอร์นา มันไม่ใช่ความผิดเธอ และมันไม่ใช่ว่าเธอทำอะไรผิดด้วย เราไม่ได้วางแผนที่จะทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น และเราไม่ได้ต้องการทำร้ายใคร” โทนีระบุ
โซเฟียกล่าว “ฉันรู้ว่าคนคงจะมองฉันไม่ดี แต่ฉันก็เห็นว่าโทนี่ไม่มีความสุขเลย” สาวยูเครนบอก
โทนีกล่าว “แต่สุดท้ายกลายเป็น โซเฟีย ที่เข้ามาอยู่ในชีวิตของผม และเป็นอะไรที่ผมจะต้องรู้สึกขอบคุณไปทั้งชีวิต” หนุ่มชาวอังกฤษบอก “เราจะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต”
อธิบายเพิ่มเติมนะครับ วิถีครอบครัวของคนอังกฤษเนี่ย การรับชาวต่างชาติเข้าไปอาศัยอยู่กับครอบครัว ถือเป็นเรื่องปกตินะครับ
สมัยที่แอดไปเรียน แอดก็ไปอยู่กับแฟมิลี่ชาวอังกฤษแบบนี้ครับ กินข้าวด้วยกัน ดูหนังทำกิจกรรม บางทีก็ชวนกันออกไปเที่ยว เหมือนครอบครัวเดียวกันเลยครับ เจ้าของบ้านก็ได้ค่าเช่าจากเรา พร้อมสิทธิ์พิเศษจากรัฐ อาจได้ลดภาษีหรืออะไรต่างๆแล้วแต่โครงการๆไปครับ
กรณีนี้ก็เหมือนกันครับ รัฐบาลอังกฤษมีโครงการรับผู้ลี้ภัยชาวยูเครน โดยให้ผู้ลี้ภัย ไปพักอาศัยอยู่กับครอบครัวคนอังกฤษครับ
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
