24 พ.ค. 2022 เวลา 08:24 • ข่าวรอบโลก
ถึงคราว แม่ไก่ตกงาน
🐔 ผลการศึกษาจาก University of Oviedo 🐔 ประเทศสเปนบอกไว้ว่าอุตสาหกรรมปศุสัตว์อย่างการเลี้ยงไก่ ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมถึง 18 ด้าน เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลือง การทำลายหน้าดิน รวมไปถึงสารเคมีบางส่วนยังย้อนกลับมาทำลายสุขภาพของผู้เลี้ยงด้วย
เพราะการเลี้ยงไก่ไข่ในระบบอุตสาหกรรมจะเน้นปริมาณของไข่มากกว่าสุขลักษณะที่ดี ดังนั้นไก่จำนวนมากจึงต้องเบียดกันในกรงขนาดเล็ก ที่ตัวมันเองยังไม่สามารถกางปีกออกได้ด้วยซ้ำ แถมยังมีปัญหาเรื่องยาปฏิชีวนะที่ใช้ในการเร่งโต ไก่ตัวผู้ที่โดนฆ่าตายเพราะไร้ประโยชน์ รวมไปถึงเรื่องแรงงานในฟาร์มอีก
เรียกว่า กว่าจะได้ไข่หนึ่งฟองเดียว กระทบไปทั้งระบบอุตสาหกรรม
ด้วยเหตุนี้ Josh Tetrick และ Josh Balk สองซีอีโอของ JUST และทีมงาน จึงร่วมกันหาทางออกที่จะทำให้เราได้กินอาหารที่ดี อร่อยเทียบเท่าไข่ได้โดยที่ไม่ต้องทำลายโลกมากเกินไปนัก
1
เพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนนับล้านบนโลกที่ยังต้องพึ่งพาไข่ในการประกอบอาหารในทุกๆ วัน ด้วยการลงไปทำงานร่วมกับเกษตรกรผู้เชี่ยวชาญเรื่องเกษตรกรรมยั่งยืน จนค้นพบว่าจริงๆ แล้วมีพืชอยู่ชนิดหนึ่งที่อยู่คู่กับเรามายาวนานกว่า 4,000 ปี อย่างถั่วเขียวที่เมื่อนำมาผสมนิดปรับหน่อยก็ได้ออกมาเป็นไข่แล้ว!
“คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเชื่อว่าเราจะสามารถทำอาหารที่ดีต่อสุขภาพและยั่งยืนให้อร่อยและเข้าถึงได้ นั่นทำให้คนส่วนใหญ่ไม่กล้าลองอาหาร plant-based พวกเราเลยพยายามที่จะเปลี่ยนความคิดนั้น ด้วยการสร้างระบบอาหารที่จะทำให้ผู้คนเข้าถึงการกินดีได้แบบง่ายๆ” ทีม JUST กล่าว
หลักการของ JUST คือการใช้ถั่วเขียวสกัดออกมาให้ได้โปรตีน ผสมกับเลซิตินชนิดผงจากถั่วเหลือง น้ำมันคาโนลา หอมใหญ่บด และสารสกัดจากขมิ้นเพื่อให้ได้สีเหลืองธรรมชาติเหมือนไข่ บรรจุในขวด เทลงกระทะพร้อมปรุงได้ทันทีโดย ไม่ต้องมาตีไข่ให้เสียเวลา
แล้วยังเอามาทำอาหารได้หลากหลายทั้งออมเล็ตนุ่มฟู ชุบขนมปังทำเฟรนช์โทสต์ ผสมแป้งวาฟเฟิลหรือผัดกับข้าวผัดก็ยังได้ โดย JUST Egg 3 ช้อนโต๊ะมีปริมาณเท่ากับไข่ไก่ 1 ฟอง ให้โปรตีนที่ 5.6 กรัม เทียบกับไข่จริงที่โปรตีน 6.3 กรัม โดยมีข้อดีคือไร้คอเลสเตอรอล และไม่มีกรดไขมันชนิดอิ่มตัว
โดยเสียงจากผู้ที่เคยทดลอง JUST Egg ส่วนใหญ่ก็เป็นไปในทางเดียวกันว่ารสชาติของเจ้าไข่ถั่วเขียวนี่แทบจะไม่ต่างจากไข่ปกติเลย แต่ก็มีข้อเสียอยู่นิดหน่อยคือใครที่ชอบไข่แบบนุ่มนิ่มกึ่งสุกกึ่งดิบก็อาจจะไม่เอ็นจอยกับ JUST Egg มากนัก เพราะมันยังเป็นอาหารที่ไม่สามารถปรุงดิบได้ และมีเนื้อสัมผัสเบากว่าไข่ทั่วไปนิดหน่อย แต่ก็ถือเป็นทางเลือกที่ใกล้เคียงกับไข่จริงๆ มากทีเดียว
ในขณะนี้ร้านอาหารและร้านเบเกอรี่มากกว่า 30 ร้านในอเมริกาก็เริ่มหันมาใช้ JUST Egg ในการประกอบอาหาร และมีแนวโน้มที่จะขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ เช่น ร้าน Veggie Grill ในสหรัฐที่นำไข่ถั่วเหลืองมาทำเป็นเบอริโต้ หรือ Bareburger ในนิวยอร์กที่เพิ่งเพิ่มเมนูอาหารเช้าแบบใหม่ให้อร่อยด้วยไข่ JUST Egg เนื้อ Beyond Meat และชีสไม่ใช้นมไว้เอาใจสายวีแกน
🇩🇪 ข้ามฝั่งมาทางด้านประเทศเยอรมัน 🇩🇪
จากข้อมูลของสำานักงานสถิติประจำา ประเทศเยอรมนี (Statistische Bundesamt) เปิดเผยว่า ปี 2021 เยอรมนีบริโภคไข่ไก่ทั้งสิ้น ที่ 19.7 พันล้านฟอง หรือเฉลี่ย 239 ใบ/คน
โดย ปัจจุบันผู้บริโภคชาวเยอรมันให้ความสำคัญกับ สวัสดิภาพของสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์ที่ใช้เป็นอาหาร มนุษย์ (Animal Welfare) เป็นอย่างมาก จึงเดิน หน้าผลักดันมาตรฐานการเลี้ยงไก่แบบไม่ใช้กรงหรือ “Cage Free” เพื่อให้ไก่สามารถมีอิสระและเดินได้
ซึ่งแน่นอนว่าการเลี้ยงแบบปล่อยอิสระ อาจ ทำาให้ไก่ที่เลี้ยงมีโอกาสสัมผัสเชื้อโรคในธรรมชาติ และนำากลับมายังเล้าไก่ได้ จนทำาให้อายุไข่ไก่ที่เลี้ยง ลดลง ต้องใช้ยาเพิ่มขึ้นได้
นอกจากนี้ จากรายงานของมหาวิทาลัยโคเปนเฮเกน เปิดเผยว่า 85% ของ ไก่ที่เลี้ยงทั้งหมดในเยอรมนี ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงในรูปแบบใดก็มักจะประสบปัญหาเกิดความเสียหาย ต่อกระดูกอกของแม่ไก่ได้
ซึ่งปัญหาดังกล่าวเกิดจากการพัฒนาพันธุ์เพื่อให้ออกไข่เยอะหรือให้ออกไข่ที่มี ขนาดใหญ่ขึ้น โดยปัญหานี้ไม่ได้เกิดเฉพาะในช่วงเทศกาลอีสเตอร์เท่านั้น
ภายหลังจากที่มีการส่งสินค้าโปรตีนทางเลือกออกมาขายมากขึ้น เพื่อทดแทนเนื้อวัวหรือนมวัว
ปัจจุบันได้เริ่มมีการส่งสินค้าไข่ไก่ทางเลือกออกมาด้วยเช่นกัน ซึ่งจากรายงานของบริษัทที่ปรึกษา BCG และ Blue Horizon เปิดเผยว่า “รอยเท้านิเวศน์ หรือ The Ecological Footprint” (ความต้องการ พื้นที่ในเลี้ยงไก่เพื่อให้ได้มาซึ่งไข่) ของการได้มาซึ่งไข่ไก่ตามปกติสูงกว่าไข่ไก่ทางเลือกที่ทำาจากถั่วเขียวถึง 3 เท่า
โดย BCG คาดการณ์ว่า ในปี 2035 จะมีการบริโภคไข่ทางเลือกสูงถึง 8 ล้านฟอง ในขณะที่ บริษัท วิจัยตลาด Insights คาดการณ์ว่า ยอดจำาหน่ายไข่ทางเลือกในปี 2026 จะอยู่ที่ 1.5 พันล้านเหรียญสหรฐั ฯ ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีบริษัท Start Ups กำาลังค้นคว้าผลิตไข่ขาวโปรตีน ที่มีลักษณะความคล้ายคลึงกับไข่ขาวธรรมชาติ
ผู้เชี่ยวชาญได้คาดการณ์ว่า ขณะนี้มีถึง 65 บริษัท ที่กำลังค้นคว้าและวิจัยเกี่ยวกับไข่ไก่ทางเลือก โดยล่าสุดบริษัท Nestlé ได้ส่งไข่ทางเลือกในนาม vEGGie ออกสู่ตลาด โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้น จากโปรตีนของถั่วเหลือง
นอกจากนี้ ยังมี Start Ups อีกจำานวนมากที่กำลังพัฒนาไข่ทางเลือกอยู่ อย่าง บริษัท Perfeggt จากกรุงเบอร์ลิน ก็ได้ใช้โปรตีนจากถั่วปากอ้าเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตไข่ทางเลือก
ด้านนาง Tanja Bogumil, CEO ของบริษัท Perfeggt เปิดเผยว่า“ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องคิดถึงการ บริโภคไข่ไก่กันใหม่ ไช่แบบปราศจากไก่ ที่ทำจากแหล่งวัตถุดิบที่เป็นโปรตีนจากพืช และใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมขั้นสูงในการผลิต” โดยในเวลานี้ ตลาดไข่ทางเลือกนั้นถือว่าใหญ่มาก
นาย Bernd Becker ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Perfeggt กล่าวว่า “เราหาส่วนผสมระหว่างโปรตีนกับน้ำามันจากพืชที่สมบูรณ์แบบ เพื่อ ผลิตไข่ทางเลือกให้มีลักษณะใกล้เคียงกับไข่ธรรมชาติให้มากที่สุด” โดยก่อนหน้านี้นาย Becker เคย เป็นผู้ร่วมพัฒนาและค้นคว้าการผลิตเนื้อทดแทนให้กับบริษัท Rügenwalder Mühle มามากกว่า 25 ปี
และปัจจุบัน Perfeggt ตั้งเป้าว่า ไข่ทางเลือกของบริษัทจะต้องนำาไปทอด อบขนม และเป็นส่วนผสม หรือตัวเชื่อมในการประกอบอาหารได้เหมือนกับไข่ธรรมชาติ ซึ่ง บริษัทฯ ตั้งใจที่จะเปิดตัวสินค้าในกลุ่ม ร้านอาหารเป็นกลุ่มแรก ๆ
โดยสินค้าของ Perfeggt มีความแตกต่างจากสินค้าของ Just Egg ตรงที่ส่วน ผสมของวัตถุดิบของ Perfeggt ไม่จำเป็นต้องได้รับการอนุญาตจาก EU เพื่อขอการรับรองด้าน “Novel Food” จนถึงเวลานี้บริษัทสามารถสะสมเงินทุนสนับสนุนได้สูงถึง 3.5 ล้านยูโร จากเหล่าผู้บริหาร Start Ups ชั้นนำาอย่าง Gorillas, Just Spice, MyMuesli และนักลงทุนอย่าง Lea-Sophie Carmer และ Verena Pausder เป็นต้น
โฆษณา