12 มิ.ย. 2022 เวลา 10:59 • สุขภาพ
ที่เราเคยได้ยินกันมาว่าการดื่มน้ำมีความสำคัญต่อระบบการทำงานของร่างกาย
และควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 6-8 แก้วถึงจะเรียกได้ว่าดื่มน้ำเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายนั้น
เราก็ควรจะรู้ด้วยนะคะว่า ช่วงไหนที่ควรดื่มน้ำมากๆถึงจะมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างเต็มที่
เรามาดูกันเลยค่ะ ว่าช่วงไหนที่เราควรจะดื่มน้ำมากๆกันบ้าง
1️⃣ หลังตื่นนอน
ภาพจาก Vichaiyut.com
เมื่อเราตื่นนอนควรดื่มน้ำอย่างน้อย 1 แก้ว เพื่อเติมน้ำและสร้างความสดชื่นให้กับร่างกายของเราค่ะ
*เคล็ดลับ*
ควรดื่มน้ำทันทีที่ตื่นนอนไม่ต้องแปรงฟันเพราะแบคทีเรียในช่องปากจะช่วยให้การทำงานของระบบขับถ่ายดีขึ้นค่ะ
2️⃣ ขณะหรือหลังออกกำลังกาย
ภาพจาก Pixabay.com
ในขณะออกกำลังกายและหลังการออกกำลังกายควรจิบน้ำเล็กน้อยไปเรื่อยๆไม่ควรกินทีเดียวจนหมดแก้วใหญ่ๆเพราะจะเกิดการจุกเสียดได้ค่ะ
การจิบน้ำระหว่างการออกกำลังกายและหลังการออกกำลังกายนอกจากจะช่วยให้ประสิทธิภาพของการออกกำลังกายดีขึ้นแล้วยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการเวียนศีรษะและหน้ามืดขณะออกกำลังกายได้อีกด้วย
*เคล็ดลับ*
ดื่มแค่น้ำเปล่าธรรมดาๆก็พอค่ะไม่จำเป็นต้องเป็นเกลือแร่เพราะน้ำเกลือแร่มีน้ำตาลสูงเหมาะกับคนที่ออกกำลังกายหนักมากๆเท่านั้น
และควรดื่มน้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิห้องไม่ควรดี่มน้ำอุ่นหรือน้ำร้อนเพราะจะทำให้ร่างกายของเรามีอุณหภูมิสูงขึ้นค่ะ
3️⃣ก่อนกินอาหาร 30 นาที
ภาพจาก Pixabay.com
การดื่มน้ำก่อนกินอาหารจะเป็นการกระตุ้นเตือนร่างกายว่า"นี่ๆเราจะกินอาหารเข้าไปแล้วนะ พวกเธอเตรียมพร้อมหรือยัง" เพื่อให้ระบบย่อยอาหารเตรียมพร้อมในการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ
1
4️⃣ก่อนอาบน้ำ
1
ภาพจาก Pixabay.com
การดื่มน้ำ 1-2 แก้ว ก่อนอาบน้ำ จะช่วยลดความเสี่ยงภาวะความดันตกระหว่างอาบน้ำอุ่นได้ และช่วยป้องกันอาการหน้ามืด เพราะเมื่อเราอาบน้ำอุ่นเลือดจะไหลเวียนไปตามผิวหนัง ทำให้เลือดส่งไปสมองน้อยลงนั่นเองค่ะ
5️⃣ ก่อนเข้านอน
ภาพจาก Enjoylife young.com
ก่อนนอนควรดื่มน้ำแค่ครี่งแก้วก็เพียงพอแล้วค่ะ บางคนอาจคิดว่าก่อนนอนต้องดื่มน้ำมากๆเพราะร่างกายจะขาดน้ำเป็นเวลานานจากช่วงเวลาที่เรานอนไปหลายชั่วโมง
1
นั่นเป็นความคิดที่ผิดค่ะเพราะขณะนอนหลับร่างกายไม่ต้องการน้ำในปริมาณมากหรอกนะคะ
และการดื่มน้ำมากๆก่อนนอนจะทำให้ปวดปัสสาวะบ่อยครั้งในระหว่างนอนได้ ทำให้เรานอนหลับได้ไม่เต็มที่อีกด้วยค่ะ
6️⃣ เมื่อมีไข้ไม่สบาย
ภาพจาก Pixabay.com
ในช่วงเวลาที่เรามีไข้หรือรู้สึกไม่ค่อยสบายร่างกายของเราจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น
การดื่มน้ำจะช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายและขับความร้อนออกทางปัสสาวะจะช่วยให้เราหายไข้ได้ไวขึ้น
และยังช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ
คนที่มีไข้แต่ดื่มน้ำไม่เพียงพออาจจะใช้เวลาในการหายไข้มากกว่าคนที่ดื่มน้ำมากกว่า
*เคล็ดลับ*
ไม่ควรดื่มน้ำครั้งเดียวหมดแก้วควรค่อยๆจิบน้ำไปเรื่อยๆเพื่อให้ร่างกายค่อยๆลดอุณหภูมิลงด้วยการขับความร้อนออกทางปัสสาวะ
7️⃣ เมื่อรู้สึกอ่อนเพลีย
ภาพจากwomen.trueid.net
เมื่อเกิดอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยเบื่อ หงุดหงิดง่าย อาจเป็นสัญญาณของภาวะขาดน้ำก็ได้ค่ะ
การดื่มน้ำเย็นๆสักแก้วจะสามารถช่วยให้อาการต่างๆเหล่านี้ลดลงได้
1
โดยการดื่มน้ำที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกายในแต่ละวันจะช่วยไม่ให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะขาดน้ำที่จะทำให้เราเกิดอาการต่างๆดังกล่าวค่ะ
*เคล็ดลับ*
ไม่ควรดื่มน้ำรวดเดียวแล้วหยุดให้ค่อยๆจิบค่อยๆดื่มไปเป็นช่วงๆให้ตลอดทั้งวันจะดีกว่าค่ะ
8️⃣ เมื่อต้องเฝ้าผู้ป่วยหรืออยู่ใกล้ชิดผู้ป่วย
ภาพจาก puramun.co.th
ควรจะดื่มน้ำให้บ่อยๆเพื่อช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้น การดื่มน้ำจะช่วยลดความตึงเครียดและอาการอ่อนเพลียได้ค่ะ
ภาพจาก Pixabay.com
เราควรดื่มน้ำในเวลาที่จำเป็นไม่ควรปล่อยให้ร่างกายรู้สึกหิวน้ำขึ้นมาบ่อยๆเพราะถ้าเราดื่มน้ำเมื่อหิวแปลว่าร่างกายของเราเข้าสู่ภาวะขาดน้ำ(Dehydration)แล้วล่ะค่ะ
ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอาการเวียนหัว คอแห้ง ปากแห้ง การตัดสินใจไม่ฉับไว ควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยอยู่ การทำงานของระบบเผาผลาญแย่ลง ฮอร์โมนทำงานผิดปกติ ปัสสาวะมีสีเข้ม การนอนหลับผิดปกติได้ค่ะ
ดังนั้นถ้าเราดื่มน้ำให้ถูกเวลาก็จะทำให้สุขภาพของเราดีขึ้นได้จริงๆค่ะ... ลองทำดูกันนะคะทุกคน😊
อ๊ะอ๊ะ! แต่แบบนี้อย่าหาทำนะคะ😅
ภาพจากเพจนัดเป็ด
ขอบคุณที่แวะมาทักทาย...ติดตาม...และให้กำลังใจนะคะ😍💕
ขอบคุณข้อมูลจาก Sanook.com🙏😊
#แม่มณีมีเรื่องเล่า😊มีสาระบ้างไม่มีสาระบ้าง#เอาแบบที่สบายใจ😊

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา