26 พ.ค. 2022 เวลา 12:11 • คริปโทเคอร์เรนซี
สรุป 5 ความเข้าใจผิดมากที่สุดเกี่ยวกับ Blockchain พร้อม use case นอกเหนืออุตสาหกรรมการเงิน
2
Blockchain เทคโนโลยีการประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ ทำให้สามารถทำธุรกรรมต่างๆได้โดยไม่ต้องอาศัยคนกลาง เพราะนำมาซึ่งความปลอดภัยและมีความน่าเชื่อถือ แต่ด้วยความที่ Blockchain เป็นเทคโนโลยีใหม่ จึงมีหลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้ บทความนี้เราจึงได้มีการสรุปความเข้าใจผิดมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่
2
  • เข้าใจผิดว่า Blockchain คือ Bitcoin
1
ในความจริงแล้ว Bitcoin เป็นเพียงสกุลของ Cryptocurrency หนึ่งใน Blockchain เท่านั้น และเทคโนโลยี Blockchain ยังสามารถใช้งานด้านอื่นได้มากมาย ไม่ใช่เฉพาะ Cryptocurrency
3
  • เข้าใจผิดว่า Blockchain ดีกว่า Database ทั่วไป
Blockchain สามารถใช้งานได้ดีสำหรับระบบที่ต้องใช้การแลกเปลี่ยนข้อมูลต่างๆ และ เพิ่มความน่าเชื่อถือ แต่หากต้องการระบบที่ต้องการการประมวลผลอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง Database ทั่วไปจะดีกว่า
5
  • เข้าใจผิดว่า Blockchain ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
Data Structure ของ Blockchain ทำให้ Data ไม่สามารถลบออกได้ แต่ Blockchain สามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อมากกว่า 50% ของ networkcomputing power ถูกควบคุมและ Transaction ก่อนหน้าทั้งหมดถูกเขียนใหม่
2
  • เข้าใจผิดว่า Blockchain มีความปลอดภัย 100%
2
Blockchain ใช้โครงสร้างข้อมูล รูปแบบ immutable เช่น protected cryptography ความปลอดภัยของระบบ Blockchain นั้นจึงขึ้นอยู่กับ Block ที่อยู่ติดกัน ซึ่งทำให้การแก้ไขข้อมูลใน Block ใด ๆ จะส่งผลกระทบต่อข้อมูลของ Block ที่เชื่อมโยงในภายหลังตลอดทั้งชุดข้อมูล
8
  • เข้าใจผิดว่า Blockchain เป็น “Truth Machine”
Blockchain สามารถตรวจสอบธุรกรรมและข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่ทั้งหมดและดั้งเดิมใน Blockchain ได้ แต่ไม่สามารถประเมินได้ว่า Input จากภายนอกนั้นถูกต้องหรือเป็นความจริง
5
  • Blockchain กับประโยชน์ด้าน Supply Chain
1
นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ที่ไม่ใช่แค่เพียงในอุตสาหกรรมการเงิน แต่สามารถใช้ประโยชน์ในด้านศุลกากร รวมถึงการบริหารจัดการ Supply Chain ได้อีกด้วย
สำหรับประโยชน์ด้านศุลกากร สามารถที่จะใช้เทคโนโลยี Blockchain ในกระบวนการกำกับดูแลของศุลกากรเพื่อปรับปรุงการปฏิบัติตามกฎระเบียบ รวมถึงสามารถใช้ในการอำนวยความสะดวกทางการค้า และการตรวจจับการฉ้อโกง ด้านกฎระเบียบในธุรกิจ E-commerce, การค้าที่ผิดกฎหมาย, การหลีกเลี่ยงภาษีอากรและภาษีมูลค่าเพิ่ม, การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา, การฟอกเงิน และอาชญากรรมทางการเงินอื่นๆ
3
ขณะที่ความสามารถในการปรับปรุงประสิทธิภาพของ Supply Chain นั้น สามารถลดตัวกลางและเอกสาร รวมไปถึงช่วยปรับปรุงความสามารถในการคาดการณ์ ที่มาจากข้อมูลที่เก็บแบบ Real-time อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกใน Supply Chain มากขึ้น โดยเฉพาะการช่วยบริหารจัดการ Supply Chain ระหว่างประเทศ เช่น
ทำงานบน Distribute Platform ทำให้ผู้เข้าร่วมแต่ละ Node มีสิทธิ์เข้าถึง Ledger เดียวกันได้
มีความน่าเชื่อถือ เพิ่มความไว้วางใจระหว่างแต่ละฝ่ายที่ทำธุรกรรมทางธุรกิจและแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกันโดยไม่มีคนกลาง อีกทั้งยังรับประกันความสมบูรณ์ของ
ข้อมูลและให้หลักฐานการตรวจสอบอย่างครบถ้วน
1
โกงได้ยาก เนื่องจากธุรกรรมได้รับการตรวจสอบและอนุมัติโดยฉันทามติของผู้ที่อยู่ใน Chain เดียวกัน ทำให้ฉ้อโกงได้ยาก
2
ติดตามสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดใน Blockchain โดยทุกคนรวมถึงหน่วยงานกำกับดูแล สามารถติดตามหรือตรวจสอบธุรกรรมที่เกิดขึ้นได้
2
อย่างไรก็ตามการใช้งาน Blockchain ในปัจจุบันก็ยังมีความท้าทายเนื่องจากความสามารถในด้าน Scalability ที่มีข้อจำกัด อีกทั้งเครือข่ายและแพลตฟอร์ม Blockchain แต่ละ Chain นั้นไม่เชื่อมต่อกันและมีปัญหาทางกฎหมายอยู่
1
เช่น สถานะทางกฎหมายของธุรกรรม Blockchain และความรับผิดชอบ ด้วยเช่นกัน ดังนั้นในแง่ของการนำไปใช้อย่างแพร่หลาย รวมถึงการยอมรับอย่างเป็นวงกว้างในทุกอุตสาหกรรมยังคงต้องใช้เวลาในการสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ติดตามข่าวสารในโลกธุรกิจ เทคโนโลยี พร้อมบทวิเคราะห์แบบเจาะลึก ในทุกช่องทางของพวกเรา
โฆษณา