27 พ.ค. 2022 เวลา 17:09 • ปรัชญา
ชีวิตของคนเรา มันอยู่กับอารมณ์ มีอารมณ์นำพาไป อยากไปอยากได้นั้น อยากเป็นอย่างนี้ คนนี้ไม่ได้ดังใจ คนนั้นเป็นแบบนี้ เราก็เป็นอีกแบบหนึ่ง ก็เป็นเหมือนกัน คือ ทุกคนก็ล้วนแล้วมีอารมณ์รักชีวิตตนเอง ใครมาติมาว่าก็ไม่ชอบใจ เสียใจ น้อยใจ มันก็เรื่องอารมณ์ที่เกิดขึ้นในตัวตนของตัวเองทั้งนั้น ..
…ลองถามตัวเราเอง ว่าเวลาเรามีอารมณ์ ไม่ชอบใจไม่พอใจ ตัวตนของเราเป็นอย่างไร ..เราสามารถที่จะควบคุมจิตใจเราให้ปกติ ..ไม่มีอารมณ์ไม่ชอบใจไม่พอใจได้เรื่องราวอะไรบ้าง แม้แต่อารมณ์ที่เราพอใจ..เราก็เอาขึ้นมาดู เอามาพิจารณา ค่อยดูอารมณ์ วิธีที่เราจะดู..อารมณ์ เราต้องอาศัย จิตของเรา ดู..ดูด้วยจิตที่นิ่ง ..
คราวนี้..คนที่เค้าฝึกสติมาดี รักษาจิตที่นิ่งได้..เค้าก็จะแยกแยะเรื่องราวของอารมณ์ได้ จะค่อยๆ สังเกตุอารมณ์..นั้น..เค้าก็มีอำนาจ..ทำให้เกิดอะไรขึ้นมากมายในเรือนกายที่เราอาศัย ทำให้สมองมึนงง เบลอ.บ้าง ทำให้เราไม่สามารถ..ทำใจให้มันนิ่ง ยิ่งเราฝืนอารมณ์ ให้นิ่ง ..ก็มีปวดหัว ตัวร้อน เจ็บหน้าอก ปวดเมื่อย ..ไม่อยากทำนั้นทำนี่ เบื่อ..นั้นก็ด้วยอารมณ์ทั้งนั้น เค้าว่า..เราใช้อารมณ์เหมือนเราไปเสพของมึนเมา
ในเมื่อชีวิตประจำวัน เมื่อยังใช้ชีวิตมีลมหายใจอยู่ มันก็ต้องคิดนึก ในเรื่องราวที่เราได้ยินได้ฟัง ต้องไปสัมผัสตรงนั้นตรงนี้ ก็มีอารมณ์ชอบใจไม่ชอบใจ เกิดขึ้น เหมือนเราไปกินข้าว เรากินแล้วเกิดไม่อร่อย ไม่ชอบใจ นึกติเตียน ..มันก็เป็นอารมณ์เกิดขึ้นมาตลอด แต่เราก็ไม่รู้ว่า นั้นคือ อารมณ์ เพราะเราใช้เค้าอยู่ จนเคยชิน
..มีอารมณ์อะไรเกิดขึ้น เราก็ไม่เคยที่จะคลี่คลายอารมณ์ของตนเอง มีแต่ปปล่อยให้จิตหลงใหลไปตามอารมณ์นึกคิดไปตลอด จิตเราก็เป็นทาสผู้ที่ซื่อสัตย์ต่ออารมณ์ ทำไปตามที่อารมณ์เกิดขึ้นมาปรุงแต่ง สั่งให้จิตเราต้องทำตามอารมณ์โดยไม่หยุดพัก บางครั้งกายนั่งพักนอนพัก จิตก็ไม่ได่พักตามกาย อารมณ์ก็ไหลมาคิดเรื่องนี้ คิดไปเรื่อย เรื่องที่คล้องกรรมกับคนนั้นคนนี้ คนที่เราชอบไม่ชอบ .มันเป็นอารมณ์เสียตลอดเวลา
เมื่อเรารู้ว่าเรายังเป็นทาสของอารมณ์ เบื้องหลังของอารมณ์ก็คือกรรม
ชีวิตที่เป็นอยู่ของเรา ตื่นมาก่อนไปทำงาน ต้องอาศัยเรือนกายพ่อแม่ไปทำงาน ต้องใช้กายพ่อแม่ ก่อนออกจากบ้าน ก็เอากายพ่อแม่มาสวดมนต์ไหว้ พระ ทำบุญหน้าพระ อุทิศส่วนกุศลขอขมา.. เราก็พยายาม แปลงกายที่มีแต่กรรม ให้กายนั้นมีบุญ
ส่วนตอนเย็น กลับเข้าบ้าน ก็เข้าห้องพระ ไปกราบพระ บอกกล่าว วันนี้ ข้าพเจ้าเอากายพ่อแม่ไปสร้างกรรมมา ต้องมีอารมณ์ มีเผลอสติ ใช้อารมณ์ ไปตามความเคยชินบ้าง เมื่อว่างจากการทำเรื่องนั้นเรื่องนี้ เราก็มาสวดมนต์ นั่งปฏิบัติ ..จิตเราก็ได้ผ่อนคบี่คลายอารมณ์ที่สะสม ไปเก็บมาที่เราใช้กายไปทำมาหากิน ก็ทำเป็นกิจวัตรเป็นนิจสิน เรื่องราวอารมณ์ที่จะเข้ามา ให้จิตมีอารมณ์มีสร้างกรรม มันก็น้อยลงไปๆเรื่อย
เรื่อยการเจ็บป่วยของกายมันก็มี แต่ก็อาศัยการทำบุญสร้างกุศลปฏิบัติ อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร เวลาตรวจสุขภาพของบริษัท เค้าก็บอกให้ไปพบหมอด่วน ..ก็ไม่เคยไป..เพราะไม่รู้ว่าหมอด่วนเค้าอยู่ที่ไหน เลยไม่ไปหา..เค้าบอกว่าเป็นมะเร็ง.เราก็คือว่าเป็นเรื่องของหมอเค้า เรื่องของเราก็คือเรามีกรรม เราก็อาศัยการทำบุญสร้างกุศล ปฏิบัติธรรม ชดใช้กรรมให้เจ้ากรรมนายเวรไป ก็ยังทำงานได้เป็นปกติ..ไม่ได้ไปพึง่พิงหมอ
เพราะเมื่อเราคิดว่าเราเจ็บป่วย เพราะเรามีกรรม เราก็ปฏิบัติธรรมขึ้น..ก็ใช้เวลานาน กว่าเจ้ากรรมนายเวรเค้าก็ปรากฏภาพให้เห็น ..ว่าที่เราเจ็บป่วย เพราะไปทำอะไรเค้าไว้ ..นั่นก็ทำให้เราได้เข้าใจเรื่องเจ้ากรรมนายเวรมากขึ้น เห็นความสำคัญของการประพฤติปฏิบัติธรรมตามรอยคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีความสำคัญแก่จิตของเรา
อีกทั้งได้เรียนรู้จิตที่เค้าไม่มีกายมนุษย์ เค้าลำบากเพราะไม่สะสมบุญเมื่อมีชีวิตอยู่ นั่นก็ทำให้เรารักเรื่องราวการสวดมนต์ไหว้พระสร้างบุญกุศลประพฤติปฏิบัติ ..เพราะมันเกิดให้ประจักษ์ ว่าช่วยให้จิตเราหนีกรรมได้
เรื่องชีวิตควรเป็นอย่างไรนั้นมันบอกกันยาก เพราะกรรมหรืออุปสรรคที่จะทำให้เรา เป็นอย่างที่ตั้งใจอยากจะได้ นั้นมันไม่ได้เป็นอย่างที่เราเคยคิด เคยคาดหวังก่อนที่จะใช้ชีวิตรับปิดชอบชีวิตตนเอง คือ ผ่านพ้นวัยเรียนมาแล้ว ต้องทำมาหากินเลี้ยงชีวิตตน แล้วบุคคลที่อยู่ร่วมกัน ยังไงก็ขอให้คิดดีทำดี ก็แล้วกัน ให้ผ่านพ้นอุปสรรค ให้สุขกายสุขใจ
บอกก่อนน่ะ ว่าก่อนจะมาทำอย่างนี้ได้ ก็อยู่กับวงการเหล้ายามานานพอควร เริ่มตั้งแต่สมัยเรียน..ที่มาทำอย่างนี้ได้ เราก็ถือว่าชีวิตช่วงนั้น ต้องชดใช้กรรม ที่เคยกินเหล้าเมายามาก่อน ไม่รู้ชาติไหนเหมือนกันแหละ
มันจึงทำให้เราคิดว่า ต้องกินให้มันเมา จะได้นอนหลับ มันคิดได้แค่นั้นจริงๆ กว่าถอยห่างเค้าได้ ก็อาศัยเวลาอดงดช่วงเข้าพรรษา ค่อยๆถอยห่างมา ..ทีละนิด.. นานไปเพื่อนชวนกินเหล้า หายไปหมด ก็เลยรอดตัวเรื่องเหล้ามาได้
เรื่อยเหล้านี่ พระที่นับถือ ท่านบอกให้เลิก ..จนท่านบอกว่า ฉันไม่เคยขอใครเท่าเราเลย ก็เลยบอกท่านว่า ถ้าเรารับปาก ก็เหมือนเราโกหกท่าน เพราะชีวิตมันมีเรื่องราวที่พัวพันพวกนีอยู่ ก็เลยบอกท่านว่า ผมจะพยายามไม่กินมัน ..แล้วเราก็พยายามทำไป เพื่อนกินเหล้า เรากินน้ำเปล่า ..ก็ทำไปเรื่อยๆ ก็พยายามไม่กินมัน พระที่นับถือท่านบอกว่า ..ฉันเห็นคนกินเหล้า มันตกนรกกันทั้งนั้น…
โฆษณา