6 มิ.ย. 2022 เวลา 07:46 • สุขภาพ
แต่งไปเรื่อย เรื่อง : หน้ากาก
ในที่สุด หลังจากเวลาอันยาวนาน มาตราการที่ทำกันมาเป็นปีๆ ก็จะถูกยกเลิกใช้
แม้จะยังมีฝุ่นขนาดเล็ก และเชื้อไวรัสในอาการ
แต่เราก็จะได้ถอดหน้ากากเสียที
ค่าใช้จ่ายพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาในชีวิตจะได้ลดลง
ไม่ต้องกังวลว่าถอดๆ ใส่ๆ แล้วสายจะขาด แล้วเอามือมานั่งกดให้มันปิดปากเดินไปไหนมาไหนเหมือนไอ้โง่
แถมยังต้องเมื่อยแขน และเสียตังไปซื้อใหม่
อากาศในเมืองแม้จะเต็มไปด้วยฝุ่นควันมลภาวะ แต่ก็รู้สึกชื่นใจที่ส่วนล่างของหนังหน้าได้มาสัมผัสกับอากาศภายนอกอีกครั้ง
หน้าตาเต็มรูปของหนุ่มหล่อ สาวสวยที่ไม่ต้องไม่จ้องแต่ตาแล้วนำมามโนเอง
แม้ผมจะไม่รู้ว่าการถอดหน้ากากมันจะมีผลต่อเศรษฐกิจขนาดไหน
แต่ก็คิดว่ามันจะทำให้ผู้คนรู้สึกสดชื่อแบบผมนี่เอง
หลังจากเดินไปมาด้วยบรรยากาศหนังหน้าเดิมๆ เพิ่มเติมคือรอยเหี่ยวย่น
ผมกลับมาไอ และเจ็บคอ
ดูท่าว่าตอนนี้ร่างกายเราจะไม่พร้อมสู้ฝุ่นควันและมลภาวะเหมือนในสมัยก่อน
อาจจะเป็นเพราะว่าเราได้รับการปกป้องมากเกินไปก็ได้
ผ่านไปวัน 2 วันอาการก็ดีขึ้นตามปกติ
แต่จู่ๆ ฟ้าฝนก็ตกหนัก แล้วกับมีใครผิดคำสาบานขอให้ฟ้ารั่ว
เสียเปรี้ยงปร้างของสายฟ้า และลมกรรโชก ทำให้ผมต้องมานั่งน้ำมูกไหลอีกครั้ง
อาจจะด้วยภูมิแพ้กำเริบด้วย ทำให้หายใจไม่ค่อยสะดวก
น้องผมที่สรรหายามาให้กินก็คอยพร่ำบอกให้ดูแลตัวเองดีๆ
มันยังคงใส่หน้ากากไปไหนมาไหนตลอดเวลา
บางทีมันก็ใส่ในบ้านด้วยซ้ำ และยังพูดย้ำๆ เรื่องทำไมภาครัฐให้ถอดหน้ากาก
ก็เอาเถอะ คนมันระแวงมากก็ช่วยไม่ได้
ฝนตกแบบนั้นอยู่ 2 วัน
น้ำมูกมากมายยังคงมาตามปกติ ผมมีไข้ขึ้น
ดูท่าว่าจะป่วย น้องคนเดิม เพิ่มเติมคือเชียร์ให้แยงจมูกก็มาบอกผมทุกวัน
แต่ผมไม่แยงหรอก พ่อแม่ยังไม่เคยได้ไปจับส่วนนั้นเลย จะเอาไม้อะไรก็ไม่รู้มาแยงได้ไง
เมื่อไม่มีฝน ฝุ่นละอองก็กลับมาเหมือนเดิม
ผมยังป่วยเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือไอและเจ็บคอ
น้องชายบอกให้ไปหาหมอ แต่เงินทองสมัยนี้มันหายาก
แค่ป่วยปกติ เดี๋ยวมันก็หายเอง
วันนี้ผมเริ่มเวียนหัว รู้สึกเหมือนบ้านหมุน
แม้ไม่ได้ออกกำลังกายหรือลุกขึ้นเร็วๆ
บางครั้งก็รู้สึกหน้ามืด
สุดท้ายน้องชายทนไม่ไหว ควักเงินในกระเป๋าส่งผมไป โรงพยาบาล
ชีวิตแจ๊คพ๊อตแตก ผมเป็นผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อโควิดช่วงที่เขาให้ถอดหน้ากากได้
รู้สึกเหมือนโลกมันพังทลาย ตัวเองที่รอดมาได้ทุกซีซั่น ทำท่าจะมาตายตอนจบ
แต่เห็นว่าหลังๆ โควิดไม่น่ากลัวเท่าไร วัคซีนก็ฉีดแล้ว
แถมจำนวนคนตายด้วยโรคอื่นๆ ก็มีเยอะกว่า
ยังไงผมอยู่ในมือหมอแล้ว อีกไม่นานก็น่าจะหาย
ผมได้นอนโรงพยาบาล นิ้วมีที่วัดออกซิเจน
ผมได้ใส่หน้ากากอีกครั้ง แต่คราวนี้มันเป็นหน้ากากใส
โลกของผมถูดตัดขาดจากภายนอก มีเพียงหน้าจอมือถือเท่านั้น
อาจจะเพราะไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย
ผมจึงค่อนข้างง่วงบ่อยมาก และหลับได้เรื่อยๆ
รู้สึกราวกับเนื้อหนังของตัวเองจะละลายจมไปกับเตียงของคนไข้
หมอที่นานๆ เข้ามาที ได้บอกข่าวกับผม
ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจนักว่ามันคือข่าวดีหรือข่าวร้ายกันแน่
เชื้อที่รุกลามกินปอดเริ่มชะลอตัวแล้ว และคาดว่าน่าจะหยุดในไม่ช้า
แม้ว่าสถานการณ์ของปอดจะอยู่แบบเจียนไปเจียนอยู่ก็ตาม
ถ้าพูดง่ายๆ ภาษาชาวบ้าน แม้ผมไม่ตาย
แต่ผมคงไม่สามารถใช้ชีวิตแบบคนปกติได้อีกแล้ว
แน่นอนต้องใส่หน้ากากตลอดชีวิต ต้องไปอยู่ในที่อากาศดีๆ ถ่ายเท
ที่ที่อากาศบริสุทธิ์ ฟังแล้วน่าหัวเราะ สมัยนี้มันหาแทบจะไม่ได้แล้ว
ผมกลับมานึกถึงเรื่องที่น้องพูดบ่นบ่อยๆ
ทำไมถึงให้ถอดหน้ากาก
ผมนึกไป ก็มองย้อนถึงตัวเองพร้อมกับอ๊อกซิเจนที่ถูกส่งเข้าปอดโดยเครื่องช่วยหายใจ
จะมีใครต้องมานอนใคร่ครวญถึงตัวเองแบบผมไหมนะ
Martin Zen
โฆษณา