8 มิ.ย. 2022 เวลา 06:42 • การเมือง
ปั่นจนเปรอะ ระวังเหอะ....
จากกรณีคุณพิธา อภิปรายเรื่องงบบำเหน็จบำนาญข้าราชการในการประชุมงบประมาณฯ ที่ผ่านมามั้น...
ปรากฏว่า มีสื่อโซเชียลมีเดียที่เป็นที่นิยมในหมู่ข้าราชการ ซึ่งส่วนมากก็คือเพจเชียร์รัฐบาลเอาไปปั่นให้เป็นประเด็นการเมือง สร้างความเกลียดชัง กันจนเลอะเทอะไปหมด
ข้าราชการบางส่วน รับสารแล้วเชื่อ ก็ไปเม้นท์ตามสื่อออนไลน์อื่นๆ จนปะทะแนวคิดกับชาวบ้านทั่วไป มั่วซั่วไปหมด
...ซึ่งลักษณะที่เป็น ไม่ใช่เรื่องดีเลย ของฝ่ายข้าราชการเอง...
...และเป็นความจงใจบิดเบือนข้อมูลเพื่อหวังผลทางการเมืองจากสื่อที่เชียร์รัฐบาล ที่ขาดความรับผิดชอบมาก...
หากเราย้อนไปฟังคุณพิธาอภิปรายจริงๆ มันค่อนข้างชัดเจนในตัวมันเองอยู่แล้ว ว่าเนื้อหาการอภิปราย ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อปรับลดงบในส่วนนี้ในปัจจุบัน
...คือ ไม่ได้เสนอปรับลดบำเหน็จบำนาญ สวัสดิการของคนที่ได้อยู่แล้ว แต่อย่างใด
เนื้อหาการอภิปราย มุ่งไปที่รัฐบาล ในทำนองว่า
รัฐบาลนั้นมีลักษณะการบริหารที่สร้างรัฐราชการมากจนเกินไป
บางองค์กรก็มีข้าราชการระดับสูงเพิ่มขึ้นมาก จนเป็นภาระค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น
1
โดยนายพิธา อภิปรายอ้างอิงถึงการเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติของงบส่วนนี้ในหลายปีของการอยู่ในอำนาจของนายกลุง
...บริบทเนื้อหาการอภิปรายนั้น มุ่งตีไปที่นายกลุง กล่าวหาว่าอาศัยการเอาใจข้าราชการไว้เป็นฐานเสียงมากจนเกินไป
(หลายปีที่ผ่านมาขึ้นทั้งเงินเดือน และเพิ่มสวัสดิการ)
2
...หรือลักษณะการบริหารบุคคลกรระดับสูง เพื่อเป็นมือเป็นเท้าทางการเมืองมากกว่าคิดถึงประสิทธิภาพในการทำงาน
...ไม่มีส่วนใดในเนื้อหาการอภิปรายเลย ที่บอกให้ลดค่าใช้จ่ายที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
...เนื้อหากล่าวถึงว่าจะบริหารให้มีลักษณะแบบนี้ต่อไปในอนาคตไม่ได้ มันจะเป็นภาระ มันก็เท่านั้น....
แต่สิ่งที่สื่อในฝั่งรัฐบาลทำ กลับออกมาอีกทาง
โดยบิดเบือนไปว่า การอภิปรายมุ่งไปที่การตัดสวัสดิการต่างๆในปัจจุบัน
...ข้าราชการได้ฟัง ได้อ่านก็ย่อมไม่พอใจ เพราะมันเป็นผลประโยชน์ที่ควรได้ของพวกเขาเองทั้งนั้น
และมีการโยงไปอีกว่า ผู้อภิปรายต้องการทำลายสถาบันข้าราชการ เพื่อให้สถาบันหลักของชาติอ่อนแอ
...แน่นอน เรียกแขกจากฝ่ายอนุรักษ์นิยมได้อีกส่วน เรียงหน้าออกมาถล่มผู้อภิปรายอย่างรุนแรงเช่นกัน
ยังมีการโยงถึงประเด็น บำนาญ ส.ส. , ส.ว. เข้าไปอีกว่าควรตัดมากกว่า และมีการมั่วตัวเลขจนผิดจากข้อเท็จจริงไปมาก
ร้อนถึงคุณสมชาย แสวงการ ต้องออกมาชี้แจง ว่าบำนาญข้าราชการการเมืองนั้นมีกฎเกณฑ์อย่างไร และมันน้อยกว่ากันขนาดไหน
คุณสมชาย ชี้แจงว่า บำนาญส.ส. , ส.ว. นั้น ไม่ใช่จ่ายแบบเดียวกับของข้าราชการ เป็นเพียงเงินสนับสนุน ผู้ได้ประโยชน์มากที่สุด อยู่ที่หมื่นกว่าบาทเท่านั้น
...และไม่ใช่การดูแลกันยันตายแบบข้าราชการ แต่เป็นไปตามอายุการเป็น ส.ส. หรือ ส.ว. เท่านั้น
1
...เช่น เป็น ส.ส. 4 ปี ก็จะได้รับเงินสนับสนุนและสวัสดิการแค่สี่ปี ไม่ใช่เป็นไปตลอดอายุแบบข้าราชการ
...และสุดท้าย รองฯวิษณุ ยังบอกอีกว่าการลดสวัสดิการทันที ทำไม่ได้ ขัดต่อกฎหมาย (แบบเดียวกับสัญญาจ้างเก่าใหม่ ของเอกชน แก้ไม่ได้)
...แต่ดูเหมือนฝ่ายปั่นหัวข้าราชการจะไม่ยอมจบเสียที...
การชี้แจงของคุณพิธา พร้อมกับการขอโทษ รวมถึงการชี้แจงของคุณสมชายและรองฯ วิษณุ
ที่จริงมันชัดมากแล้ว ว่าผู้อภิปรายพูดถึงอะไร
1
แต่ดูเหมือนผู้ปั่นข่าวจะยังไม่เลิกปั่น ยังคงสร้างกระแสความกลียดชังต่อไป
มันคงไม่เกินเลยไป ถ้าจะบอกว่าการปั่นกระแส บิดเบือนข้อมูลครั้งนี้ เกิดขึ้นเพื่อผลทางการเมืองเป็นหลัก
เพราะข้าราชการทั่วประเทศนั้นมีจำนวนมาก ผู้รับประโยชน์จากระบบเหล่านี้ก็มาก
ถ้ารวมแล้วน่าจะมากถึง 30 ล้านคน ( คิดบนพื้นฐานว่า ข้าราชการหนึ่งคน มีครอบครัวอีกอย่างน้อยสามคนที่จะได้ประโยชน์ )
เป็นการกระทำที่หวังผลการเมืองที่ค่อนข้างน่ารังเกียจเอามากๆ
เพราะตอนนี้เราจะเห็นว่า สองฝ่ายขัดแย้งกันรุนแรงมากผ่านสื่อโซเชี่ยลมีเดีย
...ข้าราชการก็ฟาดชาวบ้านไปทั่ว อ้างความจงรักภักดี ทำเพื่อชาติ ประชาชนไม่รู้เรื่อง
...ประชาชนทั่วไปก็รู้สึกว่าเป็นภาระจริงๆ แล้วทำไมจะแตะไม่ได้ พวกคุณวิเศษมาจากไหน ปกติทำงานดีนักเหรอ คอรัปชั่นอีกล่ะ
1
มันกลายเป็นประเด็นขัดแย้ง ที่เกิดจากสื่อฝั่งรัฐบาลเองเป็นผู้บิดเบือนข้อมูลทั้งสิ้น...
ที่กล่าวมาทั้งหมด ไม่ใช่ว่าผู้เขียนชี้แจงให้ใคร
แต่ยอมรับว่าสิ่งที่คุณพิธาอภิปรายมันค่อนข้างตรงกับสิ่งที่อยู่ในใจผู้เขียน และตรงใจคนจำนวนมาก
การที่ข้าราชการทั้งในและนอกราชการ จะออกมาโจมตีเรื่องเหล่านี้ มันไม่ใช่ผลดีกับพวกท่านเองเลย
ตามปกติแล้ว ในสายตาประชาชน ข้าราชการก็ไม่ใช่อะไรที่ดูดีนักอยู่แล้ว
เพราะการถูกปฏิบัติของประชาชน มันก็ไม่ใช่ว่าจะดีสมภาษีที่จ่ายเป็นเงินเดือนให้
...หนำซ้ำบางครั้งมีการเรียกรับผลประโยชน์ เต็มไปด้วยระบบเส้นสาย ไร้ความยุติธรรม อีกต่างหาก...
1
ดังนั้นยิ่งท่านข้าราชการพูดมากเท่าไหร่ ชาวบ้านเขาก็จะยิ่งมองว่าพวกท่านเห็นแก่ตัว ท่านต้องการแบบนั้นเหรอ ควรคิดตรงนี้กันบ้าง
ที่จริงแล้ว ระบบของข้าราชการเอง มันไม่เป็นธรรมแม้กระทั่งกับข้าราชการด้วยกันเสียด้วยซ้ำไป
บางคนทำงานน้อยเอาใจนายเก่ง ก็ได้เป็นใหญ่เป็นโต กินบำนาญสวัสดิการสบายไปทั้งชีวิต
ในขณะที่บางคน ยอมลำบากไปเป็นครูชนบท พยาบาลพื้นที่เสี่ยง กลับไม่ได้รับการตอบแทนอย่างที่ควรจะเป็น บางครั้งไม่ได้รับการบรรจุด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดมาก จากกรณีคุณพยาบาล ที่รัฐบาลมักอ้างว่าไม่มีงบ
ข้าราชการชั้นผู้น้อยได้น้อยทั้งที่งานหนัก คนก็ขาด
เพราะงบประมาณ ถูกแชร์ไปให้ข้าราชการระดับสูง ที่แต่งตั้งกันตามภาวะลิ้นลื่น และการบริหารการเมืองในองค์กร ไม่ใช่เป็นไปเพื่อการบริการประชาชน
นี่ต่างหากปัญหาที่เกิดขึ้นที่แท้จริง ที่ผู้อภิปรายกล่าวถึง และข้าราชการเองก็ควรที่จะเรียกร้องให้เกิดการแก้ไขเช่นกัน
กับเรื่องที่เกิด มันจึงเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจมากสำหรับผู้นำเสนอบิดเบือนข้อมูล หวังผลทางการเมือง โดยไม่คิดถึงผลที่จะตามมา...
ผมแน่ใจว่า การนำเสนอข่าวสารที่บิดเบือน และตัวเลขมั่วๆ ให้สังคมเข้าใจผิดนั้นเป็นความผิดทางกฎหมายอย่างแน่นอน
ปัญหาคือ สื่อที่นำเสนอนั้น เป็นสื่อที่เชียร์รัฐบาล
จะมีการดำเนินการทางกกฎหมายหรือไม่ ผมเองก็อยากจะรู้เหมือนกัน
...ถ้าไม่ทำอะไรเลย ผมขอตีขลุมไปเลยแล้วกัน ว่ารัฐบาลรู้เห็น และเห็นดีเห็นงามกับเรื่องนี้...
...ส่วนจรรยาบรรณนั้น ผมไม่คิดทวงถาม....
...จะถามอะไรล่ะ กับคนพวกนี้ รับงานมานี่นะ เขาสั่งก็ต้องทำแหละ
สุดท้าย อยากบอกว่า ความขัดแย้งในเมืองไทยนั้น จะไม่มีวันสิ้นสุด
การคงอยู่ของคุณทักษิณ คุณธนาธร หรือกระทั่งคนเห็นต่าง มันก็ไม่ใช่ตัวแปรของเรื่องนี้
ปัญหามันอยู่ที่คนมีอำนาจจริงๆ เขาต้องการความขัดแย้ง
ความขัดแย้งจะทำให้พวกเขามีตัวตน มีที่ยืนในสังคมต่อไป
1
...ไม่งั้น ถ้าไม่มีทักษิณ หรือไม่มีคนล้มเจ้า...
...ทหารหรือคนจงรักภักดีมันก็ไม่มีค่าอะไรสิ...
1
...ถูกไหม????....
...หมดคุณทักษิณ หรือฝ่ายตรงข้ามปัจจุบัน คนมีอำนาจก็คงหาคนอื่นมาเป็นผีร้ายแทนนั่นแหละ นี่คือวิธีของพวกเขา ในการแบ่งแยกเพื่อปกครอง
...ดังนั้น เราควรพิจารณาว่าเราควรทำอย่างไร กับคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ ....
...ถ้าเราอยากอยู่กันอย่าสงบจริงๆน่ะนะ.....
ภาพ เนชั่น
โฆษณา