10 มิ.ย. 2022 เวลา 03:26 • ไลฟ์สไตล์
เคยได้ยินที่มีคนบอกว่าเวลาที่ชาร์จแบตเตอรี่ลิเทียมไอ-ออน ไม่ควรชาร์จเกิน 80% ของความจุที่มีอยู่เดิม
ผมเคยเป็น แบบที่ว่าพยายามเดินไปดูมือถือเรื่อยๆ เพื่อที่จะไปถอดสายชาร์จ(แต่ในคู่มือ และภาษาไทยจะเรียกว่า "เครื่องชาร์จ" นะ แปลก, น่ารัก และก็เข้าใจได้)
จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมไปเจอบทความที่ขึ้นเตือนขึ้นมาจากมือถือของผม ปัจจุบันตอนนี้ใช้งานมือถือ Huawei Y9 2019 อยู่ และใช้งานมากว่า 3 ปีแล้ว อะไหล่เป็นอะไรเดิมทั้งเครื่องเลย เจอร้าวก็ไม่เปลี่ยนด้วยนะ ค่าเปลี่ยนจอแพงมาก และกลัวไม่ได้จอแท้อีก ก็เลยไม่เป็นไร ใช้จอเดิมๆ นี่แหละ
กลับมาที่การแจ้งเตือนที่เด้งขึ้นมาที่มือถือผมเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว การแจ้งเตือนนั้นเป็นการแจ้งเตือนของแอปสนับสนุนของ Huawei เป็นบทความเกี่ยวกับวิธีการชาร์จแบตเตอรี่ให้ถนอมแบตเตอรี่ที่สุด
อย่างที่ผมได้กล่าวไปในตอนแรกสุด คือ การชาร์จแบตเตอรี่ไม่ควรชาร์จเกินกว่า 80% ของพลังงานที่เหลืออยู่
ในบทความนั้นได้แนะนำว่า "แบตเตอรี่ ไม่ควรใช้งานจนต่ำกว่า 20% เพื่อเป็นการถนอมแบตเตอรี่ และยืดอายุการใช้งาน"
ในเวลานั้นผมก็สงสัยนะ ว่าทำไมต้องไม่ควรต่ำว่า 20% แต่ก็ทำตามนั้นมาเรื่อยๆ ตอนนี้ก็ผ่านไป 3 ปีแล้ว สำหรับแบตเตอรี่ และอะไหล่รวมๆ ทั้งหมด แบตเตอรี่ก็เสื่อสภาพตามการใช้งาน แต่ก็เก็บประจุไฟฟ้าได้โดยที่ไม่เกิดการกระโดดของแบตเตอรี่ ถ้าเกิด ก็เกิดแบบปรกติทั่วไป คือ กระโดดแค่ 2% ถือว่าเป็นปรกติ ไม่จำเป็นต้องนั่งพะว้าพะวังว่าแบตเตอรี่จะหมดเร็วมากๆ ไหม เพราะรวมๆ แล้ว มันยังคงเก็บประจุได้อย่างดีเยี่ยม
เมื่อเวลาผ่านไป ผมได้เข้าใจว่าทำไมถึงไม่ควรใช้งานแบตเตอรี่ให้เหลือต่ำกว่า 20% เพราะว่าเมื่อหักลบขณะชาร์จแล้ว 100-20=80 หมายความว่า ผมไม่จำเป็นต้องเดินไปมา เพื่อดูมือถือเลย เพียงแค่ปล่อยให้มือถือถูกชาร์จไปเรื่อยจนเต็มร้อย ยังไงก็ไม่มีทางเกิน 80% ของพลังงานที่เหลืออยู่แน่นอน
สรุป คือ เวลาที่ชาร์จมือถือ ไม่ควรให้แบตเตอรี่ต่ำกว่า 20% เพื่อให้การชาร์จใน 1 รอบชาร์จนั้น ไม่เกิน 80% นั่นเอง ทำให้เสียรอบการชาร์จแบตเตอรี่น้อยที่สุด
คิดว่า บทความที่เขียนขึ้นนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ใฝ่รู้ และผ่านมาเห็น
โฆษณา