เกิดอะไรขึ้น ? ทำไม Ethereum เหรียญคริปโตที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ที่หลายกูรูเชื่อว่าอาจแซงหน้า Bitcoin ได้... ถึงราคาร่วงไม่หยุด ? และราคาร่วงลงมา -70% แล้วภายใน 6 เดือน
📌 วันนี้ตลาดคริปโตยังคงร่วงลงอย่างต่อเนื่อง
ทำให้ราคา Ethereum (ETH) ร่วงลงมาต่ำกว่าระดับ 1,500 เหรียญเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี และราคาร่วง -70% ลงมาจากจุดสูงสุดในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาที่ 4,860 เหรียญ อย่างรวดเร็ว
เราทราบกันอยู่แล้วว่าการปรับทิศทางของ FED และหันมาถอนสภาพคล่องออกจากตลาด หยุดการอัดฉีด QE เริ่มดึงเงินออกโดยการทำ QT และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลลบต่อตลาดคริปโตโดยรวม
แต่ทำไมราคา Ethereum ถึงร่วงลงหนักกว่า Bitcoin และอีกหลายเหรียญคริปโต ? ทั้งๆที่เคยได้ชื่อว่าอาจเป็นเหรียญคริปโตเดียวที่อาจแซงหน้า Bitcoin ได้ ?
------------------------------
📌 นอกจากสภาพตลาดโดยรวมแล้ว Ethereum ยังโดนกดดันโดยปัจจัยพื้นฐานของเหรียญเอง และการเลื่อนกำหนดของ Ethereum 2.0
1️⃣ แผนพัฒนา Ethereum 2.0 ที่คาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จในเดือน สิงหาคม ดูจะเป็นไปไม่ได้แล้ว
เมื่อมีการประกาศชะลอการใช้งาน Difficulty Bomb (คือ code ที่จะทำให้เครื่องขุดออกจากบล็อคเชน เพิ่มความยากจนไม่สามารถขุดได้อีกต่อไป ) นักพัฒนามองว่า หากเกิดความล้มเหลวในขณะลองปรับใช้ จะทำให้เครือข่ายล่มสลายได้ เลยควรใช้เวลานานขึ้น เพื่อเพิ่มความมั่นใจ
2️⃣ ราคา ETH ได้ลงมาต่ำที่สุดนับแต่มีนาคม ปี 2021 ที่ราคา 1,550 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนหนึ่งมาจากการ Panic Sell ของนักลงทุนเอง
โดยเริ่มมีการเทขาย หลังจากมีข่าว Alameda ทำการเทขาย stETH จำนวนกว่า 50,000 stETH (Alameda คือกองทุนของ FTX) บน Curve ในราคาขาดทุน พอ stETH หลุด peg หรือหลุดมูลค่า โดยปกติ stETH จะมีมูลค่าที่ 0.96-1 ETH โดยคนเริ่มกังวลเมื่อเห็นราคาต่ำไปจากนี้ รวมทั้ง หลุ่ม Alamenda นับเป็นกลุ่มทุนใหญ่ นักลงทุนจึงคาดการณ์ว่า อาจจะมีจะมีข้อมูลอะไรหรือเปล่า ทำให้เกิดความกังวล
3️⃣ ในส่วน stETH คือ ส่วนที่จะช่วยเหลือนักลงทุนรายย่อย จากการที่ Ethereum จะเปลี่ยน จาก Proof of work มาเป็น Proof of Stake เพราะการจะ Validate ได้ต้องใช้ ETH ถึง 32 ETH และต้อง ทำการ lock เงินไว้เป็นระยะเวลา 1 ปี
ตรงจุดนี้ทำให้ Lido Finance ทำให้คนที่ต้องการเป็น Validator Node ของ Ethereum แต่มี ETH ไม่ถึง สามารถมาแลกเป็น stETH (staked ETH) และจะสามารถแลกคืนเป็น ETH ได้ภายหลัง หลังจากการเปลี่ยนระบบเสร็จสิ้น
หรือคนที่ต้องการขายจริงๆ ก็สามารถนำไปขายที่ตลาดรอง เช่น Curve, Uniswap ที่คนไปเทขายกันก็คือตลาดรองเหล่านี้
4️⃣ และที่สำคัญ ตอนนี้ยังมีอีกความเสี่ยงหนึ่ง คือมีบริษัทนำ stETH ไปค้ำเพื่อกู้เงินเป็น Stablecoin เช่น Celsius ซึ่งหากราคา stETH ลงมามากๆ มีความเสี่ยงที่จะถูก Liquidation หรือบังคับขายทอดตลาด เพื่อเอาเงินมาคืนผู้ให้กู้ แล้วถ้าโดนบังคับขายกันเยอะๆ ก็จะเกิดแรงขายใน ETH ทำให้ราคาลงมาอย่างแรงอีกครั้ง
5️⃣ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Ethereum ก็ยังมีการพัฒนาต่อไป ตาม roadmap นี่อาจจะเป็นปัญหาที่เข้ามาพร้อมกับตลาดขาลง รวมถึงเป็นปีที่ไม่ค่อยดี
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินเฟ้อของทุกประเทศ ค่า cpi ที่เพิ่งประกาศออกมาของสหรัฐอเมริกา เรื่องการล่มสลายของ Luna ทำให้คนเกิด panic sell ในคริปโตได้ง่าย Bitcoin เหรียญที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงที่สุดราคาก็ลงมา ช่วง 28,000 แล้ว ซึ่งเป็นราคาต่ำกว่าทุนของผู้ถือ Bitcoin รายใหญ่ๆอีกด้วย
ในภาวะตลาดหมีแบบนี้ ก็ยิ่งจะซ้ำเติมนักลงทุนได้อีก จึงอยากให้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพื่อควบคุมความเสี่ยง หรือ อาจเป็นการมองหาโอกาสจากการลงทุนในภาวะวิกฤติก็ได้
#แอดWat
📊 รู้หรือไม่ ?!? การเทรดคริปโตไม่จำเป็นต้องเริ่มจากการซื้อก่อนอย่างเดียว
เทรดเดอร์คริปโตไทยสามารถซื้อขายเปิดสัญญาทั้ง Short หรือ Long เหรียญ Bitcoin หรือ Ethereum ผ่านในตลาด CME ได้โดยตรงอย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยเฉพาะสัญญา Micro Bitcoin และ Micro ETH ที่จะทำให้ทุกท่านเทรดได้คล่องตัวและหลายไม้มากขึ้น ด้วยสัญญาที่เล็กลง
ทาง "MTS Capital" หนึ่งในบริษัทในเครือของ MTS Gold (แม่ทองสุก) เป็นโบรกเกอร์ไทยเจ้าแรกที่ได้รับสิทธิการเป็นสมาชิกอย่างถูกต้องของ CME Group มีสัญญา Crypto Futures เหล่านี้ครบถ้วนให้คนไทยสามารถเข้าถึงตลาดอนุพันธ์ชั้นนำของโลกได้โดยตรง
นักลงทุนไทยท่านใดสนใจสามารถ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ LINE Official - https://lin.ee/a3S9iGv หรือโทรได้ที่ 02-770-7799 เลยครับ 👍😊
🙏 ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรา ฝากกด Like และ Share เพื่อให้นักลงทุนท่านอื่นได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์เหล่านี้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ 👍😊
#ทันโลกกับTraderKP
- 45
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
