15 มิ.ย. 2022 เวลา 05:46 • หุ้น & เศรษฐกิจ
โลกจะเปลี่ยน เงินเฟ้อสูงยาวหลายปี เศรษฐกิจไทย เสี่ยงซึมยาว
2
KKP Research โดยเกียรตินาคินภัทร คาดการณ์ว่า “เงินเฟ้อ” อาจไม่ใช่ปัญหาระยะสั้น และมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นยาวนานกว่าที่คาด ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยไทย กำลังเปลี่ยนทิศทางเป็นขาขึ้น
8
โดยคาดว่า เงินเฟ้อทั้งปี 2022 จะอยู่ที่ 6.6% และ 3.1% ในปี 2023
สิ่งที่ต้องจับตามอง คือ แนวโน้มเงินเฟ้อสูงและดอกเบี้ย จะส่งผลอย่างมากต่อปัญหาค่าครองชีพ, ต้นทุน และส่งผลต่อเนื่องกับภาระการชำระหนี้ของครัวเรือนที่จะปรับตัวสูงขึ้น สร้างความเสี่ยงให้เศรษฐกิจไทยซึมยาว
1
- เงินเฟ้อที่คาดไม่ถึง
3
ในเดือนพฤษภาคม ตัวเลขเงินเฟ้อในไทยพุ่งสูงขึ้นไปถึง 7.1% เป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบ 14 ปี และสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ค่อนข้างมาก
คล้ายคลึงกับเหตุการณ์ช่วงก่อนหน้าในสหรัฐอเมริกา ที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะเป็นปัญหาชั่วคราวและจบลงในช่วงกลางปี 2021 แต่กลับยังยืดเยื้อมาถึงปัจจุบัน..
1
KKP Research ประเมินว่า แม้ปัจจัยกดดันเงินเฟ้อที่เกิดจากการเปิดเมืองอาจจะเริ่มคลี่คลาย แต่มีโอกาสที่เงินเฟ้อโลกและไทย จะยังคงอยู่ในระดับสูง และยังไม่ชะลอตัวลงจาก 3 เหตุผล คือ
2
1) นโยบายการเงินตอบสนองต่อเงินเฟ้อช้า
ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงกับตัวเลขเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาสูงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงวิกฤติ 1970-1980 สะท้อนว่านโยบายการเงินยังคงผ่อนคลาย และเป็นตัวเร่งอุปสงค์ให้ยังเติบโตร้อนแรง
4
2) การส่งผ่านของเงินเฟ้อไปยังสินค้าต่าง ๆ ยังมีอย่างต่อเนื่อง
ในสถานการณ์ปัจจุบันยังมีราคาสินค้าที่เตรียมปรับขึ้นอยู่อีก ตัวอย่างเช่น ในสหรัฐอเมริกา ราคาบ้านปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก จากปัญหาต้นทุนและการข้อจำกัดด้านอุปทาน
4
และราคาบ้านที่เพิ่มขึ้นอาจจะทำให้ค่าเช่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และส่งผลให้ให้เงินเฟ้อสหรัฐ ฯ ค้างอยู่ในระดับสูงในปี 2023
3) ปัจจัยความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งส่งผลต่อราคาน้ำมันและอาหาร และความเสี่ยงด้านการคาดการณ์เงินเฟ้อ
แรงกดดันด้านเงินเฟ้อโลกที่ยังไม่มีที่ท่าว่าจะคลี่คลายลง ทำให้แรงกดดันเงินเฟ้อในประเทศจะยังมีมาก
1
และนโยบายการเงินทั่วโลก จะมีทิศทางตึงตัวชัดเจนขึ้น กดดันให้ กนง. เริ่มปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งต่อไป
โดยคาดการณ์ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 3 ครั้งในปีนี้ และปรับขึ้นอีก 4 ครั้งในปี 2023
1
- โลกเปลี่ยน ดันเงินเฟ้อสูงยาวหลายปี
ปัญหาเงินเฟ้อไม่ได้น่ากังวลแค่ในระยะสั้น แต่อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างระยะยาวครอบคลุมถึงทศวรรษหน้า จากกระแสโลกที่กำลังเปลี่ยนทิศทางอย่างถาวร คือ
1
1) การเข้าสู่จุดสูงสุดของยุคโลกาภิวัตน์
การเข้าร่วมการค้าโลกของจีนส่งผลให้ต้นทุนการผลิตทั่วโลกถูกลง อย่างไรก็ตามค่าจ้างแรงงานในจีนที่สูงขึ้นพร้อมกับภาวะเริ่มขาดแรงงาน ตัวเลขการค้าระหว่างประเทศที่โตต่ำ
สัญญาณความขัดแย้งระหว่างประเทศทั้งจีนและสหรัฐ ฯ และรัสเซียและยูเครน การย้ายฐานการผลิตกลับประเทศ เป็นสัญญาณสะท้อนจุดสูงสุดของโลกาภิวัตน์
2) อำนาจตลาดที่มีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง
บริษัทในสหรัฐฯ มีแนวโน้มครองอำนาจตลาดเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในระยะยาว เช่น ธุรกิจ E-commerce
1
3) สังคมสูงวัยในระดับโลกอาจเพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ แม้ว่าผู้สูงอายุจะบริโภคสินค้าน้อยกว่าคนวัยหนุ่มสาว แต่ปัจจัยสำคัญอีกทางหนึ่งคือสัดส่วนระหว่างคนสูงอายุเทียบกับประชากรวัยทำงาน กำลังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง บ่งบอกว่าแรงงานและกำลังการผลิตกำลังลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนผู้บริโภค
2
- เงินเฟ้อเพิ่มความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย
KKP Research ประเมินว่าเศรษฐกิจโลกในช่วงนี้มีความเสี่ยงกำลังจะเข้าสู่ภาวะ Stagflation ก่อนที่จะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ในช่วงปลายปี 2023 ถึงปี 2024
โดยสถิติในอดีตสะท้อนให้เห็นว่า เมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ปรับดอกเบี้ยขึ้นเพื่อสู่กับภาวะเงินเฟ้อ จะนำเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยเกือบทุกครั้ง..
1
และสัญญาณจากตลาดการเงินที่ต้องจับตาดู คือ Inverted Yield Curve ซึ่งมักจะเกิดขึ้นก่อนภาวะเศรษฐกิจถดถอยประมาณ 1 ปี แม้ในปัจจุบันตลาดการเงินยังหวังว่าเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะ Soft-landing หรือภาวะที่ไม่เกิดเศรษฐกิจถดถอย
แต่ KKP Research มองว่า มีโอกาสน้อยลงไปเรื่อย ๆ ในภาวะที่ความเสี่ยงเงินเฟ้อกำลังรุนแรงขึ้น
1
- มาตรการช้าเกินไป
ในช่วงที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทยยังแสดงความกังวลกับตัวเลขเงินเฟ้อน้อยมาก เมื่อย้อนดูเหตุกาณ์เงินเฟ้อในสหรัฐฯ ซึ่งตัวเลขเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นไปก่อนไทย ทำให้เกิดความกังวลว่าสถานการณ์ในประเทศไทย จะเกิดขึ้นในลักษณะเดียวกันกับในสหรัฐฯ ที่คาดการณ์เงินเฟ้อผิดพลาด
3
โดยการคาดการณ์เงินเฟ้อของไทยมีความเสี่ยงที่จะต่ำเกินไป จากทั้งผลกระทบต่อเนื่องจากราคาน้ำมันต่อราคาสินค้าอื่น ๆ ที่ยังมีต่อเนื่อง, มาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐที่ลดลง และค่าเงินบาทที่เริ่มปรับตัวอ่อนค่าลง ซึ่งจะส่งผลต่อราคาสินค้านำเข้า
การปล่อยให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงเป็นเวลานาน จะทำให้การควบคุมเงินเฟ้อทำได้ยากขึ้น และ ธปท. อาจต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าเดิม
- ความเปราะบางของเศรษฐกิจไทย
นอกจากปัญหาเงินเฟ้อ ที่นำไปสู่ความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง หรือเข้าสู่ภาวะถดถอย จะทำให้เศรษฐกิจไทยเสี่ยงได้รับผลกระทบอย่างมาก ผ่านช่องทางการส่งออกและภาคการท่องเที่ยวแล้ว
การปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นในปี 2022 และ 2023 อาจส่งผลกระทบเพิ่มเติม และเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก เพราะไทยเป็นประเทศเศรษฐกิจเปิดขนาดเล็ก ที่ได้รับการส่งผ่านราคาและแรงกดดันที่มาจากภาวะเงินเฟ้อโลกและราคาน้ำมัน
2
แนวโน้มเงินเฟ้อโลกที่เปลี่ยนไปในระยะยาว และทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น จะส่งผลให้ภาระหนี้ของภาคครัวเรือนไทยปรับตัวสูงขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงกับเศรษฐกิจในประเทศได้
2
สถานการณ์หนี้ครัวเรือนของไทยที่สูงเกินกว่า 90% ของ GDP สะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่จะมีความเปราะบางต่อการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นมากด้วย..
3
—-------------------------
ที่มา : KKP Research โดยเกียรตินาคินภัทร
โฆษณา