16 มิ.ย. 2022 เวลา 01:18 • ไลฟ์สไตล์
“รู้ไปหมด แต่มันละอะไรไม่ได้เลย
อันนี้เรียกว่า ความหลง”
1
“ … ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า รู้เพียงแค่บทแห่งธรรมบทเดียว แล้วมันสงบระงับได้ คือ มันวางลงได้สนิท ย่อมเป็นประโยชน์เกื้อกูลกว่า รู้บทแห่งธรรมตั้งเป็นพัน แต่ว่าไม่สามารถสงบระงับได้
4
รู้ไปหมด แต่มันละอะไรไม่ได้เลย อันนี้เรียกว่าความหลง มันเป็นเรื่องของสัญญาความจำได้หมายรู้นั่นเอง
มันไม่ได้วัดว่าเราจะต้องศึกษา รู้เรื่องราว รู้ข้อธรรมะมากมาย แต่ปัญญาที่แท้ ก็คือ เป็นเรื่องของการสละ ละ วาง
รู้สิ่งใดแล้วมันไปยึดกับสิ่งนั้น มันก็เป็นเรื่องของความหลงยึดมั่นถือมั่น ทั้งหมดทั้งสิ้นนั่นแหละนะ หลงไปกับสิ่งสมมติมายา
แต่รู้สิ่งใดแล้ว ไม่ติดข้องอยู่ ไม่ยึดมั่นถือมั่นอยู่ ที่เรียกว่า รู้สักแต่ว่ารู้ นั่นแหละ มันวางลงได้ จึงจะเรียกว่า วิมุตติ
วิมุตติ การหลุดพ้น ก็คือ หลุดพ้นเพราะจิตไม่ยึดมั่นถือมั่น
ก็คือ การรู้ ละ วาง ฝึกที่จะละ วาง นั่นเอง
ทั้งหมดทั้งมวลก็ลงที่ความไม่ยึดมั่นถือมั่นนั่นแหละ คือการไม่ติดข้องต่อสิ่งใด ๆ เพราะการไม่ติดข้องเนี่ย เป็นพื้นฐานของความเป็นกลางอยู่แล้ว การไม่ติดข้องต่อสิ่งใด รู้สักแต่ว่ารู้
แต่ทีนี้ถ้าเราจะมุ่งแค่ความเป็นกลางอย่างเดียว บางทีจิตมันแข็งกระด้างไป
ถ้าจิตเรายังแข็งกระด้างไป มันก็ยังไม่เข้าร่องของธรรมชาติอยู่ดี
แต่ถ้าเรามีเรื่องของธรรม ๗ ประการ ให้ไว้เป็นหลักของใจ
ความอ่อนโยนมันคือพื้นฐานเลย ถ้าใจยังไม่อ่อนโยนปุ๊บ มันไม่เข้าร่องเลย มันไม่เข้าร่องทางสายกลางเลย มันจะไปเรื่องของความแข็งกระด้าง มานะ ทิฏฐิ ถือตัวถือตน
เพราะฉะนั้นถ้าคิดว่าเราจะนั่งภาวนา แล้วใจเรามันจะอ่อนโยน ใจเรามันจะไม่ติดข้องต่อกาย มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น
เราต้องเพาะบ่มสิ่งนี้ให้มีคุณสมบัติเพียงพอก่อนนั่นเอง
จึงให้นำธรรมะ ๗ ประการ ไว้เป็นหลักของใจในการฝึกฝนเพาะบ่ม
  • มีความอ่อนโยน
  • ดำเนินในทางสายกลาง
  • การละกาย การไม่ติดข้องต่อกาย
  • การเคารพต่อวาระของธรรมชาติ อยู่กับปัจจุบัน
1
เพราะฉะนั้นก็นำสิ่งนี้เป็นหลักของใจ
  • มีความกลมเกลียว เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง ไม่เกิดการแตกแยก
เมื่อเกิดการเบาะแว้ง เกิดการแตกแยก
ก็ให้รู้ตัวแล้ว อ้าว …
หลุดออกไปนอกวิถีของธรรมชาติแล้ว
ดึง กลับ ดึงกลับ
สู่ความกลมเกลียว เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
  • มีความอ่อนน้อมถ่อมตน
บางทีใจเรามันกระด้าง มันถือตัว มันพอง มันยกตนข่มท่าน ก็ให้รู้แล้ว เนี่ย หลุดออกไปนอกวิถีของธรรมชาติแล้ว
ดึงกลับสู่ความอ่อนน้อมถ่อมตน
เจียมเนื้อเจียมตัว สงบเสงี่ยม
  • มีการโอบอุ้ม ประคับประคองซึ่งกันและกันอยู่
1
เพราะฉะนั้นก็นำธรรมะ ๗ ประการ เป็นหลักของใจ
เพราะคุณลักษณ์ของธรรมชาติ ก็คือ
มีความอ่อนโยนอย่างยิ่ง
มีความเป็นกลางอย่างยิ่ง
มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน
1
เมื่อเข้าถึงสภาวะของธรรมชาติ จะพบว่า มันไม่มีหรอก เรา เขา อะไรเนี่ย
มันมีแต่ความเป็นธรรมชาติที่เป็นหนึ่งเดียวกันหมดเลย นั่นคือสภาวะของธรรมชาตินั่นเอง
มีความอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างยิ่ง
มีการโอบอุ้มอยู่
ธรรมชาติย่อมโอบอุ้มสรรพสิ่งอยู่
เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่มีคุณสมบัติตรงนี้ เราก็จะไม่สามารถเข้าถึงธรรมชาติได้เลย เรียกว่า ขาดคุณสมบัตินั่นเอง
ก็นำสิ่งนี้ไปเพาะบ่มเสมอ มีความอ่อนโยน มีความเป็นกลาง
ความเป็นกลาง มันเป็นผล เราก็ต้องดำเนินในวิถี ก็คือ เดินในทางสายกลาง
ฝึกที่จะละวางกาย วางความคิดลง ละการติดข้องต่อสิ่งต่าง ๆ
เคารพต่อวาระของธรรมชาติ บางทีมันไหลไปกับอดีต ไหลไปกับอนาคต ก็ดึงกลับ อยู่กับปัจจุบัน
มีความกลมเกลียวเป็นอันหนึ่งอันเดียว
อ่อนน้อมถ่อมตน
มีการโอบอุ้ม
ฉะนั้นถ้าท่านทั้งหลายนำธรรมะ ๗ ประการเป็นหลักของใจ เวลามันหลุดไปจะรู้ตัวเลย มันดึงกลับเข้าสู่ร่องที่ถูกต้องได้เสมอ
เพราะฉะนั้นมันย่อมน้อมไปเพื่อการคืนสู่ความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ … “
.
ธรรมบรรยาย
โดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร
Photo by : Unsplash

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา