16 มิ.ย. 2022 เวลา 00:30 • ธุรกิจ
ทำตัวให้เหมือนเต่าในนิทานเรื่องกระต่ายกับเต่า
หลายๆคนคงเคยได้ยินนิทานเรื่องกระต่ายกับเต่าผ่านๆหูมาบ้างในตอนเด็กๆ โดยนิทานเรื่องนี้ ถ้าเปรียบเทียบกับนิสัยคนในชีวิตจริงก็เหมือนกับคนที่ทำตัวขี้เกียจ สมาธิสั้น ประมาท มีเป้าหมายที่ไม่ชัดเจน และชอบดูถูกคนที่ด้อยกว่า (กระต่าย) และคนที่มีความมุ่งมั่น มีสมาธิ ความพยายาม และมีเป้าหมายที่ชัดเจน (เต่า)
โดยจากนิทานก็จะเห็นได้ว่ากระต่ายนั้นไปดูถูกเรื่องการเดินของเต่า ทำให้เต่านั้นโกรธและท้าแข่งวิ่งกับกระต่าย ซึ่งกระต่ายนั้นเป็นสัตว์ที่วิ่งเร็วมากๆ เมื่อเอามาเปรียบเทียบกับเต่า ก็จะแสดงให้เห็นว่าเมื่ออยู่คนละโลกกันเลยทีเดียว ซึ่งการแข่งขันของกระต่ายกับเต่านั้นก็ปรากฏว่าเต่านั้นเป็นฝ่ายชนะกระต่าย ทั้งๆที่กระต่ายนั้นได้เปรียบหลายๆอย่าง
แต่การที่กระต่ายแพ้ก็เกิดจากความประมาทของตัวมันเอง ที่คิดว่าจะนอนหลับอีกสักกี่ตื่น เจ้าเต่าก็ไม่มีทางที่จะตามทัน สุดท้ายพอตื่นขึ้นมามันก็สายไปสะแล้ว มันก็เปรียบได้กับคนที่ชอบประมาทในชีวิต คิดว่าเรื่องนั้นง่าย เดี๋ยวค่อยทำวันหลังก็ได้ หรือการที่เราอยากจะทำอะไรสักอย่าง คิดไว้ในหัวเต็มไปหมด แต่ ก็ไม่ลงมือทำสักที นอนรอผลัดวันไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็สายไปเสียแล้ว
และประโยคอีกอันหนึ่งที่เป็นข้อคิดของเรื่องกระต่ายกับเต่าเลยก็ว่าได้ ดังประโยคที่ว่า อย่าดูถูกคนอื่นเพียงเพราะตนเองเก่งกว่า หลายๆคนนั้นชอบดูถูกคนอื่น เพียงเพราะเขาดูอ่อนแอ ไม่ฉลาด หรือไม่มีความรู้ ในสิ่งที่ตนเองต้องการ
แต่จริงๆแล้ว หลายๆคนนั้นจะมีสิ่งที่ตัวเองชอบหรือถนัดอยู่อย่างน้อย 1 อย่าง การที่เขาไม่ถนัดในสิ่งเดียวกับที่คุณถนัดก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะดูโง่ บางทีคุณอาจจะมีบางเรื่องที่ไม่ถนัดเหมือนเขาก็ได้ แต่สิ่งที่เราไม่ถนัดมันก็สามารถพัฒนาให้ดีขึ้นได้ เพียงแค่เรามุ่งมั่น พยายามเรียนรู้ อย่าย่อท้อเพียงเพราะเส้นชัยนั้นอยู่ไกล แค่เราลองลงมือทำไปเรื่อยๆ เส้นชัยก็จะเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
เหมือนกับเต่าที่ไม่ย่อท้อกับการที่ตัวเองเดินช้า แค่มุ่งมั่น โฟกัสกับสิ่งที่อยู่ข้างหน้า สุดท้ายก็สามารถเข้าสู่เส้นชัยจนได้ คนเดินช้าก็ไม่ได้หมายความว่าจะเสียเปรียบคนเดินเร็วเสมอไป
เพราะว่าการค่อยเป็นค่อยไปนั้นทำให้เราได้ทบทวน ตรวจทาน กับสิ่งที่เราทำลงไปได้อย่างรอบคอบ ก็จะช่วยลดข้อผิดพลาดเหลือน้อยที่สุดได้ ประหยัดเวลา และยังทำให้งานนั้นออกมาได้ดี 100 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย แต่การเดินช้าไม่ได้รวมถึงคนขี้เกียจ นอนรอเวลา แล้วพอใกล้ deadline ก็ค่อยมาลงมือทำ การเดินช้าก็หมายถึง การหาความรู้ไปทีละน้อย ค่อยๆทำ ตรวจทานสิ่งที่ตัวเองทำให้แต่ละหัวข้อ
แต่ถ้าเรานั้นเดินเร็วเกินไป เรานั้นก็อาจจะพลาดหรือมองข้ามจุดบกพร่องเหลืออยู่ไป จนทำให้งานออกมาไม่ดีหรือไม่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ หรืออาจจะทำให้เรานั้นต้องเสียเวลากลับมาหาข้อบกพร่อง
ยกตัวอย่างเช่น คนที่อ้วนมากๆ แล้วอยากลดไวๆ จึงหาวิธีลดน้ำหนัก 20 กิโลกรัม ภายใน 1 อาทิตย์ เขาจึงอดอาหาร อดข้าว อดขนม หรือกินข้าวเพียง 1 มื้อต่อวัน ออกกำลังกายหลายชั่วโมงต่อวัน และพอถึงวันสุดท้ายเขาชั่งน้ำหนักปรากฏว่าน้ำหนักเขานั้นลดไปถึง 20 กิโลกรัมเลยทีเดียว แต่ร่างกายของเขานั้นกลับไม่เหมือนคนปกติทั่วไป ทั้งหย่อน ยาน ย้วย ทำให้เขายิ่งเสียความมั่นใจเข้าไปอีก
แต่การลดน้ำหนักที่ดีนั้น อย่ารีบที่จะลด ให้ค่อยๆลดและทำวิธีที่ถูกต้อง เช่น ไม่ออกกำลังกายหักโหมเกินไป การกินให้ครบสารอาหารทั้ง 5 หมู่ การลดไขมัน ไม่อดอาหาร เป็นต้น โดยอาจจะต้องใช้เวลานานหน่อย แต่ร่างกายของคุณก็จะดีกว่าแบบแรกแน่นอน
โฆษณา