เรื่องราวทำนองนี้ มันขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล บางคนเค้าก็คิดได้ว่า ที่เค้าได้เกิดมามีเรือนกายที่พ่อแม่ให้มา เค้าก็ไม่ได้นึกคืดอะไรมาก มีน้องคนหนึ่งพ่อก็ทิ้งเค้าตั้งแต่เล็ก ..น้องคนนี้เค้าก็ไม่ได้มีอคติกับพ่อเค้า ..แต่นั้นพ่อเค้าก็อยู่กับครอบครัวใหม่
เรื่องพ่อแม่แยกไป เค้าก็ต้องอยู่กับปู่ย่าหรือตายาย แต่ก็มีความคิดอยู่ในใจว่าพ่อแม่ทำไมต้องทอดทิ้งเค้า เวลามีปัญหาเค้าก็ต้องแก้ไขแบบทิฐิความคิดเห็นของเค้า ไม่มีพ่อแม่มาช่วยปลอบช่วยเหลือเหมือนคนอื่น ยิ่งยากจน ยิ่งต้องดิ้นรน เพราะบางคน แค่ข้าวจะกินแต่ละวันยังยากลำบาก
มีน้องคนหนึ่ง ..พ่อแม่แยกกันตั้งแต่เด็กๆ ต้องอยู่กับย่า ตั้งแต่เล็ก พอมาเข้าวัดทำบุญ บอกให้นึกถึงว่าเอาสังขารพ่อแม่มาทำบุญ เวลาทำบุญก็บอกกันอย่างนี้ มาโดยตลอด
ตอนหลังน้องคนนี้ก็มาเล่าให้ฟังว่า ตอนเรกที่ได้ยินให้นึกว่าเอาสังขารพ่อแม่มาทำบุญ ในใจเค้ามันเหมือนมีทิฐิ มีความถามมากมายว่า พ่อแม่ทอดทิ้งเค้า แล้วทำไมจะต้องไปนึกถึง ..เพราะเค้าก็อยู่กับย่า เหน็ดเหนื่อยดิ้นรนช่วยตัวเองตั้งแต่เล็กๆ แล้วต้องได้ยินเสียงกระแนะกระแหนมากมายจากคนรอบข้าง เค้าต้องดิ้นรนจนทำงานมีครอบครัว มันก็เป็นอารมณ์ว้าวุ่นใจที่เค้าได้ยินบอกให้นึกถึงว่าเอากายพ่อแม่มาสร้างบุญสร้างกุศล
ตอนหลังเค้าก็มีความเข้าใจมากขึ้น ไม่มีอคติกับพ่อแม่ มีความเข้าใจว่า พ่อกับแม่ก็มีกรรมของเค้ามา คล้องกรรมกันมา แค่เจอะเจอกัน แล้วต้องแยกทางกัน ส่วนตัวน้องนั้นก็มีกรรมของตัวเองเหมือน ที่ต้องมาเจอะเจอเรื่องราวเหล่านี้ เพราะตนเองเป็นผู้สะสมมาเอง กรรมก็ผลักให้ต้องประสบผจญ เรื่องราวที่เรียกว่า วิบากกรรม ต้องมีกาย ..มีคนเลี้ยงดู แต่ไม่ใช่พ่อแม่
แต่ก็เป็นย่าที่เคยอุปถัมภ์ค้ำชูกันมาก่อน เคยดูแลกันมาก่อน ก็มาดูกันต่อในชาตินี้ หากว่าไม่เคยดูแลกันมา อยู่ด้วยกันยังงัยก็ไม่ดูแลกัน บางคนอยู่ด้วยกัน ก็ทวงกรรมกัน เคยทำร้ายกันมา ก็มาทำร้ายจองเวรกันต่อ เมื่อสองปีที่แล้ว ก็มีน้องคนหนึ่งหนีสามีมา ที่ทำร้ายตบตีมาตลอด หนีไปอยู่กับเพื่อน เพื่อนก็พามาอยู่วัด ..อยู่วัดก็ตั้งใจปฏิบัติ
อยู่จนจิตใจมีสภาพดีขึ้นมามาก ก็โทรไปหาลูก ลูกไปเล่าให้พ่อฟัง พ่อก็บอกว่า จะมารับ ..น้องคนนี้ก็ลนลาน ..ไม่อยากกลับ แต่ก็ลากลับไป สามีมารับที่วัดวันเสาร์ วันรุ่งขึ้นก็มีคนโทรมาแจ้งว่า น้องคนนี้ถูกสามีทุบตาย ต่อหน้าลูก ตัวน้องคนนี้ เค้าไม่ต่อสู้เลย ถูกสามีตีจนตาย ขาหักแขนหัก …
..เรื่องนี้เราก็มีมีการพูดคุยกัน ..ว่าคู่นี้ เค้าเป็นคู่อาฆาตพยาบาทจองเวรกันมา ชาตินี้กูฆ่ามึง ชาติหน้ามึงฆ่ากู อยู่อย่างนี้ ไม่จบสิ้น จนมาชาตินี้ น้องคนนี้ก่อนตายมาปฏิบัติธรรม อโหสิกรรม แล้วก็ยอมให้สามีฆ่าไม่ต่อสู้อะไรเลย ถูกตีจนตาย ตอนหลัง ก็มีน้องที่ปฏิบัติธรรมนั้น เห็นเค้าใส่ชุดขาวมาให้เห็น ก็ได้รู้ว่า จิตน้องคนนี้ไปไม่ลำบาก
เรื่องของกรรม นั้นมันมองไม่เห็นว่า สร้างกรรมมากันอย่างไร พอต้องเจอะวิบากกรรม มันก็ทุกข์ทรมาน รัดทด โศกเศร้า ไปตามวิบากกรรมที่เกิดขึ้น เมื่อคล้องกรรมกันมาไม่ดี บุญกุศลไม่มี ช่วยผ่อนคลายทุกข์ มันก็ย่อมทุกข์ทรมานจมอยู่กับกรรม
ความยุติธรรม ..ต่อเรื่องที่เล่าถึงน้องคนนี้ พ่อก็ไปติดคุกไป ด้วยความยุติธรรมตามกฎหมายกำหนด..ส่วนลูกสาวฝาแฝด ต้องไปอยู่กับยายที่ทำไร่ต่อไป ไม่รู้ว่าได้เรียนต่อหรือเปล่า..
เรื่องราวของคนที่รังเกียจพ่อแม่ ติเตียนพ่อแม่ มันก็เหมือนคนที่ทำร้ายตัวเอง เพราะจิตเราอาศัยสังขารพ่อแม่อยู่ เมื่อเราไปติเตียนพ่อแม่ หรือด่า หรือทำไม่ดีกับพ่อแม่ ที่เราใช้สีงขารพ่อแม่อยู่ มันก็เหมือนด่าว่า ติเตียนสาบแช่งตัวเอง สาบแช่งสังขารพ่อแม่ที่ตนอาศัย กายนี้มันก็ต้องเดือดร้อน ร้อนเวรร้อนกรรม ชีวิตก็จะมีเรื่องราวอะไรเข้ามาให้ร้อนรุ่มอยู่เรื่อย ความเจริญความสุขก็มีน้อยนิด มีอุปสรรค
จิตที่อาศัยเรือนกายนั้น ก็ต้องทุกข์ร้อนไปด้วย หาความสุขยากลำบาก ยิ่งพอแก่เฒ่าชรา กรรมที่เคยกระทำกับพ่อแม่ก็จะย้อนมาแสดงให้ปรากฏ ถึงเวลาบางทีก็ระลึกไม่ได้ว่าตนเองสร้างกรรมอะไรกับพ่อแม่ไว้
คนที่มีอคติต่อพ่อแม่ พอได้ยินคำว่า พ่อแม่ ได้ยินเรื่องจิตอาศัยเรือนกายพ่อแม่ เรื่องความกตัญญูรู้คุณพ่อแม่ เสียงนี้ สัมผ้สหูเขา เค้าย่อมรับไม่ได้ มีแต่หันหน้าหนี ปฏิเสธไม่อยากได้ยินคำว่าพระคุณพ่อแม่ หรือความกตัญญูรู้คุณพ่อแม่ เอาเรือนกายพ่อแม่มาสร้างบุญกุศล เพื่อตอบแทนพระคุณพ่อแม่ จิตเค้าย่อมร้อน..ร้อนเวรกรรมเพราะไม่รู้จักคำว่าพระคุณพ่อแม่ที่ให้เรือนกายนี้มาใช้เลย..
เมื่อรากเหง้าของจิตมาอาศัยกายมนุษย์ ถ้าจิตนั้นไม่เข้าใจ ไม่ระมัดระวัง การเป็นมนุษย์กับเค้าสักชาติหนึ่งก็เสีย ความเป็นสัตว์..จิตที่อยู่ในสังขารสัตว์ เค้าย่อมไม่รู้จักคำว่าพระคุณพ่อแม่เลย เหมือนกันเลย แล้วมันก็ยังต่อเนื่องไปเรื่องราวที่จิตจะต้องหาสังขารใหม่ เมื่อจิตออกจากกายมนุษย์ แล้วจะได้พ่อแม่ที่ไหน ที่มีสังขารดีๆให้จิตได้อาศัยต่อไป มันหมายถึงการที่จะมีสังขารดีๆสังขารพ่อแม่ในชาติต่อไปอีก
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
