19 มิ.ย. 2022 เวลา 13:00 • คริปโทเคอร์เรนซี
ไทย ผงาดอันดับ 1 ประเทศที่มีผู้ใช้ NFT มากที่สุดในโลก ด้วยจำนวนกว่า 5 ล้านรายในปี 2564
ข้อมูลจากรายงาน Digital Economic Compass 2022 ของ Statista (สตาติสตา) ระบุว่า ในปีที่แล้ว สินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง “NFT” ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากในกลุ่มประเทศตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงไทย จีน และเวียดนาม
1
ไทย ผงาดอันดับ 1 ประเทศที่มีผู้ใช้ NFT มากที่สุดในโลก ด้วยจำนวนกว่า 5 ล้านรายในปี 2564
ในกลุ่ม 5 อันดับแรกของประเทศที่มีผู้ใช้ NFT มากที่สุดในโลกเมื่อปี 2564 ไทยรั้งอันดับ 1 โดยมีผู้ใช้ทั้งหมดมากถึง 5.65 ล้านราย
ตามมาด้วยอันดับ 2 บราซิลที่มีผู้ใช้ 4.99 ล้านราย สหรัฐ มีผู้ใช้ 3.81 ล้านราย จีน มีผู้ใช้ 2.68 ล้านราย และเวียดนาม มีผู้ใช้ 2.19 ล้านราย
1
ขณะที่อันดับ 6-10 ได้แก่ อินเดีย 1.5 ล้านราย แคนาดา 1.4 ล้านราย อินโดนีเซีย 1.25 ล้านราย เยอรมนี 1.23 ล้านราย และแอฟริกาใต้ 1.23 ล้านราย
เมื่อเทียบกับขนาดประชากรของประเทศ ไทยยังนำหน้าประเทศอื่น ๆ ในกลุ่ม 10 อันดับแรกนี้ โดยครองสัดส่วนผู้ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลถึง 8.08% ของประชากรทั้งประเทศ ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับแคนาดาที่มี 3.67% และบราซิลซึ่งมีเพียง 2.33% เท่านั้น
ข้อมูลจากนิตยสารฟอร์บส (Forbes) ระบุว่า ปัจจุบัน NFT ถูกกำหนดให้เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใช้แทนวัตถุในโลกความเป็นจริง เช่น ศิลปะ ดนตรี ไอเทมในเกมและวิดีโอ มักถูกซื้อและขายทางออนไลน์ด้วยคริปโทเคอร์เรนซี
Chainalysis (เชนนาไลซิส) บริษัทข้อมูลด้านบล็อกเชน ระบุว่า นับถึงสิ้นปี 2564 มีรายงานว่า มูลค่าตลาด NFT เติบโตเป็นกว่า 4.1 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือเกือบเทียบเท่ามูลค่าตลาดศิลปะแบบดั้งเดิม ซึ่งอยู่ที่ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2563
อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า ตลาด NFT ประสบภาวะขาลงอย่างหนักเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากยอดขาย NFT ลดลงสู่ระดับเฉลี่ยประมาณ 19,000 รายการต่อวัน ลดลง 92% จากระดับสูงสุดที่ 225,000 รายการต่อวันในเดือน ก.ย. 2564 สาเหตุจากกระแสหวาดกลัวการหลอกลวง รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ทำให้ผู้คนไม่ค่อยกล้าที่จะลงทุนในสินทรัพย์ความเสี่ยงสูง
แม้ขณะนี้ทั่วโลกกำลังเผชิญความท้าทายจากปัจจัยหลายด้าน รวมถึงความผันผวนในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล แต่ Statista คาดว่า รายได้ในตลาด NFT ทั่วโลกจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังมียอดขายกว่า 1,585 ล้านดอลลาร์ในปี 2564 ขยายตัวเกือบ 9,700% เทียบกับปี 2563
ส่วนในปี 2565 คาดว่า ยอดขาย NFT จะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 2,800 ล้านดอลลาร์ และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนทะลุ 8,100 ล้านดอลลาร์ในปี 2569 หรือคิดเป็นอัตราเติบโตราว 287% เทียบกับปี 2561 ช่วงที่สินทรัพย์ดิจิทัลยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก โดยขณะนั้นมียอดขาย NFT ทั่วโลกเพียง 2 แสนดอลลาร์เท่านั้น
โฆษณา