21 มิ.ย. 2022 เวลา 10:00 • ข่าวรอบโลก
‘เงินเฟ้อ-เศรษฐกิจถดถอย’ งานหินพิสูจน์ฝีมือรัฐบาล ‘ไบเดน’
ตอนนี้นักลงทุนและผู้สังเกตุการณ์ทั่วโลกจับตามองแทบไม่กระพริบว่าขุนคลัง ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ และประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะกุมบังเหียนเศรษฐกิจไปในทิศทางใดเพื่อให้สามารถฝ่ามรสุมเงินเฟ้อ และหลีกเลี่ยงเศรษฐกิจถดถอยให้ได้มากที่สุด
‘เงินเฟ้อ-เศรษฐกิจถดถอย’ งานหินพิสูจน์ฝีมือรัฐบาล ‘ไบเดน’
"เจเน็ต เยลเลน" รัฐมนตรีคลังสหรัฐให้สัมภาษณ์รายการ This Week ทางสถานีโทรทัศน์เอบีซี เมื่อวันอาทิตย์ (19 มิ.ย.) ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ กำลังพิจารณามาตรการยกเว้นภาษีน้ำมันเป็นการชั่วคราว พร้อมทั้งพิจารณาลดภาษีนำเข้าสินค้าบางประเภทจากจีน เพื่อช่วยผู้บริโภคชาวอเมริกันรับมือกับภาวะเงินเฟ้อในประเทศที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ที่อาจสั่นคลอนเก้าอี้ผู้นำของไบเดนด้วยเหมือนกัน
ทั้งนี้ รัฐบาลไบเดนกำลังพิจารณาว่าจะทำอย่างไรกับมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่ากว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ ที่ออกโดยอดีตปธน.ทรัมป์ ซึ่งแม้จะมีธุรกิจบางส่วนได้ประโยชน์จากมาตรการภาษีดังกล่าว แต่ก็ส่งผลเสียต่อกิจการในสหรัฐที่ต้องนำเข้าสินค้าจากจีนเพื่อใช้เป็นปัจจัยในการผลิต
“เรากำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการ และผมกำลังตัดสินใจเรื่องนี้” ปธน.ไบเดน กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังถูกถามว่าเขาตัดสินใจที่จะยกเลิกมาตรการเรียเก็บภาษีนำเข้าจากจีนหรือไม่
1
ด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวรายหนึ่งว่า ประธานาธิบดีไบเดน และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน อาจโทรศัพท์หาหารือกันเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างเร็วที่สุดในเดือนก.ค. แต่การพบกันแบบตัวต่อตัวอาจต้องรอไปจนกว่าการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนสิ้นสุดในลงในช่วงปลายปีนี้
นอกจากนี้ ปธน.สี ซึ่งต้องการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีและหัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์เป็นสมัยที่ 3 ก็ระงับการเดินทางไปต่างประเทศนับตั้งแต่ที่โควิด-19 ระบาดในจีนเมื่อปี 2563
ในส่วนของเจ้าหน้าที่สหรัฐกำลังดำเนินการจัดเตรียมการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างปธน.ไบเดนกับปธน.สี ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนปีนี้ ในขณะที่เกิดความตึงเครียดระหว่างสองชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ทั้งในเรื่องไต้หวัน, ยูเครน และประเด็นสิทธิมนุษยชน
รัฐมนตรีคลังสหรัฐ บอกว่า ประธานาธิบดีไบเดน ต้องการทำทุกวิถีทางเท่าที่จะทำได้ เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคชาวอเมริกันที่กำลังเผชิญภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้นตาม อัตราเงินเฟ้อ ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมากกำลังสร้างภาระให้กับครัวเรือนอเมริกันอย่างชัดเจน
1
เยลเลน ซึ่งแถลงต่อสมาชิกสภานิติบัญญัติเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยังบอกด้วยว่า คณะบริหารของปธน.ไบเดนกำลังเตรียมปรับโครงสร้างมาตรการภาษีใหม่ และยอมรับว่ามาตรการภาษีดังกล่าวเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาสินค้าแพงขึ้น รวมถึงอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐทะยานแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี
1
ราคาน้ำมันในสหรัฐแตะระดับสูงสุดที่ 5 ดอลลาร์ต่อแกลลอนในขณะนี้ ถือเป็นระดับราคาที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเยลเลนมองว่า การยกเว้นภาษีน้ำมันที่ 18 เซนต์ต่อแกลลอนในกรอบระยะเวลาหนึ่ง เป็นหนึ่งในมาตรการที่อาจจะนำมาพิจารณาปรับใช้ได้และเธอเชื่อว่า ปธน.ไบเดนจะผลักดันเรื่องนี้ในสภาคองเกรสด้วยเช่นกัน
2
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ปธน.ไบเดน ส่งจดหมายไปยังบริษัทน้ำมันรายใหญ่ 7 แห่ง ให้ช่วยเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันปรับลดลงมา ทั้งยังกล่าวด้วยว่า ผลกำไรที่สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ของบรรดาบริษัทน้ำมันเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ท่ามกลางภาวะที่ราคาน้ำมันหน้าปั๊มในสหรัฐทะยานสูงแบบนี้
เยลเลน ย้ำว่า อัตราเงินเฟ้อในขณะนี้สูงขึ้นในระดับที่ไม่อาจยอมรับได้ และเหตุผลหนึ่งก็มาจากการบุกยูเครนของรัสเซียที่ดันราคาน้ำมันและราคาอาหารพุ่งสูงขึ้นทั่วโลก โดยผู้บริโภคอเมริกันอาจไม่ได้รับการบรรเทาผลกระทบอย่างรวดเร็วนักแม้ว่ารัฐบาลจะพยายามช่วยเหลือผ่านหลากหลายมาตรการ แต่เยลเลนก็เชื่อว่า สถานการณ์เงินเฟ้อจะค่อยๆ ปรับตัวคลี่คลายลงมา
ส่วนความกังวลเรื่องเศรษฐกิจในภาพรวม เยลเลน คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจชะลอตัวลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่ไม่เชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะถึงขั้นถดถอย
“ดิฉันไม่คิดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย เมื่อพิจารณาจากตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภค และการลงทุนในภาคเอกชนที่แข็งแกร่งมาก ดิฉันทราบดีว่าประชาชนมีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ แต่ขณะนี้ ยังไม่มีสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย”เยลเลน กล่าวในการประชุม ซึ่งจัดขึ้นโดยหนังสือพิมพ์ นิวยอร์ก ไทม์สในช่วงที่ผ่านมา
นอกจากนี้ เยลเลน ยังกล่าวปกป้องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีไบเดน หลังจากที่สมาชิกพรรครีพับลิกันบางคนกล่าวโจมตีว่าเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปีมีสาเหตุจากมาตรการ American Rescue Plan (เออาร์พี) วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีไบเดน
“เราเห็นเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นในบรรดาประเทศที่พัฒนาแล้วเกือบทุกประเทศทั่วโลก ซึ่งพวกเขาก็มีการใช้นโยบายการคลังที่แตกต่างกัน ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่เงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นในสหรัฐมีสาเหตุจากเออาร์พี และการแก้ไขภาวะเงินเฟ้อยังคงเป็นเป้าหมายหลักของประธานาธิบดีไบเดน”เยลเลน กล่าว
นอกจากนี้ เยลเลน ยังกล่าวว่า หากขณะนี้เธอยังดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เธอจะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน แม้ว่าก่อนหน้านี้เธอออกมายอมรับความผิดพลาดเกี่ยวกับการประเมินสถานการณ์เงินเฟ้อก็ตาม
เยลเลน คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันเบนซินในสหรัฐจะยังไม่ชะลอตัวลงในระยะใกล้นี้ ซึ่งอาจจะทำให้ภาคครัวเรือนรู้สึกกังวล แต่ถึงกระนั้น เธอก็เชื่อมั่นว่าชาวอเมริกันจะยังคงมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ เมื่อพิจารณาจากตลาดแรงงานของสหรัฐในขณะนี้ที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
แม้เยลเลนยังคงมีมุมมองบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศแต่แนวโน้มเก้าอี้ประธานาธิบดีของไบเดนไม่น่าจะมั่นคงนัก โดยผลสำรวจของรอยเตอร์/อิปซอส เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ระบุว่า คะแนนนิยมของประธานาธิบดีไบเดนลดลง 3 สัปดาห์ติดต่อกันแตะที่ 39% เข้าใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 36% ของเมื่อปลายเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของการดำรงตำแหน่งปธน.
ผลสำรวจทั่วประเทศบ่งชี้ว่า มีชาวอเมริกันถึง 56% ไม่พอใจการทำงานของปธน. โดยคะแนนนิยมของปธน.ไบเดนอยู่ระดับต่ำกว่า 50% มาตลอดตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า พรรคเดโมแครตอาจสูญเสียที่นั่งในสภาคองเกรสอย่างน้อย 1 ที่นั่งในการเลือกตั้งกลางเทอมในวันที่ 8 พ.ย.ปีนี้
โฆษณา