21 มิ.ย. 2022 เวลา 13:30 • การเมือง
เกิดมาต้องแทนคุณแผ่นดิน วาทกรรมทวงหนี้บุญคุณอย่างเอาแต่ได้
#เสียงนกเสียงกาจากปักษ์ใต้ โดย กัมพล จิตตะนัง
cr.panumard.com
(1)
“พรือ ๆ พวกเขาเคยมีบุญคุณต่อประเทศชาติ” บางถ้อยคำจากปากของหญิงชราที่พยายามบอกเหตุผลว่า ทำไมเด็ก ๆ และคนรุ่นใหม่ไม่ควรไปสนับสนุนการปฏิรูปสถาบัน ผมรับฟังและไม่ได้โต้เถียงด้วยถ้อยคำใด ๆ เพราะเชื่อว่า เธอเชื่ออย่างนั้นจริง ๆ เธอเชื่อว่า เราทุกคนไม่ควรเนรคุณและต้องกตัญญูต่อสถาบัน ประเทศนี้เป็นของคนในสถาบัน และความจงรักภักดีเป็นคุณธรรมที่เรา ๆ จะต้องถือปฏิบัติ
(2)
ผมไม่ได้ตั้งคำถามต่อความเชื่อ แต่ผมตั้งข้อสงสัยว่า อะไรที่ทำให้เธอและคนอีกมากมายเชื่อแบบนั้น อะไรกันแน่ที่ทำให้ความเห็นของผู้คนในสังคมไทยเป็นความเห็นต่างที่สร้างความขัดแย้งได้มากมายและสร้างผลกระทบได้มหาศาลตลอดหลายปีที่ผ่านมา
เธอเกิดมาในยุคเปลี่ยนผ่านจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชมาสู่ระบอบประชาธิปไตย กลิ่นอายอำนาจความเป็นใหญ่ของกษัตริย์เหนือทุกสิ่งทุกอย่างยังคงอบอวลอยู่บนแผ่นดินไทย
อย่างน้อย ๆ ทุกคนยังเรียกผู้ปกครองสูงสุดของประเทศว่า พระเจ้าแผ่นดิน นั่นคือ มีใครสักคนนั่งอยู่บนบัลลังก์และใครคนนั้นก็เป็นเจ้าของทุกสิ่งทุกอย่างบนแผ่นดินนี้
และใครคนนั้นมีความชอบธรรมทั้งหมดอยู่ในมือทั้งสองข้าง เราที่เป็นประชาชนก็เป็นแค่ผู้พักพิงชั่วคราว หรืออาจจะคลับคล้ายคลับคราว่า เป็นแค่ผู้เช่าอาศัยที่ไม่อาจร่วมเป็นเจ้าของแผ่นดินนี้ได้
แต่ทั้งหมดทั้งหลายแหล่ก็ไม่ได้แย่ไปกว่า เราต่างเป็นหนี้บุญคุณที่ไม่มีวันชดใช้ได้หมดและไม่ใช่แค่คนรุ่นเราแต่จะสืบต่อไปสิ้นชั่วลูกหลาน เราเป็นหนี้สืบต่อกันมาหลายร้อยปี แม้จะจ่ายภาษีไปมากเท่าไรก็ยังไม่ใกล้เคียงกับการปลดเปลื้อง เราต้องทำอย่างไรจึงจะเป็นอิสระจากภาระนี้ หรือจริง ๆ แล้วเราไม่ได้เป็นหนี้บุญคุณใครทั้งนั้น เรามีหนี้ที่ต้องชดใช้จริงหรือเปล่า หรือเราแค่ถูกหลอกให้เชื่อว่าเป็นหนี้ก็เท่านั้น
(3)
“ผมมั่นใจว่า คนไทยทุกคนเข้าใจคำว่า บุญคุณ และประสงค์จะตอบแทนบุญคุณแผ่นดินด้วยกันทุกคน แต่ทำในระดับต่างกัน ขนาดต่างกัน ด้วยความแน่วแน่ต่างกัน ฉะนั้นบางคนก็เป็นคนดีมาก บางคนก็เป็นคนดีน้อย บางคนก็เป็นคนไม่ดี" ประโยคข้างต้นผมไม่ได้พูด แต่ผมหยิบมาจากบทความพิเศษ “เกิดมาต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน” เขียนโดย พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ
เปรมเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของสถาบัน เมื่อเปรมออกมาพูดหรือเขียนอักษรใดก็ตามนั่นย่อมชี้นำความเข้าใจของคนทั่วไปให้นึกไปถึงสิ่งที่สถาบันอยากจะบอกกล่าวแก่ชาวราษฎรทั้งหลาย
และคำว่าบุญคุณที่เปรมบอกออกมาก็เข้าใจได้ไม่ยากนัก ถ้อยคำเรียกร้องคำโต ๆ ของเปรมได้แบ่งคนออกเป็นกลุ่ม ๆ อย่างน้อยก็ 3 กลุ่ม นั่นคือ กลุ่มคนดี กลุ่มคนดีน้อยและกลุ่มคนไม่ดี โดยทั้งหลายแหล่ก็แค่เอาเรื่องบุญคุณและตอบแทนบุญคุณมาเป็นตาชั่งวัดค่าความเป็นคน
เปรมนิยามไว้ว่า “การตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน คือ การประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดี เป็นสถาบันที่ดี เป็นองค์กรที่ดี เป็นตัวอย่างที่ดี มุ่งกระทำแต่ความดี เพื่อประโยชน์ของแผ่นดิน”
แล้วไงต่อ แล้วการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินต้องทำยังไงกันแน่ ทำแบบไหนจึงจะถูกใจเจ้านายและถูกเรียกขานว่าเป็นคนดีอย่างที่เจ้านายทั้งหลายต้องการ ต้องถือศีล 5 ให้ครบบริบูรณ์ หรือต้องขยันทำงานและจ่ายภาษีให้ครบตามที่กฎหมายกำหนด หรือต้องสงบปากสงบคำไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง (หากรัฐบาลไม่อยากให้ยุ่ง) ฯลฯ แต่ทุกอย่างก็เพื่อประโยชน์ของแผ่นดิน
(4)
เพื่อประโยชน์ของแผ่นดิน คืออะไร ?
แผ่นดินในที่นี่คืออะไรกันแน่ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับพระเจ้าแผ่นดินหรือเปล่า หรือแผ่นดินคือประเทศชาติ แล้วประเทศชาติคือผืนแผ่นดินที่เราใช้ชีวิตอยู่หรือเปล่า หรือคือขอบเขตอธิปไตยที่รัฐมีอำนาจจัดการทุกสิ่งทุกอย่าง หรือประเทศชาติคือประชาชน แต่ตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมาประเทศชาติไม่เคยเท่ากับประชาชน
การสำนึกบุญคุณและการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินอาจจะไม่ใช่การทำเพื่อประชาชนคนในชาติ
แต่อาจจะหมายถึงการสำนึกต่อบุญคุณของผู้ปกครองแผ่นดิน
อาจจะหมายถึง การยอมรับการถูกปกครอง
การสงบปากสงบคำไม่พร่ำบ่นตำหนิการใช้เงินภาษีของรัฐ
การก้มหน้าก้มตายอมรับชะตากรรมที่เกิดขึ้นบนแผ่นดินนี้
และฯลฯ
โดยเฉพาะไม่ควรวิพากษ์วิจารณ์หรือแสดงออกใด ๆ ว่าไม่พอใจหรือไม่จงรักภักดีต่อสถาบัน นั่นรวมถึงสถาบันตั้งแต่ครั้งอดีตกาลก่อนมีประเทศไทยในโลกใบนี้
คนปักษ์ใต้เป็นหนี้บุญคุณอาณาจักรสุโขทัยตั้งแต่เมื่อไร ไม่เคยรู้มาก่อน
คนปักษ์ใต้เป็นหนี้บุญคุณอาณาจักรอยุธยา แต่อยุธยาเป็นศัตรูของประเทศบนแหลมมลายู อยุธยาชนะสงครามและปกครองทุกดินแดนในฐานะประเทศราช ไม่เคยเป็นแม้แต่มิตรสหายที่ดี
คนปักษ์ใต้เป็นหนี้อาณาจักรธนบุรี แต่กรุงธนบุรีไม่ปล่อยให้เราเป็นอิสระ ยกทัพมาปราบปรามเมื่อเราประกาศเอกราช และปกครองเราไม่ต่างจากอยุธยา
คนปักษ์ใต้เป็นหนี้บุญคุณอาณาจักรรัตนโกสินทร์ แต่เราสิ้นเอกราชถาวรและความเป็นประเทศราชในราชการที่ 5 ก่อนถูกบังคับให้เป็นส่วนหนึ่งของสยาม รัฐเอาแต่ประโยชน์แต่ทิ้งขว้างประชาชนมาตลอดหลายร้อยปี
(5)
เราถูกสอนกันมาว่า ผู้นำ(คนเดียวหรือครอบครัวเดียว)เท่านั้นที่มีบุญคุณต่อคนหมู่มาก ยามสงครามในทุกยุคสมัย จะมีสักกี่คนตายและคนเป็น ทั้งพ่ายแพ้และชนะศึกสงครามที่จะถูกจารึกไว้ในฐานะวีรบุรุษ มีน้อยคนที่ถูกจดจำและมีไม่กี่คนที่ถูกยกให้เป็นผู้มีบุญคุณเหนือคนส่วนใหญ่
ทุกสงครามที่สร้างชัยชนะมีคนร่วมรบมากมาย แต่ทั้งคนตายและคนรอดตายก็ไม่มีใครได้เป็นเจ้าหนี้บุญคุณ เพราะประเทศนี้มีเจ้าของ แผ่นดินมีเจ้าแผ่นดิน ความดีเกือบทั้งหมดจึงตกไปเป็นของพระเจ้าแผ่นดินและตกสืบทอดต่อกันมาชั่วสิ้นลูกหลาน
เมื่อมีคนลุกขึ้นมาพูดวิพากษ์วิจารณ์สถาบันด้วยความหวังดี คนเหล่านี้ก็จะถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย และถูกตราหน้าว่าเป็นคนเนรคุณแผ่นดิน ไม่สำนึกต่อบุญคุณของสถาบัน
ประเทศไทยเพิ่งเกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เราไม่ควรอ้างบุญคุณของใครต่อใครในสมัยสุโขทัย อยุธยา ธนบุรีหรือแม้แต่ต้นรัตนโกสินทร์ เพราะหลายแผ่นดินที่ถูกบังคับควบรวมเข้าเป็นประเทศไทยไม่เคยเป็นหนี้บุญคุณของใคร
โฆษณา