24 มิ.ย. 2022 เวลา 00:26 • ความคิดเห็น
ถนนบางสายต้องเดินเพียงลำพัง...ถึงนักล่าฝันทุกๆคน
มนุษย์เราหากเอาความเชื่อเข้ามาจับจะถูกแบ่งออกเป็นสองประเภทด้วยกัน คือพวกที่ต้องเห็นกับตาเป็นเชิงประจักษ์แล้วจึงเชื่อ กับพวกที่มีความเชื่อในจิตใจก่อนแล้วจึงสร้างมันออกมาให้ผู้คนเห็นเป็นเชิงประจักษ์
ประเภทแรกนั้นไม่ค่อยที่จะซับซ้อนเท่าไหร่พวกเขาจะทำอะไรๆเหมือนๆคนอื่น ทำตามกันมาหรือไม่ก็ทำตามระบบหรือวัฒนธรรมขององค์กร ผู้คนเหล่านี้เน้นความปลอดภัยในชีวิตมากกว่าไหนๆพวกเขาจะไม่ยอมเสี่ยงและชีวิตนี้พวกเขามีความสุขกับความสงบในขั้นตอนต่างๆที่มองเห็นและที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้วเท่านั้นนี้คือลักษณะการใช้ชีวิตของคนประเภทที่หนึ่ง
ส่วนคนประเภทที่สอง พวกที่มีความเชื่อในใจก่อนแล้วจึงทำให้เห็น
คนประเภทนี้เป็นพวกที่น่าสนใจมากความฝันของพวกเขาเกิดขึ้นในเวลากลางวัน เกิดขึ้นอย่างเป็นขั้นเป็นตอนจากการมองเห็นในจินตนาการ ว่าสิ่งนั้นต้องทำให้เกิดขึ้นตามแผนการที่พวกเขาได้วางเอาไว้ในหัวจากนั้นพวกเขาก็สร้างความเชื่อของพวกเขาออกมาให้ผู้คนเห็นเป็นเชิงประจักษ์แก่สายตาผู้คน เมื่อผู้คนประเภทที่หนึ่งเห็นและยอมรับพวกเขาก็จะทำตามสิ่งที่เห็นนี้ต่อๆกันมาอีกที
แต่ทว่าเส้นทางของพวกเขาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบดอกกุหราบหรอกกว่าจะได้ในสิ่งที่เชื่อนั้นพวกเขาจำเป็นที่จะต้องออกเดินทางเพียงลำพัง เพื่อที่จะถากถางเส้นทางใหม่ๆขึ้นมา มันไม่ง่ายเลยเพราะทุกอย่างกว่าจะได้มาต้องแลกมากับความอดทนทั้งทางร่างกายและจิตใจ เมื่อวันหนึ่งอ่อนแอลงต้องทำยังไง เมื่อหมดกำลังใจลง เมื่อไม่อยากทำต่อไปอีกแล้ว เมื่อผู้คนบอกว่าไม่สำเร็จ
เมื่อครอบครัวไม่เห็นด้วย และเมื่อเงินหมดมือลงความกลัวต่างๆนาๆก็เริ่มเข้าครอบงำแต่ทว่าพวกเขาก็ยังยืนหยัดรับมือกับมันเเละเดินเพียงลำพังจนมันสำเร็จ วันนี้ก็ได้แต่ถามตัวเองว่าอุปสรรค์ที่เราเจอนั้นได้ครึ่งหนึ่งของคนที่เขาทำสำเร็จแล้วหรือยังหรือว่าเราเอาแต่หาข้ออ้างเพื่อให้ตัวเองสบายใจและล้มเลิกไป
มันคงไม่ยุติธรรมที่เราจะเชื่อจากเฉพาะที่เขาเล่าแต่ด้านดีๆหลังจากตอนที่ทำสำเร็จแล้วให้ฟัง เพราะกว่าจะมีวันนั้นได้มันไม่ง่ายเลยแทบจะไม่เคยมีใครขอดูแผลที่หลังของเหล่าวีรบุรุษเลย พวกเขาสนใจเเต่เพียงแค่ชุดเท่ห์ๆและเหรียญกล้าหาญ…ขอเป็นกำลังใจให้สำหรับท่านที่กำลังเดินถากถางทางของตัวเองเเต่เพียงลำพัง เราคือพวกประเภทเดียวกัน...
โฆษณา