อยากได้ "โอกาส" ก็ต้องไขว่คว้า
หลาย ๆ คนคิดว่า "โอกาส" เป็นเรื่องของดวง แต่จริง ๆ ถ้าอยากได้ "โอกาส" เราก็ต้องเสาะแสวงหามันต่างหาก
ตัวอย่างที่ดีก็คงหนีไม่พ้นคนอย่าง Steve Jobs ซึ่งคนอาจจะเห็นว่า คนอย่างเขา ไม่น่าจะก้มหัวให้ใครขออะไรใครง่าย ๆ แต่เขาเคยเล่าถึงประสบการณ์สมัยเขายังเด็กว่า
สมัยที่เขาอายุ 12 ปี (ถ้าเป็นคนไทย ก็คงอยู่สัก ป. 4-5) เขาอยากสร้างเครื่องวัดความถี่ (frequency counter) เขาจึงพยายามจะสร้างเอง แต่ไม่สามารถหาชิ้นส่วนได้ จึงอยากจะขอชิ้นส่วนเหลือ ๆ จากบริษัท Hewlett-Packard เขาจึงหาชื่อของผู้ก่อตั้ง (Bill Hewlett) จากในสมุดโทรศัพท์
สำหรับคนที่เกิดไม่ทัน เมื่อก่อนจะมีสมุดโทรศัพท์ที่บอกเบอร์ของทุกคนเอาไว้ให้หากันได้ ถ้าเป็นสมัยนี้คงเป็นขุมทรัพย์ของแก๊งค์ call center) และโทรไปหาโดยตรง (cold calling) ปรากฏว่า พอเขาโทรไปหา เขาก็ต้องประหลาดใจว่า Bill Hewlett เป็นคนรับสายเอง
พอ Steve Jobs เริ่มเอ่ยปากเล่า Bill Hewlett ก็ขำขึ้นมาทันที แต่ด้วยความเฉลียวฉลาดเกินวัยของ Steve Jobs ก็ทำให้ Bill Hewlett ให้ความสนใจเขา และได้ส่งชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่เขาอยากได้ และเสนอให้เขามาทำงานในไลน์การผลิตเครื่องวัดความถี่ของ Hewlett-Packard ในที่สุด
เขายังบอกอีกว่า คนส่วนใหญ่ไม่เคยได้โอกาสอย่างที่เขาได้รับ เพราะคนเหล่านี้ไม่เคยที่จะลองขอ สำหรับเขาเอง เขายังไม่เคยเจอใครที่ไม่ยอมช่วยเขา เวลาที่เขาขอความช่วยเหลือเลย
และเขายังทิ้งท้ายไว้ว่า
คนส่วนใหญ่จะไม่แม้กระทั่งยกหูโทรศัพท์ เพื่อที่จะขออะไร และนั่นคือสิ่งที่แยกคนที่ทำอะไรได้กับคนที่มัวแต่ฝัน คุณต้องลงมือทำสิ คุณต้องกล้าที่จะล้มเหลว กล้าที่จะโดยปฏิเสธ กล้าที่จะพุ่งเข้าชน
ถ้าคุณกลัวที่จะล้มเหลว คุณจะไปไม่ได้ไกลหรอก....
Steve Job
หากวันนั้นเขาไม่แม้กระทั่งกล้าพอที่จะยกหูโทรศัพท์โทรไปหา Bill Hewlett เขาอาจจะไม่ได้สนใจเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์มากอย่างที่เห็น และวันนี้เราอาจจะไม่ได้รู้จัก Steve Jobs ก็ได้นะ
ในสหรัฐอเมริกาเอง หนึ่งในอาชีพที่คนใฝ่ฝันที่อยากจะเป็น คือ อาชีพวาณิชธนากร (Investment banker) ซึ่งเป็นอาชีพที่ได้เป็นยากมาก ๆ แต่ได้ผลตอบแทนดีมาก ๆ ถึงแม้ต้องทำงานหนักก็ตาม
เด็กที่กำลังจะเรียนจบ จึงมักจะใช้วิธีติดต่อไปหา คนที่ทำงานอยู่ในหน่วยงานนี้โดยตรง และพยายามที่จะหาช่องทางที่จะนัดคุย และขอโอกาสที่จะได้ทำงานให้ได้ ซึ่งหลาย ๆ คนก็ทำแบบนั้น จนได้งานในที่สุด ถึงแม้จะจบไม่ตรงสาย หรือได้เกรดเฉลี่ยไม่ดี
ตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ คือ Chris Gardner ที่เป็นแรงบันดาลใจของหนัง The Pursuit of Happyness ที่จากการที่เป็นคนไร้บ้าน พยายามจนได้เข้า trainee program ของ Dean Witter Reynolds บริษัทนายหน้าหลักทรัพย์ จนสามารถสร้างบริษัทนายหน้าของเขาเอง และกลายเป็นมหาเศรษฐีได้ในที่สุด
คุณล่ะครับ เริ่มหาโอกาสให้ตัวเองหรือยัง?
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
