Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
แก้วหนึ่งใบกับเบียร์สองขวด
•
ติดตาม
24 มิ.ย. 2022 เวลา 07:46 • การศึกษา
ปีนี้ลูกสาวคนโตจบม. 6 และต้องเข้ามหา'ลัย เราผู้เป็นแม่ก็ปล่อยเบลอในหัวมาตลอดเพราะสารภาพตามตรงว่าไม่เข้าใจระบบสอบเข้าที่เค้าเรียกกันว่า TCAST GAT PAT RAT CATอะไรนี่เลย แล้วแถมทุกรอบต้องดำเนินการผ่านhttps://student.mytcas.com/ ระบบกลางของทาง ทปอ.อีก
จนเข้าเทอม2 ก่อนลูกเรียนจบค่อยมานั่งหาข้อมูล นั่งดูไทม์ไลน์การสมัครสอบ
แล้วสมองน้อยๆจึงค่อยๆ อ๋อออออออออ และก็ เห้ออออออ สงสารลูกจัง
เอาล่ะ ไล่ไทม์ไลน์ก็มี
1. รอบ Portfolio คือ ส่งผลงาน เกรดอันดีงาม เกียรติบัตรที่สะสมไว้ รูปถ่ายสวยงาม กิจกรรมที่ทำมาทั้งหลายแหล่
: รอบนี้เหมาะกับเด็กกิจกรรม เด็กกะทิ เด็กเอเลี่ยน(ขออภัยเราเรียกแบบนี้เพราะเก่งเกินมนุษย์ไปเยอะ) อทิเช่น สอวน รอบ 2 อัพ เหรียญทองโอลิมปิก เหรียญนั่นนี่ระดับประเทศ ผลงานระดับจังหวัดระดับภาค ระดับประเทศไล่เรียงกันไป
อืมมมม ไม่ใช่way เด็กเกือบท้ายห้องเป็นไปไม่ได้ที่จะมีรูป port สวยสดงดงาม ผ่านนน....
2. รอบโควต้าจังหวัด เราอยู่ภาคตะวันออกแน่นอนว่าเป็น มหาวิทยาลัยบูรพา บางแสนนั่นเอง
: รอบนี้มหาลัยประจำภาคจะเปิดรับจำนวนค่อนข้างมากกว่ารอบที่เปิดรับทั่วประเทศ
เหมาะกับเด็กอยู่ในพื้นจังหวัดที่มหาลัยกำหนด โดยใช้คะแนน GAT PAT GPA GPAX และคะแนนขั้นต่ำ ไว้ที่ค่อนข้างสูง สำหรับสายสุขภาพจะไม่ร่วมกับ กสพท เรียกรอบนี้ว่ารอบนอก กสพท เหนือใต้ออกตก มีโควต้าทุกมหาลัย
โอเค เหมาะ!! ใช่ เกรดพอไปไหว เล็งรอบนี้ละจะได้หายปวดหัวไวๆ (ลูกสาวไม่อยากไปเรียนไกลๆ อย่างเหนือสุด ใต้สุด หรือ อีสาน กทม เธอยังแอบหวั่นๆ เธอติดบ้านนั่นแหล่ะเรื่องของเรื่อง)
3. รอบ แอดมิทชั่นกลาง
: รอบนี้คือการเอาคะแนนที่ได้จาก GAT PAT 9 สามัญที่สอบได้ยื่นกับระบบกลางเพื่อเลือกคณะที่จะเข้า ภายใต้เงื่อนไขการกำหนดขั้นต่ำ นั่นนี่ของแต่ละมหาลัย ซึ่งบอกตามตรงว่ารอบนี้หยุมหยิม ยึบยับมากกก คือแต่ละที่เงื่อนไขไม่เหมือนกัน ต้องไล่เปิดดู ไล่อ่านดู คำนวนคะแนนเพื่อยื่นคะแนน ประเมินตัวเอง ประเมินคู่แข่ง คะแนนสูงต่ำดำขาวของปีก่อน ฯลฯ คือจะบอกว่าแค่เล็งคณะว่ายากแล้ว การกล้าเอาคะแนนไปยื่นคือยากเข้าไปอีก
รอบนี้คือการประเมินตัวอย่างแท้จริง ใจถึงมากหลุดทั้ง10อันดับ นี่ดับจิตใจไปเลยนะ
4. รอบรับตรงของทางมหาลัย
: รอบนี้ในบางคณะที่รับเด็กเต็มตามจำนวนแล้วจะไม่เปิดรับ แต่บางคณะบางมหาลัยยังเปิดรับอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ทางมหาลัยกำหนดค่ะ
เสร็จจากการศึกษารอบการสมัครสอบแล้ว มาดูการสอบกัน ปวดหัว ปวดกระเป๋าตังค์กันไปค่ะ
1.สอบ Onet ปีนี้ทปอ ไม่นำคะแนนโอเน็ตเข้ามาคิดเลยไม่จำเป็นต้องสอบ แต่ของลูกสาว ทาง รร จัดการสมัครให้ทุกคนไม่เสียตังค์ ส่วนมาสอบทุกคนมั้ยไม่แน่ใจ ลูกสาวไปสอบครึ่งวันแล้วกลับบ้านค่ะ (เราบ่นเค้าเลยนะ ใหนๆไปแล้วก็น่าจะสอบให้เสร็จๆ)
2.GAT /PAT
GAT1(ทั่วไป) GAT2(ภาษาอังกฤษ)
PAT1(ความถนัดทางเลข)PAT2(ความถนัดทางวิทย์)
3.9วิชาสามัญ เนื่องจากลูกสาวเรียนสายวิทย์ คณิต เลยเลือกสอบไป7วิชา ภาษาไทย สังคม คณิต1 เคมี ชีวะ ฟิสิกส์ ภาษาอังกฤษ
อันนี้ให้ความรู้สึก หือ ทำไมต้องสอบซ้ำอีกอ่ะ อังกฤษข้างบนก็มีละจากGAT2 เลขก็มีละจาก PAT1
เอาเหอะเราไม่ใช่คนออกแบบการศึกษา แค่ทำความเข้าใจก็แย่ละ
4.กสพท ทุกคนที่จะสอบเข้าสายสุขภาพต้องสอบ กสพท เพื่อจะได้มีคะแนนในการยื่นรอบ 2 และ 3 (ในบางคณะไม่ได้ใช้แต่สอบไว้ก่อนละกัน)
เอาละจบสิ้นกระบวนการที่ต้องสอบ
มาลองคำนวนค่าใช้จ่ายกันดูนะ
-สอบโอเน็ต 100 บาท(ไม่ต้องจ่าย)
-สอบGAT/PAT สอบ9สามัญวิชา รวม 1120 บาท
-สอบกสพท 750 บาท
-ค่าสมัครโควต้าภาคตะวันออกสาขาละ 500 บาท ลูกสาวสมัครไป3 สาขา 1500 (แพทย์/เภสัช/วิทย์เครื่องสำอางค์)
-สมัครโควต้า CPIRD 500 บาท
อ๋า..บวกเลขกันไป สิริรวม 3970 บาท - 100 ที่ รร จ่ายให้เหลือ 3870 ไม่นับรวมค่าใช้จ่ายเดินทางไปสนามสอบนะ
ลูกสาวเลือกสอบที่ รร ตัวเอง ส่วน กสพท ไปสอบสนามกลางที่ ม.บูรพา
หลังออกจากห้องสอบที่ตารางจัดให้สอบPAT1รวมกับวิชาสามัญ หน้าตาลูกคือไม่ไหวแล้ว คือไม่เคยเห็นลูกอัดอั้นตันใจขนาดนี้มาก่อนน้ำตาไหลแล้วบอกว่าหนูทำไม่ได้ใจเรานี่วูบเลยนะคะ คิดว่าทำไมลูกเราต้องเครียดขนาดนี้ด้วยนะ เรียนออนไลน์มาเกือบ2ปี เจอข้อสอบเสยหมัดตรงเข้าไป หน้าหงายเลย
ปลอบใจลูก เอาเท่าที่เราทำได้แหล่ะ มันผ่านไปแล้วเราเต็มที่กับมันแล้ว ผลจะออกมาเป็นยังไงก็ตามนั้น
ลูกสาวเป็นเด็กห้อง SMTE ค่ะถ้าไล่เรียงตามเกรดจะอยู่ท้ายห้อง กะทิข้นจะอยู่หัวๆ 4.00 อะไรแบบนั้น ซึ่งลูกเราไม่ใช่ แม้จะเรียนพิเศษบ้าง เล่นบ้าง แค่อยากให้ลูกสนุกไปตามวัย และเราเห็นในช่วงก่อนสอบเค้าวางตารางตัวเองให้อ่านหนังสือแล้ว ลูกเต็มที่กับมันแล้ว ได้เท่าไรเอาเท่านั้น
เอาล่ะ หลังสอบทุกอย่างก็เสร็จปลดปล่อยค่ะ ปล่อยวาง ไปเที่ยวได้ ดูการ์ตูนได้โหลดติ๊กต่อกกลับมาดู ส่องทวิตตี้(ทวิตเตอร์) แล้วสารพัดปัญหาข้อสอบก็ตามมา ลูกสาวบอกตั้งกะออกจากห้องสอบว่าข้อสอบกำกวมมาก เค้าเอาปัญหามาเล่าให้ฟังเรื่อยๆ เราถึงต้องกลับไปส่องทวิตตี้ทุกวันใน #Dek65 โอ้ยสงสารเด็กๆมาก คือได้อารมณ์ร่วมสุดๆไปเลย แต่ก็นะ
เอาน่ะ ผ่านไป รออย่างเดียว คะแนนออกมาปุ๊ป....
เห้อ..............คะแนนไม่ถึงขั้นต่ำที่ยื่นรอบ 2 ตกรวด
แต่พอมหาลัยประกาศลดขั้นต่ำปั๊บ(มอบูทันใจมาก)เราสองคนแม่ลูกรู้สึกมีลุ้น แต่ไม่กล้าหวัง
ระหว่างลุ้น มานั่งคำนวนคะแนน ดูขั้นต่ำ ดูเงื่อนไขของคณะ เทียบคะแนนขั้นต่ำนั่นนี่ของมหาลัยอื่นที่จะยื่น คิดซิ เราจะเอาคะแนนที่มียื่นที่ใหนได้บ้าง
พร้อมๆกับหาข้อมูลไปด้วย จบมาแล้วจะทำงานอะไร แนวใหน เงินเดือนเท่าไร พอค่าครองชีพอีก 4-5ปีข้างหน้ามั้ย
ซึ่งช่วงที่ทรมานนี้กินเวลาประมาณอาทิตย์นึงแต่ทรมานเหมือนเป็นเดือนเลย
เครียดปวดหัว ปวดตา ปวดแขน กินข้าวไม่ลง มันรวนไปหมดเลย
ซีรงซีรีย์อะไรว่าสนุกดูไม่ได้เลย ไม่ไหว ไม่มีอารมณ์จะดู นั่งส่องแต่คะแนนสูงต่ำ นั่นนี่ ทำไมมันเครียดกว่าสมัยเราเอนทรานต์เมื่อ25ปีที่แล้วอีก
เอาละมาถึงวันประกาศผลโควต้า
อะฮ้าาาา ติดจ้า ติดแล้ว ดีใจมาก
แต่............ไม่สุดมันต้องสัมภาษณ์ก่อน มันต้องผ่านสัมภาษณ์ก่อนจะมาดีใจเก้อไม่ได้
และแล้ววันสัมภาษณ์ก็มา
ตรงนี้หาข้อมูลพื้นฐานของทางคณะไว้บ้าง ความรู้เฉพาะทางของคณะ ความรู้ทั่วไป ความมั่นใจ และสำคัญสถานะทางการเงินค่ะ
ผ่านไป รอผล ก็ลุ้นใจหายใจคว่ำไปอีก4-5วัน เอาล่ะ
ผลออกมาว่า มีรายชื่อติดละจ้าโอ้ยยยยยย แม่จะเป็นลมใจจะขาด ลูกมีที่เรียนแล้ว !!!!
**ต้องเข้าไปยืนยันสิทธิ์รอบ2ในระบบTCAS ไม่อย่างงั้นจะหลุด กดสิคะรออะไร ยืนยันเสร็จแล้ว ยังเข้าไปเช็คทุกวันเพราะกลัวผิดพลาด(ขั้นตอนนี้แม่นอยด์เองค่ะ)
***หลังจากกดยืนยันสิทธิ์ในรอบนี้แล้วจะไม่สามารถสมัครรอบ3ได้ละ ปล่อยวางได้
***นอกจากจะกดสละสิทธิ์ ซึ่งการสละสิทธิ์ในสายสุขภาพจะมีเงื่อนไขอีกคือ การสละสิทธิ์ของหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต, ทันตแพทยศาสตรบัณฑิต และเภสัชศาสตรบัณฑิตการสละสิทธิ์หลักสูตรเหล่านี้ จะไม่สามารถสมัครหลักสูตรที่สละสิทธิ์ไปแล้วของสถาบันเดิม หรือ ม.รัฐบาล ในรอบต่อไปได้ ยกเว้น ม.เอกชน***
เหมือนเป็นการบอกว่า ถ้าคุณไม่เอาสาขานี้คือเลือกที่อื่นไม่ได้ละนะยกเว้นเอกชนไปเลย เป็นการไม่กั๊กที่คนอื่น ที่นั่งรอบถัดไปจะได้ว่าง
ปัญหานี้เคยเกิดเมื่อก่อนเพราะเด็กเก่งจะเอาโควต้าพื้นที่ก่อน พอคะแนนออกมาสูงไปยื่นที่อื่นได้ด้วย ไปๆมาๆ ติด3-4ทีแล้วเลือกที่ดีที่สุดทำให้เกิดปัญหาเสียที่สำหรับคนอื่นที่ต้องการโควต้าค่ะ
โอเค เมื่อติดแล้วไงต่อ
เตรียมเอกสารไปตรวจร่างกายที่ รพ ตรวจตาบอดสี ผลออกมาตกกะปิ เอ้ย ปกติทุกอย่าง ส่งผลตรวจสุขภาพออนไลน์ และรออีก รอการยืนยันการรายงานตัวที่เหลือคือเป็นขั้นตอนกับทางมหาลัยแล้วค่ะ
จะบอกว่าตลอดเวลาตั้งแต่เริ่มสมัครสอบ จนถึงเสร็จสิ้น(ปัจจุบันที่พิมพ์คือมหาลัยกำลังเปิดรอบ4-5 ละ)
กินเวลายาวนานกว่า 5 เดือน
ขนาดแม่เป็นผู้ช่วย ช่วยการรับรู้ทุกทาง ช่วยเหลือลูกทุกอย่างทั้งข้อมูล ทั้งการเงิน ทั้งจิตใจ เรายังรู้สึกเลยว่าเด็กแบกความเครียด ความหวังของตัวเอง ของครอบครัวไว้เยอะมากๆ แล้วเด็กคนอื่นที่ไม่พร้อมเท่าลูกเราล่ะ .....
ได้ข่าวว่าปีหน้าเปลี่ยนระบบเรียกชื่อการสอบเข้าอีกแล้ว เปลี่ยนระบบอีกแล้ว เปลี่ยนผู้ออกข้อสอบอีกแล้ว
พอมาตามข่าวการศึกษาทำให้เห็นปัญหาอันน่ากลัวของการศึกษาไทยเยอะมากๆ แต่เราได้แต่บ่น ทำอะไรไม่ค่อยได้
ในเวลานี้เราสามารถปล่อยเบลอได้อีก 3 ปี เพราะลูกชายคนเล็กเพิ่งจะม 4 แต่อีกไม่เท่าไรเราคงต้องกลับมาลุยหาข้อมูลเพื่อตั้งรับ ระบบอะไรแปลกๆใหม่ๆของการศึกษาไทยอีกครั้ง
ลูกสาวติดคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพาค่ะ
ปล.ปีนี้คะแนนคณะเภสัชทุกมหาลัยรอบ3 คือสูงมาก สูงจนเด็กหลายๆคนผิดหวังเพราะยื่นไปก็ไม่ผ่านบางคนไม่กล้ายื่นหมอ ทันตะเพราะกลัวคะแนนเฟ้อเลยมาลงกันที่เภสัชกันหมด ทั้งที่ปีที่แล้วคะแนนไม่เว่อร์วังขนาดนี้ เลยรอซิ่วกันไปตามๆกัน
ปล.2 บ้านเราคุยกันไว้ว่าถ้าปีนี้ไม่ติดจะซิ่วสอบใหม่ปีหน้าก็ได้ จะซิ่วแบบไปเรียน หรือจะซิ่วอยู่บ้านก็ค่อยมาปรึกษากัน
ฝากถึงผู้ปกครองนะคะ ถ้าลูกเราเต็มที่แล้วไม่ได้คณะที่หวังตั้งใจกอดเค้าแน่นๆให้กำลังใจกันนะ มันอ่อนไหวมากๆ
และอีกส่วนที่สำคัญคือการเงินค่ะ การเรียนมหาลัยใช้เงินค่อนข้างมาก บางคณะค่าเทอมไม่แพง แต่อย่าลืมคิดถึงค่าครองชีพ ค่าเดินทาง ค่าหอพัก
การเปิดอกคุยกับลูกตรงๆเรื่องการเงินเป็นสิ่งที่ดี อย่าปิดบัง หรืออย่าให้ความหวังถ้าเราไม่สามารถทำได้ เราเห็นเด็กบางคนคุยกันในทวิตตี้ว่าคุยกับทางบ้านบอกไหว พอติดมาจริงๆบอกไม่มีเงิน มันดับฝันดับอนาคตเค้า ถ้าเราบอกเค้าไปตรงๆมันดีกว่าที่จะให้เค้าเตรียมใจและเลือกในสิ่งที่เหมาะกับชีวิตเค้าที่สุด(ในเวลานี้) ซึ่งในอนาคตเค้ามีสิทธิ์เลือกเองแล้วว่าจะใช้ชีวิตยังไง
(ค่าเทอมลูกเราโหดเอาเรื่อง กว่าจะเรียนจบ 6 ปีพอๆกับผ่อน CHR อีกคันนึงเลยทีเดียว)
จริงอยู่บางคนแม้จะจบมาสาขานึงอาจจะได้ทำงานอีกแบบนึงก็ได้
เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ระดับโครงสร้างของประเทศเรานะสร้างเด็กออกมาไม่ตรงกับอาชีพที่ตลาดแรงงานต้องการ หลักสูตรบางอย่างoutมาก ยิ่งมองยิ่งเห็น ยิ่งดูข้อมูลยิ่ง เห้อออออ
สุดท้าย ไม่ว่าจะเรียนที่ใหนก็เหมือนกัน(ซึ่งไม่จริงเลยในโลกของความเป็นจริงในประเทศเรา)
ไม่ว่าจะเรียนอะไรที่ใหนสาขาอะไร มันเป็นแค่การเริ่มก้าวเดินยังอีกยาวไกลมากกว่าจะถึงปลายทาง
การจบออกมาทำงานเลี้ยงชีพได้ด้วยสุจริตดูแลตัวเองได้อย่างดีหลังจากไม่มีพ่อแม่แล้วนั่นคือสิ่งที่เราหวังในตัวลูก
และก็แอบคาดหวังให้เด็กรุ่นใหม่ๆเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศเรา แทนคนรุ่นเก่าๆที่ทำให้ประเทศเราหยุดอยู่กับที่นะ
ช่วยพัฒนาการศึกษาไทยให้ดีกว่าทุกวันนี้ทีเถอะ
เรื่องเล่า
การเรียน
การเรียนรู้
บันทึก
2
5
2
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย