25 มิ.ย. 2022 เวลา 06:07
Me Too Marketing กลยุทธ์การตลาด
ที่เห็นคนอื่นทำแล้ว ขอ ทำตามด้วยคน
ในยุคที่ใคร ๆ ต่างมองว่า การสร้างความแตกต่าง
คือ หนึ่งในหัวใจสำคัญ ที่จะทำให้ท่านผู้ชมหันมาสนใจ
แตกต่างและ ไม่เหมือนใคร แล้วไม่ให้ใครเหมือน
แต่ก็ต้องยอมรับว่า บนโลกที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย
ไม่ใช่ทุกอย่างทำจะประสบความสำเร็จ ด้วยการสร้างความแตกต่าง
การที่ท่านผู้ชมจะเลือกฉีกกฎ ใช้ทางลัดในการโหนกระแส
สร้างชื่อเสียงโดยใช้เวลาอันสั้น ด้วยการทำการตลาดให้มีหน้าตา
คล้ายหรือใกล้เคียงกับผู้นำตลาด หรือ เจ้าใหญ่ๆที่อยู่ในตลาด
ไทย vtuber
กลยุทธ์การตลาดแบบที่ว่านี้ เรียกว่า
Me Too Marketing หรือ กลยุทธ์การตลาด
ที่เห็นคนอื่นทำ แล้ว ขอทำตามด้วยคน
ซึ่งเป็นกลยุทธ์คลาสสิกที่มีมาช้านาน
พวกสินค้าที่ท่านผู้ชมใช้กันอยู่ทุกวันนี้
ไม่ว่าจะเป็นแชมพูสระผม สบู่ เครื่องดื่ม เครื่องปรุงรส
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไปจนถึงสินค้าประเภทขนมขบเคี้ยว
และปัจจุบันลามมาถึง ธุรกิจที่ล้ำกว่านั้นอย่าง
เทคโนโลยี, smartphone, platform โซเชียลมีเดีย,
สตรีมมิง platform ที่คอนเทนต์ซ้ำกันไปซ้ำกันมา
ในโลกโซเชียลมีเดีย ฟีเชอร์ Story Short หรือ
ฟีเชอร์อัดและแชร์คลิปวิดีโอสั้น ที่มีจุดกำเนิดมาจาก
แอปใดแอปหนึ่ง ตอนนี้กลับกลายเป็นฟีเชอร์พื้นฐาน
ที่หลายแพลตฟอร์มมองว่า ต้องมีติดไว้ ไม่ว่าจะเป็น
Facebook, Twitter, YouTube, Instagram ฯลฯ
จะดูช่องไหน คอนเทนต์ก็เหมือนๆกัน
ไม่ได้มีช่องในดวงใจ จะช่องไหนก็ดูได้หมด
vtuber kumazaki mayu
การทำคอนเทนต์ก็เหมือนกัน ต่อให้จะซ้ำกันไปกันมา
ท่านผู้ชมก็มีสิทธิเลือกว่าจะเลือกดูอะไรไม่เลือกดูอะไร
ยิ่งแตกต่าง ก็ยิ่งน่าดึงดูให้ ท่านผู้ชมคลิกเข้ามาสนใจมากเท่านั้น
แน่นอนว่า หากคู่แข่งใช้กลยุทธ์นี้ ย่อมสร้าง
ความหนักใจให้กับคนที่เป็นผู้ริเริ่มและสร้างไอเดีย
เพราะแม้ว่า การเป็นแบรนด์ที่มาก่อน จะทำให้เกิด
ภาพจำในใจลูกค้า หรือ บางแบรนด์ อาจจะมีโอกาส
ครองส่วนแบ่งการตลาดส่วนใหญ่ได้ก็จริง แต่ก็ต้อง
เหนื่อยกับการต่อยอดจุดแข็ง ของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์
ให้ยากจะลอกเลียนแบบหรือ คิดหารูปแบบการตลาด
ที่ทำให้ยังครองส่วนแบ่งการตลาดไว้ได้ซึ่งอาจทำให้
บั่นทอนกำลังใจในการทำธุรกิจ และรู้สึกว่า จะทุ่มเท
สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ไปทำไม เดียวก็มีคนอื่นทำตามอยู่ดี
สู้รอทำตามคู่แข่งไปเลย อาจคุ้มค่ากว่า เสี่ยงน้อยกว่า
ซึ่งถ้าทุกคนกลัวและคิดอย่างนี้ นวัตกรรมก็อาจไม่เกิดขึ้น
กับวงการนั้น ๆ ส่วนในมุมของแบรนด์ที่เลือกเป็นผู้ตาม
แม้เส้นทางการเข้าสู่ธุรกิจจะมีทางลัดก็จริงอยู่
กลยุทธ์ Me Too Marketing
ก็เหมือนเหรียญที่มีทั้งสองด้านมีทั้ง
คุณและโทษ ขึ้นอยู่กับใคร จะมองมุมไหน
อย่างน้อยตราบที่โลก ยังมีแบรนด์ที่เป็นผู้นำ
และผู้ตามอย่างสมดุล ก็คงไม่ใช่ปัญหา
แต่หากวันใด ทุกแบรนด์หันมาใช้กลยุทธ์นี้
โลกใบนี้คงจะน่าเบื่อแย่ คุมะ
vtuberth
โฆษณา