1 ก.ค. 2022 เวลา 04:51 • ความคิดเห็น
ถอยเพื่อก้าว...
...เมื่อยุโรปกลับสู่ยุคถ่านหิน...
บางคนค่อนขอดยุโรปที่กลับมาใช้ถ่านหินเพื่อแก้ปัญหาพลังงานเฉพาะหน้า ว่าไร้สมอง อับจนหนทาง และจะกลับไปสู่ยุคหิน
มันอาจจริง สำหรับคำว่าอับจนหนทาง เพราะพวกเขาหาพลังงานอื่นมาแทนมากพอไม่ได้ จึงต้องย้อนยุคกลับไปที่ถ่านหิน ตามที่เป็นข่าว
...แต่ไส้ในของเรื่องนี้ มันไม่ใช่ทั้งการไร้สมอง หรือการถอยหลังเข้าคลองอย่างแน่นอน
ประเด็นสำคัญของเรื่องนี้ คือ มันเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น ไม่ใช่ว่าจะกลับไปใช้ถ่านหินกันตลอดไป
ปัญหาพลังงานที่ขาดแคลน หลายคนมองว่า ก็เพราะยุโรปไปแบนรัสเซีย แล้วก็เดือดร้อนเอง
...เรื่องนี้ผมพูดตรงๆนะ ไร้สาระ...
เหตุผลคือ ต่อให้ยุโรปไม่แบนรัสเซีย รัสเซียก็จะแบนยุโรป เพราะดันส่งอาวุธให้ยูเครน
1
...ไอ้เรื่องขู่ไม่ส่งแก๊สนั้น รัสเซียทำมาตลอดนั่นแหละครับ ไม่มีสงครามยังขู่เลย บางทีอ้างการซ่อมบำรุง ปิดเอาดื้อๆก็มี เหมือนบางประเทศติดกับบ้านเรานี่แหละ พฤติกรรมพอกัน เวลาไม่พอใจ
อันนี้ผมเชื่อว่าคนอยู่ยุโรปรู้ดี อย่างอิตาลีนี่โดนประจำ
( เพราะอิตาลีเป็นประเทศหลักที่ส่งซัพพลายผลิตอาวุธให้รัสเซีย ซัพพลายในที่นี้คือสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีบางอย่างที่รัสเซียไม่มี มากที่สุดคือระบบต่างๆในโรงงานผลิต
คือ รัสเซียเนี่ยมีเทคโนโลยีอาวุธครับ แต่พวกเขาห่วยมากเรื่องการจัดการสายพานการผลิตต่างๆ และมีเทคโนโลยีด้านอิเล็กทรอนิกส์ระดับนาโนต่ำมาก ก็เลยต้องซื้อจากที่อื่น
ดังนั้นเวลารัสเซียงอแง อิตาลีก็ต้องทำตามยุโรป รัสเซียก็จะใช้การตัดก๊าซขู่ อิตาลีเลยโดนบ่อยกว่าเพื่อน )
ดังนั้น ถ่านหินน่าจะเป็นเรื่องที่สหภาพยุโรปคิดมาพักใหญ่หลังสงครามเริ่มแล้วล่ะ ว่ายังไงก็ต้องนำกลับมาใช้
มันถึงค่อนข้างมีความพร้อมที่จะทำได้เลยในตอนนี้ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
ยุโรปกับถ่านหิน เป็นของคู่กันมาตั้งแต่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมโน่นแหละ
ใช้ถ่านหินกันมาตลอด ใช้เยอะจนเมืองเบอร์มิงแฮมในอังกฤษ ถูกเรียกว่าเมืองในหมอกเลยทีเดียว สมัยนั้นคนตายไปเพียบเพราะมลพิษเหล่านี้
แน่นอน ว่ามันไม่ใช่พลังงานสะอาด แต่ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันมันก็สะอาดจนพอรับได้นั่นแหละ โดยเฉพาะสถานการณ์แบบนี้ ที่มีความจำเป็นจริงๆ ไงก็ดีกว่าหนาวตายในหน้าหนาว
ถ้าพูดถึงตัวเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจากถ่านหินในโรงปั่นไฟ ว่ากันตามตรงตามมาตรฐานยูโร มันสะอาดกว่าเครื่องยนต์สันดาปด้วยน้ำมันของรถยนต์ที่วิ่งตามถนนเสียด้วยซ้ำ
แต่ปัญหาอยู่ที่การทำเหมืองจะให้ได้มาซึ่งถ่านหินต่างหาก มันสร้างฝุ่นเยอะ และค่อนข้างอันตราย แม้จะเป็นระบบปิดก็ตาม
...รัฐมนตรีของเยอรมันบอกว่า เป็นเรื่องขมขื่น แต่มันจำเป็น ซึ่งก็จริง ถ้ามองว่าพวกเขาอยากเลิกใช้มาหลายปีแล้ว...
แต่ถ้ามองความจำเป็น นี่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ทางเลือกหนึ่งเลย สำหรับยุโรปในระยะสั้น
เหตุผลคือ มันไม่ต้องพึ่งพารัสเซียเลย เพราะถ่านหินพวกเขามีเองมากพอสมควร และไม่จำเป็นต้องเผื่ออนาคตในอีก 10-20 ปี เพราะไงก็ต้องเลิกใช้อยู่แล้ว
เยอรมัน ประเทศที่เดือดร้อนมากที่สุด เพราะเอาพลังงานไปผูกไว้กับรัสเซียมากสุด เป็นประเทศที่มีถ่านหินค่อนข้างเยอะมากที่สุดชาติหนึ่งในยุโรป
1
...อุตสาหกรรมถ่านหินเยอรมันย่านลุ่มน้ำไรน์ ในรัฐนอร์ด ไรน์ ขึ้นชื่อมาก
...ถึงขนาดมีชื่อดาร์บี้แมทช์ฟุตบอลระหว่าง ดอร์ทมุนต์ - ชาลเก้ 04 ว่า เป็นดาร์บี้ถ่านหิน...
แถบสแกนดิเนเวียร์ โปแลนด์ ก็มีถ่านหินเยอะ และพวกแถบสแกนดิเนเวียร์ เขาไม่ได้ใช้แล้ว
ก็แน่นอนว่าพวกเขาส่งมาซัพพอร์ตได้เต็มที่ ถ้าจะต้องกลับมาใช้กันจริงๆ
...มิตรประเทศของยุโรป ที่ห่างไกลออกไป อย่าง ออสเตรเลีย , แคนาดา รวมถึงสหรัฐเอง ก็มีถ่านหินจำนวนมหาศาล ใช้อีกหลายสิบปีก็ไม่หมด
ความง่ายในการจัดส่ง ก็คงเป็นอีกเรื่องที่ยุโรปมองไว้ ถ่านหินนั้นขนส่งง่ายกว่าก๊าซธรรมชาติมากทีเดียว
ที่สำคัญอีกอย่างคือมันถูก ซึ่งส่วนนี้แหละสำคัญมาก ที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาเงินเฟ้อได้อย่างรวดเร็ว
ยังไม่นับว่า การฟื้นฟูอุตสาหกรรมถ่านหิน น่าจะช่วยการสร้างงานในยุโรปเองได้อีกระดับหนึ่ง
...สำหรับยุโรปแล้ว มันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด สำหรับตอนนี้จริงๆนั่นแหละ...
แนวคิดเดียวกับ ตัดแล้วต้องปลูก...
ในแนวคิดแบบตะวันตกนั้น ถ้าคุณตัดต้นไม้หนึ่งต้น คุณจะต้องปลูกต้นไม้แทนสิบต้น
...แนวคิดแบบนี้ ถูกนำมาใช้กับเรื่องนี้เช่นกัน...
เดิมนั้น ยุโรปตั้งเป้าว่าจะลดคาร์บอนให้ได้ 75% ในปี 2038
แต่พอมีนโยบายเอาถ่านหินกลับมาใช้ พวกเขากลับเร่ง ให้เร็วขึ้นเป็นปี 2030 หรืออีกแปดปีข้างหน้า
มันเป็นวิธีคิดเพื่อถัวเฉลี่ยการทำลายสิ่งแวดล้อมด้วยเวลา
ความหมายคือ
- ถ้าสร้างมลพิษด้วยถ่านหินตอนนี้มากขึ้น ก็ต้องสร้างในอนาคตให้นัอยลงเร็วชึ้น
- โดยอาถ่านหินมาใช้ให้มีไฟฟ้าไปเติมรถยนต์ในภาคขนส่ง มันก็สร้างมลพิษน้อยกว่า ให้รถยนต์น้ำมันปล่อยควันเสียไปอีกแปดปี ส่วนนี้คงถัวเฉลี่ยการสร้างและทำลายสภาพแวดล้อมไปได้บ้าง
....แนวการถัวเฉลี่ยการสร้างมลพิษ น่าจะเป็นลักษณะนี้แหละ เชื่อได้ว่านักวิทยาศาสตร์ยุโรปคงคิดคำนวณมาดีแล้ว ถึงผลดีผลเสียที่จะเกิดขึ้น...
ใครที่มองว่ายุโรปกำลังสิ้นไร้ไม้ตอก ลองคิดใหม่ให้ดีนะครับ
กับถ่านหินนี่คือยุโรปมันไม่ง้อใครจริงๆ แม้แต่อเมริกา
ราคาถ่านหิน ก็ไม่น่าจะพุ่งไปกว่าปัจจุบันมากนัก เพราะความต้องการมันน้อยลงมากในปัจจุบัน บางประเทศมองว่าเป็นขยะเสียด้วยซ้ำไป มันจึงน่าจะมีเสถียรภาพด้านราคาที่ดีกว่าก๊าซธรรมชาติ ที่ยุโรปเองควบคุมไม่ได้
การได้ราคาต้นทุนพลังงานต่ำ น่าจะช่วยฉุดเศรษฐกิจยุโรป ไม่ให้เงินเฟ้อมากไปกว่านี้ได้มากพอสมควร
และอีกส่วน อาจส่งผลต่อราคาก๊าซ น้ำมันในตลาดโลก ให้ลดลงอีกด้วย
...นั่นคงดีกับทุกคน ยกเว้นรัสเซีย...
เชื่อว่าในช่วงแปดปีจากนี้ ถ่านหินอาจเป็นผู้เล่นสำคัญของยุโรป แต่จะน้อยลงอย่างรวดเร็วในเวลาเดียวกัน
คือ ภายในแปดปี ที่ใช้พลังงานถ่านหินแก้ขัดไปนั้น ก็จะมีการเร่งลงทุนในพลังงานหมุนเวียนอื่นๆอย่างหนักไปด้วย
มันอาจเป็นใช้ไปสักสี่ปีห้าปี ลดถ่านหินไปครึ่งหนึ่ง แล้วเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทนที่สะอาดตามนโยบายเดิม ขึ้นมาแทนให้เร็วขึ้น
...แปดปี เป็นเวลาไม่มากนะครับ สำหรับระบบโลก...
...และแปดปีหลังจากนั้น กรรมจะกลับไปอยู่ที่ชาติขายน้ำมันแทน ที่จะต้องรับภาระเศรษฐกิจฝืดเคืองบ้าง จากรายได้ที่น้อยลง เพราะการเปลี่ยนผ่านพลังงานมาถึง...
เรียกว่าแลกกันคนละหมดแหละ วันนี้ทีเอ็ง อนาคตก็ทีข้าบ้างแหละ ล้างแค้นกันสิบปียังไม่สาย
...ผลจะเป็นอย่างไร วันนี้เราบอกไม่ได้หรอก...
...แต่ที่แน่ๆ นี่คือแผนฆ่ารัสเซียให้ตายในระยะยาวของยุโรป.
...การเร่งตัวของพลังงานทางเลือก น่าจะเร็วจนรัสเซียปรับตัวไม่ทัน เพราะแปดปีจากนี้ ยังไงรัสเซียก็คงโดนแบนอยู่ มีรายได้ทางเดียวคือพลังงานและขายแร่ธาตุ การลงทุนอื่นนั้นทำไม่ได้เลย
...ซึ่งนั่นไม่ใช่จำนวนเงินที่มากพอจะให้รัสเซียปรับตัวได้ในระยะยาว
1
...ประเทศใหญ่อย่างรัสเซียต้องใช้เงินเยอะครับ
ทำสงครามทุกวันนี้ก็ใช้เงิน
ถึงจะบอกว่าทุกวันนี้รับเงินเป็นพันล้านยูโรจากการขายน้ำมันในแต่ละวัน
แต่ทุกวันก็ต้องใช้กับสงครามหลายร้อยล้านเหมือนกัน
...รัฐบาลรัสเซีย มีภาระในการกอบกู้เศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างรุนแรงของรัสเซีย และยังต้องอุ้มภาคธนาคารอีก
 
...รายรับวันละพันล้านหักค่าใช้จ่ายจากสงคราม มันไม่มีทางจะทำให้เศรษฐกิจรัสเซียรอด และมีทุนรอนเก็บไว้ในระยะยาว เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงยุคพลังงานได้เลย
...เมื่อการเปลี่ยนแปลงพลังงานมาถึง รัสเซียจะกลายเป็นประเทศดาดๆ ใหญ่ แต่ยากจน ตามหลังชาติใหญ่อื่นๆ เป็นสิบปี และไม่เป็นภัยคุกคามกับพวกเขาอีก
...แผนของยุโรปคงเป็นแบบนั้นแหละ...
ที่จริงไทยแลนด์ก็ควรปรับตัวกันบ้างนะครับ น้ำมันแพงมันจะอยู่กับเราอีกนาน
จะดันทุรังใช้แต่ก๊าซ แต่น้ำมันแบบนี้ มันไม่ไหวมั้ง
ไอ้พวกที่ล้อฝรั่งว่ากลับไปยุคหินเนี่ย กรุณาดูด้วยว่าเขารู้จักปรับตัว ปรับแผน ไม่ใช่ทื่อๆแบบเรา เราน่ะสมควรจะทุเรศตัวเองเสียมากกว่า ที่ไม่รู้จักสถานการณ์
...พัฒนาพลังงานทางเลือกเต็มที่สักทีได้แล้วครับ...
...อันนี้ผมพูดถึงในส่วนภาครัฐนะ เอกชนน่ะเต็มที่อยู่แล้ว แถมทุกวันนี้ธนาคารยังมีสินเชื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะ ให้เอกชนกู้ด้วย...
...แต่รัฐบาลไทยที่ผ่านมา มัวแต่ห่วงการไฟฟ้า คนขายน้ำมัน คนขายไฟฟ้าจากเพื่อนบ้านจะเสียรายได้ จนประเทศเสียโอกาศมาตลอด ตอนนี้น้ำมันแพงก็ยังเป็นแบบนั้น...
...นี่ถ้ารับซื้อไฟฟ้าซะตั้งแต่ตอนโซลาร์รูฟ , ขีวะมวลทางใต้บูมนะ ป่านนี้คงไม่เป็นแบบนี้
1
...อันนี้อย่าให้เหลา เพราะตอนนั้นผมเองลงทุนทำโซลาร์รูฟมาแล้วแต่ไม่มีใครรับซื้อ อ้างโน่นนี่ ผมนี่โดนไปพอสมควรเลยแหละ
และโดนกันเยอะครับ ช่วงนั้น
อันนี้เป็นผลงานรัฐบาลนี้ ช่วงหลังรัฐประหาร 57 นี่แหละ
ที่ไปกลับมติครม. รัฐบาลปู ที่ตอนแรกส่งเสริมพลังงานทดแทน และบอกรัฐจะรับซื้อไฟฟ้า ...
1
...เอาเถอะ แล้วก็แล้วไป ขี้เกียจเล่า แต่รอบนี้ เห็นโลงศพแล้วก็หลั่งน้ำตาบ้างนะ
...แต่ไม่เอาน้ำตาปลอมๆ แบบบอกว่าผมเสียใจที่น้ำมันแพงที่เพิ่งพูดไปนะ...
...มันดูไม่จริงใจอ่ะนะ...
...เสียใจที่น้ำมันแพงทำประชาชนเดือดร้อน...
... แต่ห่วงเรื่องเงินนำส่งเข้ารัฐ ที่จะเป็นงบประมาณ
ให้พวกท่านๆใช้มากกว่า...
...มันเป็นซะงั้นแหละ ไทยแลนด์ 😑😑😑....
ข่าว
https://images.app.goo.gl/dbSGWVHbL93DU9qH7
โฆษณา