1 ก.ค. 2022 เวลา 09:28 • การเมือง
"Alerts 5" ทีมพิทักษ์ปกป้องน่านฟ้าไทย โดย ธนินท์ธรณ์
เห็นข่าวเครื่องบินเมียนมาร์ แล้วเห็นปฏิกริยาจากคนในประเทศแล้วก็ขำ
ไม่ว่าจะเป็นสำนักนักข่าวมืออาชีพอย่าง มติโจร ข่าวโซเชี่ยลจากสำนักข่าวอิสระ สำนักข่าวท้องถิ่น หรือนักข่าวโซเชี่ยลมือสมัครเล่น หรือนักวิจารณ์ห่วย ๆ ที่วิจารณ์กันขาดกว่า ผบ.ทอ.เสียอีก
ผมอยู่ในค่ายทหารอากาศ ทั้งค่าย แทบไม่มีใครพูดคุยกันเรื่องนี้ เพราะนี่เป็นเรื่องกระจอกมาก
ผมขอใช้คำนี้ เรื่องกระจอก
ปกติแล้ว ทอ.ไทยจะมีทีมฉก.อยู่ทีมหนึ่ง ซึ่งเรียกว่าทีม "Alerts 5" ซึ่งทีมนี้ จะต้องมีความพร้อมที่จะนำเครื่องบินขับไล่ขึ้นสู่ฟ้าภายใน 5 นาที ซึ่งนี่ก็คือที่มาของชื่อ Alerts 5 คือ พร้อมขึ้นใน 5 นาที
การนำเครื่องบินออกจากอู่มาขึ้นบินภายในห้านาทีนั้น เป็นเรื่องยาก นอกจากคนที่ทำงานเกี่ยวกับเครื่องบินเท่านั้นที่จะรู้ แค่เครื่องบินพลเรือน อย่างเครื่องมัสแตง จะขึ้นบินได้ภายในครึ่งชั่วโมงนับแต่ได้รับคำสั่งบิน จะทันรึเปล่าก็ยังไม่รู้
แต่เครื่อง f16 ในโรงเก็บ ที่ติดตั้งอาวุธพร้อมปฏิบัติการภายในห้านาทีนั้น เรียกว่าเป็น mission imposible กันเลยทีเดียว
เพราะปกติเครื่อง f16 ที่โหลดอาวุธพร้อม และพร้อมขึ้นบินนั้นใช้เวลาเตรียมการนานพอสมควร หากใครเคยดู topgun marveric มาแล้ว ถ้าจำฉากที่ลุงแมฟ กับรูสเตอร์ เครื่องโดนสอยตกทั้งคู่ แล้วทั้งคู่ก็ดอดเข้าไปขโมยเครื่อง f14 tomcat จากโรงเก็บ ซึ่งเครื่อง f14 นั้นเป็นเครื่องคู่ใจของลุงแมฟใน topgun ภาคแรก
ออกมาบินขึ้นกลับฐานได้ ซึ่งในฉาก การที่มีเพียงนักบินสองคน พยายามจะสตาร์ทเครื่อง เอาเครื่องแท็กซี่มารันเวย์ เทคออฟ อาจจะกินเวลาไม่นาน แต่ขั้นตอนในการเตรียมเครื่องขึ้นนั้น กินเวลานานกว่านั้นมาก
ในขั้นตอนของการสแตนบายของทีม Aleart 5 นี่ เค้าจะลากเอาเครื่องออกจากโรงเก็บมาโหลดอาวุธรอเผื่อเรียกไว้ที่ลานบินเลย
ส่วนนักบิน ก็ต้องแต่งชุดบินรอให้พร้อม มานั่งสแตนบายรอที่ลานบินนั่นแหละ เพื่อให้ทีมออกบินได้ใน 5 นาที เมื่อได้รับคำสั่ง ก็สามารถนำเครื่องที่พร้อมรบขึ้นบินได้ในทันที
เปรียบได้กับการที่มูลนิธิไปตั้งจุดสแตนบายตามจุดสำคัญ ๆ เมื่อได้รับสัญญาน
วิทยุ ก็กระโจนขึ้นรถ สตาร์ทเครื่อง เปิดไซเรน เข้าเกียร์ออกรถได้ทันท่วงที
แต่ขีดความสามารถของเครื่องบินนั้นสูงกว่านั้น ถ้ายังจำยุคก่อนโควิทได้ ยุคที่มีงานวันเด็ก ในรั้วทอ.จะมีเครื่อง f16 บินโชว์ตามกองบินต่าง ๆ ทั่วประเทศ ขอบอกไว้ว่า เครื่องที่บินโชว์ให้เห็นในวันนั้นในทุกกองบิน เป็นเครื่องชุดเดียวกัน เขาบินวนเหนือ ออก ตก ใต้ ให้เด็ก ๆ ได้ชมในเวลาใกล้เคียงกันนั่นแหละ ฉะนั้น ทีม aleart ทีมเดียว ก็เหลือแหล่
ส่วนสมรรถนะเครื่องบินขับไล่ เครื่อง F16 ไทย ไม่ได้ด้อยไปกว่าใครในภูมิภาค (US's Support) ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องกลัว จนไม่ยอมขึ้นบิน
ซึ่งถ้า เทียบกับ เมียนมาร์ ในขณะนี้ MIG 29 ก็ถือเป็นคู่ปรับของ F16 อยู่แล้ว ถือว่าเป็นเครื่องในเจนเนอเรชั่นเดียวกัน หากใครเคยมาดู thai air show 36 นิทรรศการการบินและอาวุธ ในช่วงปี 2536 ที่รร.การบิน กำแพงแสน จ.นครปฐม ก็จะได้เห็นเครื่องทั้งสองรุ่น จากนักบินในฝั่งอเมริกา และรัสเซีย โชว์สมรรถนะของเครื่องทั้งสองรุ่นให้ได้ชมอย่างจุใจ
แต่อย่างว่า เครื่องทั้งสอง อาจจะเป็นเครื่องในเจนเนอเรชั่นเดียวกัน ซึ่งเครื่องทั้งสองรุ่น ต่างก็มีข้อดีและข้อเสีย ที่สามารถเอามาเป็นข้อได้เปรียบเสียเปรียบกันได้ เครื่อง mig 29 ของ ทอ.เมียนมาร์ จะได้เปรียบเรื่องกำลังของเครื่อง ความจุเชื้อเพลิง การโลดอาวุธ ทั้งอาวุธหนัก อาวุธเบา แต่ f16 ของ ทอ.ไทย เด่นในเรื่องความคล่องตัว และความรวดเร็วในการเข้าโจมตี
ซึ่งในการรบทางยุทธวิธี การประกบ 2/1 ถ้าสู้กัน เราสอยเค้าร่วงได้แน่นอน
การสู้ทางยุทธวิธี เครื่องหลัก เครื่องซัพพอร์ท ก็ดูได้จากหนังฝรั่ง ที่ตำรวจมะกัน เขาจะออกตรวแบบไปเป็นคู่ มีคู่หู อีกคนประกบ เจรจา อีกคนพร้อมยิง
อย่างฉากในหนัง topgun marveric ที่หลังจากลุงแมฟ กับรูสเตอร์ ขโมยเครื่อง f14 ขึ้นได้อย่างทุลักทุเล เสียล้อหน้าไปหนึ่งอย่าง ระหว่างบินกลับ มุ่งหน้าสู่ฐาน เรือบันทุกเครื่องบินที่ลอยลำรออยู่กลางทะเล ช่วงที่รูสเตอร์ กำลังควาญหาวิธีเปิดวิทยุสื่อสารเพื่อจะแจ้งกลับไป ว่าเขาและแมฟยังรอด กำลังใช้เครื่อง f14 รุ่นเก๋าของข้าศึกบินกลับ ที่สำคัญ เครื่องสูญเสียล้อหน้าช่วงที่เทคออฟ เตรียมรับเครื่องที่ไม่มีล้อหน้าลงจอดของกูด้วย
แต่ในขณะนั้น เครื่อง f14 รุ่นเก๋า เครื่องคู่ใจของป๋าแมฟ ที่ป๋าแมฟใช้ใน topgun ภาคแรก ก็โดนเครื่องบินรบสมัยใหม่เข้าประกบ ลำแรก เข้าประกบท้าย เตรียมสอยหากมีปัญหา ลำที่สอง ประกบข้าง ซึ่งโชคดีที่รูสเตอร์ยังมองหาสวิชเปิดวิทยุสื่อสารไม่เจอ ก็เป็นจังหวะที่ลุงแมฟ ใช้ภาษามืองู ๆ ปลา ๆ สื่อสารกับเครื่องข้าศึกได้สักพัก ก่อนที่จะใช้ชั้นเชิงความเก๋า สอยข้าศึกทั้งสองลำไปได้อย่างหืดจับ
ปรกติ แพทเทิร์นในการบิน จะบินกันสี่ลำ มีจ่าฝูง วิงแมนด้านซ้าย วิงแมนด้านขวา และลำปิดท้าย เรียกว่า ไดมอนด์ฟอร์ม แต่สามารถแยกปฏิบัติการเป็นคู่ได้ในทันที จะเหลือแค่ หัวหน้าทีม กับวิงแมน ซึ่งในฉาก topgun maverric ในตอนที่ ice man ตาย
ลุงแมฟก็โดนปลดในทันที ซึ่งนางเอก ก็ให้สติลุงแมฟ ว่าในตอนที่กูส วิงแมนของลุงแมฟในภาคแรกตาย ลุงแมฟก็เอาชนะได้ด้วยตัวคนเดียว ซึ่งเธอก็คงจะหมายความว่า ในปัจจุบัน ที่ลุงแมฟ ชอบโชว์เดี่ยว บินแบบมุทะลุ บ้าบิ่นเลยมียศแค่ captun (นาวาอากาศ) ไม่ทะลุไปถึง commander (ผู้บังคับการ,นายพล) อย่าง ice man เสียที ซึ่งในภาคนี้ ice man ก็เปรียบเสมือนวิงแมนของลุงแมฟนั่นเอง
ในขั้นตอนการรบจริงเพียงแค่การประกบเครื่องศัตรู 2/1 นั้นก็เพียงพอที่จะขับไล่เครื่องข้าศึกได้สบาย ๆ เพราะนักบินเมียนมาร์ ก็ไม่น่าจะเก่งฉกาจ เก๋าเกมส์อย่างลุงแมฟในหนังแน่นอน
และอีกเรื่อง ที่ ทอ.ไทย และเหล่าอื่น โดนแซะกันมาโดยตลอด คือการร้องขออาวุธที่ทันสมัย ซึ่งถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ จะเห็นได้ว่า ทอ.ไทย มี f16 ทอ.เมียนมาร์ มี mig 29 ซึ่งเป็นเครื่องเจนเนอเรชั่นเก่าที่เคยเอามาโชว์สมรรถนะกันใน thai air show 36 กันทั้งคู่
1
ก็ ยี่สิบปีแล้วละ จึงไม่เป็นเรื่องแปลก ที่ ทอ.ไทย จะขอเครื่องที่ทันสมัย ทัดเทียมกับกองกำลังต่างชาติ ที่จ้องรุกราน ไม่ใช่ทัดเทียมกับ ทอ.เมียรมาร์อย่างในปัจจุบัน
และถ้าได้รู้ว่า เพื่อนบ้านเรา อินโดนีเซีย มีฝูงบินรบรุ่นใหม่เข้าประจำการกว่า 40 ลำ อันนี้ก็น่ากลัวมาก
อย่างกรณี เรือดำน้ำ ที่ ทอ.เมียนมาร์ ก็ก้าวล้ำ ทอ.ไทยไปถึงไหน ๆ แล้ว และผมก็มองว่า ในเขตรั้วติดกัน เรือดำน้ำ กองรบทางทะเล น่ากลัวกว่ากองรบทางฟ้ามากนัก ซึ่งก็มีพรรคการเมืองสายคอมมิวนิสท์ ที่อ้างคำว่าประชาธิปไตย ออกมาโจมตีกองทัพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็เข้าใจได้ ว่ารุ่นพ่อรุ่นแม่ของเขา เคยถูกทหารไล่ยิงในป่า ความแค้นเคืองฝังหัวมายังรุ่นลูก จึงเป็นเรื่องธรรมดา
1
กลับมาที่เก่า
ที่ผมใช้คำพูดว่า นี่เป็นเรื่องกระจอก
ไม่ใช่เพราะไทยกับเมียนมาร์เป็นเพื่อนบ้านที่ดี แต่ ไทยเป็นมากกว่านั้น ไทยกุมเส้นเลือดทางเศรษฐกิจของเมียนมาร์ โดยเฉพาะแรงงานพม่าที่มาทำงานในไทย และนำเงินกลับบ้านไปปีนึงเป็นจำนวนมหาศาล ไหนจะความต้องการสินค้าจากฝั่งไทย แม้กระทั่ง รายการทีวี สื่อทั้งภาพ และเสียง ก็นิยมจะรับชม รับฟังของไทย
ดังนั้น ผมมองไม่เห็นเหตุผลที่เมียนมาร์ต้องมาหาเรื่องไทย
คาดว่าน่าจะล้ำน่านฟ้ามาเพราะภารกิจทางทหารบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ภายในประเทศเค้ามากกว่า
ฉะนั้น การที่ ทีม Aleart 5 จะไม่ขึ้นบิน ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย
เรื่องแค่นี้ เราแค่รอ เขาโทรเข้ามาเคลีย รอหนังสือขอโทษจากทางสถานทูต ก็จบ
1
โฆษณา