2 ก.ค. 2022 เวลา 22:22 • ความคิดเห็น
เคยเป็นเหมือนกันนะ คิดว่าจะทำแต่ไม่ได้ทำ เขาบอกว่าถ้าคุมความคิดตัวเองได้ ก็ดีกว่าพระราชาที่ตีเมืองได้ทั้งเมือง แสดงว่าความคิดมันคุมยากมาก
การเอาพลังงานลบมาเป็นแรงผลัก ให้ประสบความสำเร็จ เช่น การเอาคำดูถูกมาเป็นแรงผลัก มาเป็นความพยายาม วิธีนี้จะสำเร็จก็ต่อเมื่อคุณต้องก้าวข้ามอารมณ์พลังงานลบนั้นมาก่อนค่ะ
การก้าวข้ามนี้ต้องใช้จุดมุ่งหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น มีคนดูถูก นินทา หรือเยาะเย้ย คุณต้องดึงความรู้สึกไปอยู่ที่ ต้องทำเพื่อใคร อันนี้เริ่มเปลี่ยนเมนูความคิดแล้ว ต้องอภัยและไม่คิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ยึดเป้าหมายที่เราจะไปแทนค่ะ
เรียกว่าพลังแห่งการแทนที่ เอาพลังงานแห่งความรักไปแทนที่พลังงานลบก่อน พอจิตใจสบาย คุณก็ผ่านพ้นวิกฤติทางความรู้สึกนึกคิดมาได้แล้ว
การฝึกให้ใจจดจ่อในสิ่งที่มีเป้าหมายระยะไกล อาจจะพลังหมดก่อนได้ เขาเลยแนะกันว่า ฝึกในการ ทำเฉพาะ วันนี้ให้ดีที่สุด ก่อนค่ะ คือ ว่ากันไปเป็นวันต่อวัน
เขียนเป้าหมายและตัดสินใจว่าคุณจะได้สิ่งนี้ คือ หลายคนข้ามขั้นตอน เราต้องให้ความคิดทำงานก่อนค่ะ
สังเกตุจากคนที่ยิ่งใหญ่ในโลก เขามีการตัดสินใจว่าเขาจะทำอะไรก่อน คือหาให้เจอก่อนค่ะ บางคนเจอช้า บางคนเจอเร็ว บางคนเจอแล้ว แต่ชีวิตไม่ได้นำไปทางนั้น แต่นำไปอีกทาง ก็มีให้เห็นเยอะ
การฝึกควบคุมจิตให้อยู่ในปัจจุบันจึงจำเป็นมาก การ หายใจเข้า ออก ที่ลึกๆ ยาวๆ จะช่วยฝึกอย่างดี หรือการให้ใจจดจ่อกับสิ่งดีดี สิ่งดีดีก็จะตามมา ให้เห็นดังใจนึกคิด
ดังนั้น คิดเฉพาะในสิ่งที่ต้องการ แล้วเขียนออกมา ให้ตาตัวเองได้เห็น หูตัวเองไม่ยิน แล้วทำงานในปัจจุบันอย่างมีความสุข ให้รู้สึกว่าได้สิ่งที่เขียนเข้ามาในชีวิตแล้ว มีแล้ว ได้แล้ว ชีวิตถึงเป้าหมายแล้ว คิดด้วยความสุขหรือคิดขณะที่มีความสุขและรู้สึกดี
ตัดความรู้สึกต่างๆที่เป็นพลังงานลบออกไปจากจิตใจ
จงคิดเสมอถึงสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขค่ะ
และทำในสิ่งที่คิดว่า จะเชื่อมไปถึง สิ่งที่เราตั้งเป้าไว้
อันนี้เป็นได้แบบมีสาระและไม่มีสาระ ต้องเชื่อว่า ชีวิตของคุณจะเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ เช่น มีคนคอยให้ความช่วยเหลือ มีแต่สิ่งดีดีเกิดขึ้น พบเจอแต่คนที่ดี และได้รับผลดีต่างๆเสมอ ก็คิดเท่านี้ค่ะ ชีวิตของคุณก็จะเดินทางไปสู่สิ่งที่คุณต้องการได้
เรื่องนี้เขียน อ่านไป ก็แค่คำแนะนำ ตะให้ดีต้องเรียนรู้วิธีฝึกจิตหรือจูนจิตของตัวเอง แบบตระหนักรู้นั้น คือพื้นฐานที่จะทำให้จิตใจของคนจดจ่อได้
ถ้าเรามีเป้าหมายและรู้ถึงผลลัพธ์ก่อนล่วงหน้า คุณจะไม่ล้มความตั้งใจ แต่ต้องเข้าใจว่า จิตใต้สำนึกของคุณได้เปิดออกก็ต่อเมื่อคุณยอมรับว่ามันจะเกิดขึ้นจริง และคุณทำได้ก่อนค่ะ
คือแก้ที่ความคิดของคุณโดยเชื่อแบบสนิทใจก่อนว่าคุณได้รับสิ่งนั้นได้แน่นอน
คราวนี้เส้นทางการดำเนินชีวิตของคุณก็จะนำคุณไปพบกับคนที่จะสนับสนุนคุณ และจะมีเหตุการณ์ที่จะทำให้คุณได้ทำสำเร็จเร็วขึ้น
กำหนดเป้าหมายและต้องกำหนดเวลา
วิธีการอาจเปลี่ยนไปมา บ่อยๆ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่ทำ แต่ความคิดของมนุษย์นั้นจำกัด จึงต้องทำจากความคิดก่อนค่ะ
หลับตานึกภาพให้ออกว่า ชีวิตคุณจะเป็นอย่างไร แล้วจิตใต้สำนึกของคุณจะทำงานให้คุณ แล้วคุณจะเบา โล่งสบาย แม้จะเกิดเหตุการณ์อะไร ตามที่ตามองเห็น ก็จะเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ดีตามภาพในหัวหรือจินตนาการของคุณแทน
ให้ขอบคุณทุกกรณีและทุกคน และทุกเหตุการณ์ ค่ะ
โฆษณา