3 ก.ค. 2022 เวลา 04:18 • ความคิดเห็น
เมื่อผมต้องเจอพวกบ้าเก็บ Hoarding disorder ...
เคยเห็นแต่ข่าวพวกเก็บขยะมาเก็บจนเต็มบ้าน ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะต้องมาเจอกับตัวเอง
...เป็นประสบการณ์สุดสยอง เลยเอามาเล่าสู่กันฟังครับ....
ภาพจากลิ้งค์ข่าว
สามสี่วันก่อน รุ่นพี่ที่ทำร้านเหล้าจะกลับมาเปิดร้าน เลยโทรมาขอยืมตัวแม่บ้านที่ออฟฟิศไปทำ
ผมก็ไม่คิดอะไรมาก ปกติเขาก็รับงานนอกอยู่แล้ว เลยให้เบอร์แม่บ้านไปให้เขาคุยกันเอง แล้วรุ่นพี่ผมก็นัดแม่บ้านไปทำ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
...แล้วก็ได้เรื่อง...
บ่ายสามวันศุกร์ แม่บ้านโทรกลับมาหาผม...
" นายค่ะ ช่วยพูดกับเพื่อนหน่อยได้ไหม หนูรับงานหมดไม่ไหว....'
...เธอว่างั้น ผมก็งง เลยถามว่า มันเพราะอะไร ยังไง...
...เธอส่งรูปกลับมาในไลน์แทนคำตอบ ผมนี่เปิดดูแล้วอึ้งไปเลย แล้วก็เข้าใจเลยว่าทำไมแม่บ้านไม่ยอมทำ....
ช่วงโควิดรอบสุดท้ายที่ผ่านมา รุ่นพี่ผมเขาตัดสินใจพักร้านเอาไว้ แต่ด้วยความเป็นที่ดินของตัวเอง ก็เลยปิดไว้เฉยๆ ไม่ได้ย้ายข้าวของไปไหน
รุ่นพี่ผมเป็นคนใจดี ชอบช่วยคน เขาเห็นคนแถวนั้น ที่เขารู้จักมานาน แต่เป็นพวกเก็บของเก่าขาย กึ่งๆคนเร่ร่อน
แกก็เลยเรียกมาคุย และให้มาอยู่เฝ้าร้านให้ โดยให้นอนในส่วนเก็บของของร้าน กินอยู่ฟรี มีเงินให้บ้าง แลกกับการเฝ้าร้าน ซึ่งคนนั้นเขาก็โอเคกับเงื่อนไข แล้วก็มาอยู่เฝ้าให้ จนถึงเมื่อเดือนก่อน
ถึงเขาจะดูไม่ปกตินัก เหม่อๆ ลอยๆ
แต่รุ่นพี่ผมค่อนข้างไว้ใจ เพราะเวลาเข้าไปดูร้าน ตัวร้านก็เรียบร้อยดี ห้องน้ำก็ล้าง
แกก็เลยไม่ได้เข้าไปดูในห้องสต็อก เพราะมันไม่มีอะไรอยู่ในนั้น แกก็ถือว่าเป็นห้องส่วนตัวของคนที่แกจัางไป
...ผมเองก็ไปนั่งดื่มกับแกบ่อยๆ เวลาแกมาดูร้าน ก็ซื้อของเข้าไปกินกัน ไอ้เจ้าคนนี้ก็ยังมานั่งกินอยู่ด้วยเลย
จนเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา แกก็เข้าไปกิน นั่งกินกับผมนี่แหละ ไอ้เจ้าคนนี้ก็อยู่ แกบอกว่าเดี๋ยวแกจะเปิดร้านแล้วนะ ให้ไอ้เจ้านี่เตรียมตัวด้วย แกจะจ้างเป็นคนกวาดร้าน ล้างห้องน้ำ ล้างครัว เฝ้าร้านอะไรประมาณนั้น
1
แล้วแกก็ถามคนเฝ้าว่า จะอยู่ได้ไหม ถ้าต้องกันที่ในสต๊อกบางส่วน เพื่อเก็บเครื่องเสียง
...ไอ้เจ้านี่ก็ทำหน้าเลิกลั่ก แต่ก็บอกว่าได้ ซึ่งตอนนั้นไม่มีใครคิดอะไร....
หลังจากนั้นสองวัน รุ่นพี่ผมให้ช่างที่เขารู้จักกัน เข้าไปจัดการเรื่องไฟฟ้า ไอ้เจ้าคนเฝ้า พอให้กุญแจร้านกับช่าง ก็หายสาบสูญไปตั้งแต่ตอนนั้นเลย....
ทุกคนก็งง ว่าทำไมถึงไป
แล้วก็ได้คำตอบ เมื่อช่างไฟเข้าไปในสต๊อก
สภาพ มันก็คือสภาพเดียวกับที่แม่บ้านผมเห็น คือ มันเต็มไปด้วยขยะ และขยะ และสิ่งปฏิกูลที่น่าสยดสยองอย่างมากในถุง!!!
1
( ด้วยเหตุนี้ผมถึงไม่เอารูปหน้างานมาประกอบบทความ เพราะสยองเกินไป สงสารสุขภาพจิตท่านผู้อ่านครับ )
1
สุดท้ายผมเห็นสภาพแล้วก็เข้าใจว่าแม่บ้านไม่ไหวแน่ เลยบอกรุ่นพี่ว่าเอาคนงานก่อสร้างผมแทนดีกว่า จะได้ให้เอารถขนไปทิ้งด้วย ซึ่งรุ่นพี่ผมก็เข้าใจ
ด้วยความอยากเห็นกับตา เพราะไม่เคยเจอมาก่อน เลยเข้าไปดูด้วย
...สัมผัสแรกคือกลิ่นเมื่อเปิดประตูเข้าไป มันเหม็นมากๆ เป็นกลิ่นที่บอกไม่ถูก เพราะมันผสมกันไปหมด ทั้งปฏิกูลคน และของกินที่เน่าเสีย เช่น น้ำปลาร้า เก่าๆ อะไรทำนองนั้น แล้วก็ผสมกับกลิ่นอับของผ้าเก่าๆที่หมักหมมกันอยู่เป็นจำนวนมาก
1
" นาย ผมขอเงินเพิ่มนะ 555"
...ไอ้ลูกน้องผมพูดขึ้นมา ผมเลยบอกเออ ส่วนเพิ่มมาเอาที่ผม เพราะสภาพมันสุดๆจริงๆ
1
เชื่อไหม ในพื้นที่ประมาณ 6*6 เมตรมันมีแต่ขยะจริงๆ แทบไม่มีทางเดินเลย แม้แต่ตรงที่เขาตั้งที่นอน มันก็มีขยะ
มันมีทุกอย่างที่กองขยะใหญ่ๆของกทม. ต้องมีนั่นแหละ เสือผ้า รองเท้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พังๆ
มีของกินด้วยนะ แต่มันเน่าแล้ว เต้าหู้ยี้ขวดๆ มันเน่าส่งกลิ่นแบบสยองมาก ( อันนี้เข้าใจว่าเขาคงเก็บมาจากตลาด)
1
...คนงานผม ว่าถึกๆ รื้อไปๆ ยังถึงกับรากแตกอ่ะ นึกสภาพเขาแล้วกัน...
...พอดีกว่า ไม่อยากบรรยายมาก เดี๋ยวผู้อ่านจะทานข้าวกันไม่ลง 😅😅😅...
2
ผมเคยดูในข่าวผ่านๆ ว่านี่คืออาการทางจิต ซึ่งบางครั้งก็เพราะสมองเสียหาย เลยลองหาข้อมูลมาเปิดให้รุ่นพี่ดู
แล้วผมก็ได้รู้จักกับ Hoarding disorder แบบจริงจัง
รุ่นพี่ผมเล่าให้ฟังว่า คนที่เฝ้าเนี่ย เป็นเด็กรุ่นน้องเขาในซอยนี่แหละ ชีวิตก็วนเวียนอยู่แถวนั้นมาตั้งแต่เด็ก แกรู้จักมาหลายสิบปีแล้ว
สมัยเรียนค่อนข้างเกเร สุดท้ายติดยา วนเวียนอยู่แถวนั้นพอพ่อแม่เค้าเสีย เค้าก็หายไปจากแถวนั้นพักนึง
เพิ่งกลับมาวนเวียนได้สักพัก จนรุ่นพี่ผมเห็นก็สงสาร เพราะเป็นเหมือนเพื่อนวัยเด็ก ก็เลยช่วยเหลือเอาไว้
เราคุยกันว่า การใช้ยานานๆ อาจทำให้สมองเขาเสียหาย จนเกิดโรคนี้ขึ้นมา ประกอบกับไม่มีงานทำ เก็บของขาย มันก็เลยยิ่งไปกันใหญ่
1
เราเชื่อว่าเขาคงอาย หรือกลัวโดนด่า เมื่อทุกคนทราบเรื่อง ก็เลยเลือกที่จะหนีหายไป
มันแปลกตรงที่ ส่วนอื่นของร้าน เขาก็เก็บเรียบร้อยดี ของมีค่าที่ขายได้ ก็ยังอยู่ครบ มันจึงบอกไม่ได้ว่าเขาเป็นคนไม่ดี หรือขี้ขโขมย อะไรแบบนั้น
...เขาคงป่วยจริงๆ เราสรุปกันแบบนั้น...
เป็นประสบการณ์ตรงแบบจะๆครั้งแรก และหวังว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต
มันน่ากลัว น่าขยะแขยงก็จริง แต่อีกมุมนึงก็น่าสงสาร
สังเกตรอบตัวด้วยนะครับ ใครมีคนใกล้ชิดที่มีสัญญาณเตือนว่าจะเป็น ก็รีบรักษาเสีย
...ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป...
...นี่ยังนึกอีกนะ ถ้ากัญชายังเสรีแบบนี้ คนสมองเสียกันเยอะๆ ก็คงไม่ต่างจากนายคนนี้แน่....
3
...ยาเสพติด มันมีอะไรดีนักหนา ถึงได้ชอบกันจัง อยากเมา เหล้ามันก็น่าจะมากพอแล้วนะนั่น...
...ไม่เคยเข้าใจพวกนี้จริงๆ😥😥😥....
ข้อมูลของโรค
สัญญาณของโรค
อันนี้คือสภาพเมื่อเก็บเสร็จ แต่ยังไม่ได้ล้างพื้น พื้นที่ห้องแค่นี้ แต่เราเกขยะถึงสีคันรถกระบะ
โฆษณา