Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
อิ่มความคิด
•
ติดตาม
5 ก.ค. 2022 เวลา 07:58 • ความคิดเห็น
"อยากเก่งอะไร แค่ทนทำซ้ำๆผ่าน S-Curve ไปให้ได้"
หลายๆคนคงพิมพ์ดีดกันเป็น (หมายถึงพิมพ์ดีด 10 นิ้วนะครับ ไม่ใช่จิ้มแค่นิ้วชี้ 2 นิ้ว)
ซึ่งเชื่อว่าทุกคนก็ต้องเริ่มจากพิมพ์ดีดโดยจิ้ม 2 นิ้วมาก่อนกันทั้งนั้น แล้วเราพบว่ามันพิมพ์ช้า เราจึงฝึกพิมพ์ดีด 10 นิ้ว
ตอนเริ่มฝึกพิมพ์ดีดแรกๆ ถ้าพอจำได้เราก็ท่องการวางนิ้ว ฟ ห ก ด ฯลฯ ก็ดูเก้ๆกังๆ กว่าจะพิมพ์ได้แต่ละคำช้ามากๆ
ช้ามากจนเริ่มท้อ จนเราเริ่มตั้งคำถามว่า เอ๊ะ เราพิมพ์ดีด 2 นิ้วยังเร็วกว่านี้อีก ตกลงพิมพ์ 10 นิ้วมันเร็วกว่าตรงไหนเนี่ย
... บางคนก็เลยเลิกฝึกไป
... บางคนก็ทนฝึกต่อ
1
คำถามว่าตอนเราเริ่มฝึกนั้น พิมพ์ดีด 2 นิ้ว เร็วกว่า 10 นิ้วจริงหรือไม่ คำตอบคือ “จริง” ครับ
แต่ประเด็นคือ ทักษะ (Skills) ทุกชนิดที่เราอดทนทุ่มเทฝึกไป จะมีกราฟของผลลัพธ์ที่ออก เทียบกับเวลา ไม่เป็นเส้นตรงนะครับ
นั่นคือสิ่งที่จะมาแชร์ให้ฟังวันนี้ คือเรื่องของ “S-Curve” ตามรูป
ทักษะทุกชนิด เช่น พิมพ์ดีด, ดนตรี, กีฬา, ภาษา, ศิลปะ, งานฝีมือ ฯลฯ จะมีกราฟเป็นลักษณะ S Curve แทบทั้งสิ้น นั่นคือ
1
ช่วง 1 ฐานตัว S : เราทุ่มเทความพยายามลงไปนานเท่าไหร่ ผลลัพธ์จะออกมาน้อยมาก ชวนให้ท้อใจสุดๆ เหมือนตอนเราเริ่มฝึกพิมพ์ดีด หรือหัดจับคอร์ด C ครั้งแรก พัฒนาการมันช้าจริงๆ
ช่วง 2 กลางตัว S: เมื่อผ่านจุดวิกฤตไป ผลลัพธ์จะออกมาอย่างรวดเร็ว ทั้งที่พยายามใกล้เคียงเดิม จนเรางงว่า เอ๊ะนี่เราพิมพ์ดีดเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ นี่เราโซโล่กีต้าร์ได้ตั้งแต่วันไหน
ช่วง 3 หัวตัว S : เมื่อเข้าสู่ช่วงสุดท้าย จะเป็นช่วงอิ่มตัว ที่แม้เราพยายามมากเท่าไหร่ ผลลัพธ์ก็แทบไม่เพิ่มแล้ว ทุ่มเทเท่าไหร่ก็พิมพ์เร็วกว่านั้นไม่ได้ พยายามเท่าไหร่ก็โซโล่เร็วกว่านั้นไม่ได้อีก
* ช่วง 1 กับ ช่วง 3 จะกลับมามีลักษณะคล้ายกัน ต่างกันตรงที่เราเป็นมือใหม่หรือเราเป็นเทพแล้วแค่นั้นเอง
ดังนั้น ย้อนไปถึงคนที่ฝึกพิมพ์ดีด 2 คนนั้น
... คนที่เลิกฝึกไป เขาแค่ไม่รู้ว่าเขายังเดินทางไปไม่ถึงจุดวิกฤตแค่นั้นเอง เขาชิงเลิกล้มไปเสียก่อนที่จะได้เห็นความสำเร็จ
(และมีแนวโน้มที่ไปทำอย่างอื่นก็ไม่สำเร็จอีก เพราะไม่เคยสำเร็จ ก็ไม่รู้กลไกที่จะสำเร็จเสียที)
... คนที่ทนฝึกต่อ เขาแค่รู้ว่าน่าเบื่อแค่ไหนก็ต้องทนทำซ้ำๆไป จนกว่าจะผ่านจุดวิกฤตให้ได้ แล้วรางวัลอันยิ่งใหญ่ก็จะเป็นของเขา
(และมีแนวโน้มที่จะไปสร้างความสำเร็จอย่างอื่นต่ออีก เพราะจะยิ่งผ่านจุดวิกฤตได้ง่ายขึ้นๆ)
ลองถามตัวเองดู พวกเราเป็นกลุ่มไหนกัน ที่แน่ๆ สิ่งที่เราได้เรียนรู้จาก S Curve คือ
ความสำเร็จไม่ได้เกิดจากการโหมทุ่มเทอย่างหนัก แต่เกิดจากทำซ้ำๆอย่างสม่ำเสมอ
เพราะ S Curve เป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติ มันเร่งไม่ได้ ต้องเข้าใจกลไกของมัน
ลองไปสร้างความสำเร็จใหม่ๆกันดู เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ
ข้อคิด
ชีวิต
พัฒนาตัวเอง
บันทึก
6
10
6
10
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย