8 ก.ค. 2022 เวลา 14:53 • หุ้น & เศรษฐกิจ
🔥BREAKING !!🔥: จับตาตลาดหุ้นจีน !!! ล่าสุดมีรายงานว่านักลงทุนจากสหรัฐฯ และตะวันตก 'เทเงินกลับเข้าสู่ตลาดของจีนมากเป็นประวัติการณ์' ถึง 5.8 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย. ในขณะที่หุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องวันนี้ มาดูกันว่านี่มันยังไงกันแน่ ? ไม่กลัวสงครามกันแล้วหรือยังไง ? หรือว่าซื้อไปรอทุบใหม่อีกที ??
2
⚠️ล่าสุดตลาดการเงินโลกมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจมาก ๆ ออกมาอีกแล้ว ! หลังจากนักลงทุนจากสหรัฐฯ และชาติตะวันตกได้ 'อัดฉีด' เงินเข้าสู่กองทุน ETF หุ้นจีนในระดับที่ 'สูงเป็นประวัติการณ์' ในขณะที่ตลาดหุ้นจีนพุ่งขึ้นนำหน้าคู่แข่งรายอื่นทั้งหมด หลังจากที่รัฐบาลเปลีย่นท่าทีจากการปราบปรามและปฏิรูป มาเป็นการสนับสนุนตลาดแทน
📌รายงานจาก Financial Times ระบุว่านักลงทุนจากสหรัฐฯ และยุโรปทุ่มเงินเข้าซื้อหุ้นจีนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน โดยสุทธิสูงถึง 4 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนจากยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเองก็มีการเทเงินเข้ามายังตลาดของจีนรวมถึง 1.8 พันล้านดอลลาร์ ทำให้ยอดรวมไหลเข้าสุทธิมายังตลาดจีนสูงถึง 5.8 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย.เพียงเดือนเดียว !
4
ตัวเลข 5.8 พันล้านดอลลาร์นี้ทำลายสถิติ Inflow เก่าในเดือนมกราคม 2022 ที่ 4.3 พันล้านดอลลาร์
⚠️Natasha Sarkaria นักวิเคราะห์ของ BlackRock บริษัทด้านการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ให้มุมมองที่น่าสนใจเอาไว้ว่าตอนนี้นักลงทุนในสหรัฐฯ และยุโรปไม่ได้ซื้อหุ้นของประเทศตัวเอง แต่กำลังมาซื้อหุ้นจีน ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในกระแสโลก
(European investors are not really buying US equities, not really buying Europe, but they are buying China. That’s a marked change in global flows, said Natasha Sarkaria, investment strategist at BlackRock.)
1
ดูกันชัด ๆ ! กระแสเงินทุนไหลเข้าตลาดของจีนสูงมากอย่างมีนัยสำคัญในเดือนที่ผ่านมา !!! (ที่มารูป : Financial Times)
📌นักวิเคราะห์ที่มองโลกในแง่ดี กล่าวว่าว่าหุ้นจีนตอนนี้มีการประเมินมูลค่าที่ต่ำเกินไป พร้อมกับอยู่ในโซนที่ 'Oversold' ขณะที่ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลก็เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างขัดเจน และหน่วยงานกำกับดูแลของจีนก็ต้องการที่จะหันมาร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีมากขึ้น ซึ่งตรงข้ามกับตลอด 2 ปีที่ผ่านมาที่เป็นช่วงเวลาแห่งการปราบปรามและปฏิรูปกฏหมายครั้งใหญ่
สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการที่จีนกำลังคลายข้อจำกัดด้านโควิด ซึ่งทำให้นักลงทุนฝั่ง Bullish มีความหวังมากขึ้น และตลาดจีนก็เกิดเงินทุนไหลเข้าจนทำให้ราคาหุ้นหลายตัวและดัชนีรวมปรับตัวสูงขึ้นอย่างโดดเด่นมากกว่าประเทศอื่น ๆ ในช่วงประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้
3
อย่างไรก็ตาม ทางฝั่งนักวิเคราะห์สาย Bearish ยังคงมองว่าตลาดหุ้นมีความเสี่ยงอย่างมาก โดยเฉพาะนักวิเคราะห์ฝั่งตะวันตกที่ตอนนี้พยายามพูดถึงประเด็นเรื่องอสังหาริมทรัพย์ของจีนว่ามีปัญหาหนักและตอนนี้วิกฤตยังแค่เริ่มต้นเท่านั้น !
3
⚠️จอร์จ โซรอส พ่อมดการเงินโลกผู้เคยล้มธนาคารกลางแห่งอังกฤษและโจมตีค่าเงินบาทไทยจนย่อยยับ ถือเป็น 1 ในบุคคลที่ออกมาประกาศตัวเป็นศัตรูกับรัฐบาลจีนอย่างชัดเจน และยังออกมาทำนายด้วยว่าใครที่นำเงินไปลงทุนในจีนตอนนี้จะเผชิญความเสียหายครั้งใหญ่ !
1
เรียกได้ว่าเมื่อประกาศกันเช่นนี้แล้ว นี่คือสงครามการเงินระดับมหภาคอย่างไม่ต้องสงสัยเลยทีเดียว ขณะที่ทางจีนก็ประกาศเดินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจสวนโลกเพื่อต่อสู้กับคำทำนายของโซรอสและนักวิเคราะห์ฝั่งตะวันตกส่วนใหญ่ที่มองว่าจีนกำลังจะเผชิญวิกฤตหนัก
3
ทั้งนี้ ล่าสุดตลาดหุ้นเอเชียปิดบวกยกแผงสำหรับค่ำคืนนี้ ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปยังคงอยู่ในโซนติดลบ แม้มีการประกาศตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) ออกมาสูงถึง 372,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานอยู่ที่ 3.6%
2
หุ้นจีนทำประสิทธิภาพได้โดดเดือนกว่าหุ้นทั่วโลกในเดือนมิ.ย. ! มาจับตาดูกันต่อในช่วงที่เหลือของปีนี้ !! จะรุ่งหรือร่วงกันแน่ ??? (ที่มารูป : Financial Times)
📌เงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดก็ขึ้นมายืนเหนือระดับ 107 หน่วยเข้าไปแล้ว ทำให้น่าจับตามองทีเดียวว่าสกุลเงินของประเทสตลาดเกิดใหม่และตลาดการเงินจะไปในทิศทางไหนต่อ เพราะไม่ใช่ทุกประเทศที่สามารถดึงดูดกระแสเงินไหลเข้าได้เหมือนจีน และในอีกมุมหนึ่งก็มีหลายประเทศที่กำลังเผชิญวิกฤตเนื่องจากเงินทุนไหลออกและพื้นฐานเศรษฐกิจไม่แข็งแรง
1
ฉากหลังในระดับมหภาคนั้น คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าโลกของเรากำลังมีความเสี่ยงที่สูงกว่าภาวะปกติอย่างมีนัยสำคัญ แต่ถึงกระนั้นโลกก็ต้องมีการพัมนาและเดินต่อไปในทุก ๆ วัน ในขณะที่ตลาดการเงินโลกก็ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกอยู่ในทุกวินาที
2
⚠️ดังนั้นคงต้องมารอดูกันอย่างใกล้ชิดเลยว่ารัฐบาลจีนและตลาดการเงินของจีนจะประคองตัวเองเอาไว้ได้หรือไม่ ? ท่ามกลางความปั่นป่วนในระดับมหภาคครั้งนี้ ! ซึ่งหากทำได้สำเร็จ ตลาดอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียที่มีปัจจัยพื้นฐานค่อนข้างแข็งแกร่ง ก็อาจได้รับแรงหนุนไปด้วย ซึ่งอาจช่วยลดผลกระทบจากแรงกดดันในระดับมหภาคได้
1
แต่ถ้าหากเกิดสงครามใหญ่ขึ้นมา โดยเฉพาะประเด็นเรื่องจีน-ไต้หวัน-สหรัฐฯ เราก็อาจได้เห็นทุก ๆ อย่างพังทลายลง ซึ่งโดยมุมมองของ World Maker แล้ว 'ยังพยายามคิดว่าเป็นไปได้ค่อนข้างยาก' เพราะถ้าเกิดสงครามใหญ่ขึ้นมาจริง ๆ จนทวีความรุนแรงขึ้นเป้นสงครามโลก เราคงได้กลับไปสู่ยุคหินกันเป็นแน่แท้ เพราะตอนนี้แต่ละประเทศต่างก็มีนิวเคลียร์มากพอจะทำลายล้างกันให้สิ้นซากไปเลย แต่คงไม่มีใครต้องการเช่นนั้น ?
5
📌ทางฝั่ง FED ยังคงยืนยันจะขึ้นดอกเบี้ยอย่างเข้มงวดเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ! ซึ่งตลาดมองว่าในเดือนนี้จะขึ้น 0.75% อีกครั้ง ในขณะที่เจ้าหน้าที่ FED และประธาน Powell เองก็ยอมรับว่า FED เปิดกว้างสำหรับการขึ้นดอกเบี้ยอย่างเข้มงวด โดยมีเป้าหมายสูงสุดเพื่อควบคุมเงินเฟ้อให้ได้ แม้เศรษฐกิจจะเกิด Recession ก็ตาม
นั่นทำให้ตลาดทุนของจีนดูน่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิมอีกในตอนนี้ แต่ก็คงต้องลุ้นกันว่าการเดินหมากสวนโลกของจีนจะสามารถดึงดูดความสนใจและกระแสเงินทุนจากทั่วโลกได้อย่างมั่นคงมากน้อยแค่ไหน ?
1
⚠️เรื่องราวนี้ถือได้ว่าเป็นการผสมผสานหมากทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการเมืองโลก ซึ่งน่าสนใจมาก ๆ สำหรับตัวจริงทางด้านการเงินและเศรษฐกิจ และแน่นอนว่าทาง World Maker ก็จะคอยเกาะติดทุกความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด และจะนำข้อมูลมาอัปเดตให้ท่านทราบกันแบบ Real Time อย่างแน่นอน ! ใครไม่อยากพลาดข่าวสารสำคัญแบบนี้ก็ติดตามเพจเราไว้ได้เลยครับ !
5
🔥ทันโลก ทันเหตุการณ์ ทันข่าวสาร อย่างแท้จริงไปกับ #WorldMaker🔥
1
🙏 ขอบคุณทุกท่าน 🙏 ที่ติดตาม World Maker ฝากกด Like และ Share เพื่อเป็นกำลังใจและให้นักลงทุนท่านอื่นได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์เหล่านี้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ 😊
โฆษณา