8 ก.ค. 2022 เวลา 23:49 • การเมือง
จากสถานทูตสหรัฐในไซ่ง่อน ถึงบ้านพักของทูตอเมริกาบนถนนวิทยุ
เมื่อรถถังของกองทัพเวียดนามเหนือคันแรก บุกผ่านประตูทำเนียบประธานาธิบดีของประเทศเวียดนามใต้ในไซ่ง่อน เมื่อปี 2518 เดือนเมษายน ทูตคิตตี้น่าจะเป็น sophomore อยู่ที่มหาวิทยาลัย Clemson
ก่อนหน้านั้น ความวุ่นวายเกิดขึ้นทั่วเมืองไซ่ง่อน คนนับล้านหาทางอพยพออกนอกประเทศ คนเนืองแน่นไปทุกถนน หลายหมื่นคนยืนอออยู่หน้าสถานทูตอเมริกา หาทางขื้นเฮลิคอปเตอร์ไปลงเรือรบจำนวนมากเป็นคนที่เคยทำงานกับอเมริกา ไปได้ไม่กี่คนหรอก ถูกส่งไปเข้าค่ายกันคนละปีสองปี
สถานทูตอเมริกาในไซ่ง่อนอยู่กลางเมือง ตรงข้ามกับสถานทูตอังกฤษ ติดกับสถานทูตฝรั่งเศส
ทูตคิตตี้กำลังเรียนรัฐศาสตร์ ในมหาวิทยาลัยที่ฝืกคนให้มีจิตใจนักรบ รักชาติ
 
สัญญลักษณ์ของที่นี่คือ Tiger เป็นมหาวิทยาลัยด้านการทหาร ตั้งอยู่ที่เซาท์ คาโรไลน่า ติดกับฟลอริดา คนจากละตินเพียบ
เรียนที่ไหน จะมีแคแรกเตอร์ และเทรดิชั่นของที่นั่นติดมา
บรรยากาศของหน่วยทหารย่านมหาวิทยาลัยคงหดหู่ ในยุคเวียดนามใต้แตก
ช่วงเวลา หลังจากนั้น เป็นระยะเวลาของความทุกข์ยากของเวียดนาม เงินด๋องเก่าถูกยกเลิก คนมากมายที่เคยทำงานกับอเมริกาถูกส่งไปเข้าค่าย ทุกคนจนเท่ากัน ที่ดินตกเป็นของรัฐ กิจการธุรกิจถูกแทนที่ด้วยสหกรณ์ และคอมมูน คนในเวียดนามใต้ใส่ชุดสีดำเหมือนกันไปหมด
ทูตคิตตี้เรียนจบป ตรี ย้ายไปเรียนที่มหาวิทยาลัย Tulane ในนิวออร์ลีนส์ที่สวยมาก ลัลล้ามาก เรียน Latin Culture วัฒนธรรมละตินอเมริกา เรื่องตรงนี้ต้องขีดเส้นใต้ ชอบอยู่เมืองอากาศดี ชายทะเล อยู่กรุงเทพ แย่เลย
พศ 2535 ผมไปเวียตนาม ยูนนานด้วยมิชชั่นพิเศษ สร้างสันติภาพ คุยกับหัวหน้าคอมมิวนิสต์ระดับประเทศ มณฑล จังหวัด หน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจต่างๆ ข่าวกรองตามเป็นยุงกรุงเทพเลย
หลังจากนั้นก็ตระเวณไปทั่ว ลาว พม่า กัมพูชา ปักกิ่ง มาเลย์ อินโด ไปอย่างเท่บ้าง มอมแมมบ้าง
วันแรกที่ไปถึงเวียดนาม คนยังใส่ชุดดำทั้งเมือง คนพิการ ทหารผ่านศืก ขาขาดมากมาย
@
ถนนวิทยุ กรุงเทพ วันนี้ คิตตี้มาเป็นทูต ด่าไทย
บ้านพักทูตอเมริกาบนถนนวิทยุ กว้าง ต้นไม้ไทยโบราณมากมาย เจ้าของบ้านคนแรก เป็นวิศวกรอังกฤษ ชื่อ เฮนรี่ ได้รับยศเป็นพระยา ปฏิพัทธิ์ราชประสงค์ มีเมียตั้งสามคน อยู่บ้านเดียวกันที่นี่แหละ ทรีซั่ม 55
อเมริกาส่งทูตมาไทยแล้ว 42 คน ผมเรียกทูตหมดแหละ สิบเอ็ดคนหลังมาจากสาย foreign service แนว เจมส์ บอนด์ แต่หน้าที่สำคัญอย่างหนื่งคือ ทำ policy initiative เสนอกลับไปวอชิงตัน
คบกันมาร่วมร้อยกว่าปี ร่วมรบกันมา ไม่มีอะไรเป็นความลับ เหมือนคนครอบครัวเดียวกัน คนไทยที่คบกับชาวอเมริกันรู้จุดอ่อนของอเมริกันชนดีมาก
บ้านของพระยาปฏิพัทธิ์ราชประสงค์ได้ซึมซับเรื่องราว และแคแรกเตอร์ของทูตแต่ละคน คิตตี้มาแหวกแนวที่สุด เล่นเอาคนไทย งง คนไทยก็ทำให้คิตตี้ งง
เพราะวัฒนธรรมละตินกับวัฒนธรรมเอเชียต่างกัน วัฒนธรรมไทยยิ่งต่างจากของเอเชีย
หนึ่ง คนไทยทำงานกับเมกามาเยอะ อ่านใจออก วิธีการทำงานคือมานั่งคุยกัน ทำแผนร่วมกัน รับฟังกันและกัน แบบที่ญี่ปุ่นทำสมุดปกขาวกับไทย คนเอเชียทำงานกันเงียบๆ ไม่ทำงานผ่านสื่อ สมัยก่อนเขาทำกันยังงี้
สอง อย่าสร้างบรรยากาศเผชิญหน้า สิ่งที่คนทั้งเอเชียฝังใจคือลัทธิอาณานิคม ลัทธินี้ทำให้คนยากจน พวกเขาเรียนรู้จากประสบการณ์
วิธีพูดผ่านสื่ออย่างที่นาย
เคอรี่ หรือคิตตี้ทำ ทำให้คนเอเชียคิดถืงเจ้าอาณานิคม คนเขาเฉย ไม่คุยด้วย แต่จะทำลายผลประโยชน์อเมริกามาก
มาด่าประเทศไทยเนี่ย คนเอเชียรู้สืกสะเทือนหมด ยกเว้นฟิลิปปินส์
สาม ผลที่ตามมาคือ การไปเจรจาของรัฐมนตรีเมกาล้มเหลวในทุกประเทศ พม่า เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนิเซีย สิงคโปร์ ลาว พม่า จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย กัมพูชา เขาแอบพูดกันว่าอย่างไร คิตตี้ รู้ไหม ชาวเอเชียคิดว่า ขนาดไทย เพื่อนร่วมรบ แม่งยังทำงี้เลย
สี่ ในเอเชียเน้นความกลมกลืน harmony เน้นความเป็นกลุ่ม คนเอเชียเขาอ่านเกมส์ออกหมดเลยว่าจะมาทำลายอาเชียน สร้างสงครามกลางเมืองในไทย ทุกประเทศออนการ์ดหมด มาแยกตีทีละประเทศไม่ได้ผลหรอก ใจคนเอเชียเค้า
ถืงกันหมด
ห้า คนเอเชียมองระยะยาว ชั่วลูกหลาน ต่างจากนักการเมืองเมกาที่ต้องการโชว์ผลงานระยะสั้น ไม่มีใครเต้นตามด้วย
จะให้คนเอเชียไปแนะอเมริกาว่าควรแก้ปัญหาอย่างไร ก็คงขำดี
เรื่องของไทยตอนนี้เหมือนกับอเมริกาพบปัญหาความมั่นคงหลัง 9/11 อเมริกาจำกัดเสรีภาพมากมาย กระทรวงพิทักษ์มาตุภูมิตั้งมา 13 ปีแล้ว ยังไม่เลิกเลย
ไทย ก็ทำนองนั้น แต่จะเลิกเร็ว ปัญหาความมั่นคงแห่งชาติเหมือนกัน คิตตี้เคยทำงานกับ NSA มาแล้วย่อมรู้ดี ว่าปัญหาแบบเดียวกัน
หก ยอมรับเถอะว่า ศาสนา วัฒนธรรมของคนในแต่ละประเทศต่างกัน ละตินก็แบบหนื่ง ไทยก็แบบหนื่ง คนเอเชียเรียนรู้ระบบสังคมประเทศ จากประสบการณ์ครอบครัว เป็นแนว inside out เขามีวิธีการแก้ปัญหาของเขาเอง
แล้วคนเอเชียก็ไม่โง่ ดูเอเซี่ยนในมหาวิทยาลัยอเมริกัน ดูการเรียนในชั้น เอเชียเหนือกว่าเยอะ เศรษฐกิจเอเชียเจริญดี ตามวิถีของเรา
เรื่องในไทยตอนนี้ คนไทย 90% แฮปปี้
สถานทูตจะมาทะเลาะกับคนไทยทั้งประเทศ คนเอเชียทั้งทวีป คงไม่ไหว เด๋วเจอถามยาก ตอบลำบาก
เจ็ด นักการทูตอเมริกาที่คนไทยยกย่องมาก คือ คิสซิงเจอร์ สุภาพ เคารพวัฒนธรรม เปลี่ยนการเผชิญหน้าเป็นการสร้างสันติภาพ สร้างความร่วมมือ สร้างเศรษฐกิจ สร้างดุลยภาพใหม่ สร้างความเข้าใจระหว่างประเทศ
พูดน้อย คนเอเชียยกย่องมาก
อยากให้ทูตคิตตี้เป็นที่จดจำเช่นนั้นบ้าง ทูตมีหน้าที่สร้างประโยชน์ต่อมนุษยชาติด้วย มิใช่เพียงเพื่อประโยชน์ของชาติตน แบบหลังเนี่ยฮิตเลอร์
ม. Tulane สอนไว้ เป็นคำขวัญของมหาวิทยาลัย ว่า
Not for one’s self, but for one’s own.”
Not for one’s self, but for one’s own.”
Not for one’s self, but for one’s own.”
คิตตี้ ต้องทำสามเรื่อง คือ
 
หนึ่ง ทำแผนการสร้างดุลยภาพใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับประเทศไทย แล้วขยายวง สร้างการยอมรับไปทั่วเอเชีย เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เหนื่อยน้อยที่สุด
ไม่มีไทยเป็นแกนกลาง วัตถุประสงค์การสร้างที่ยืนของอเมริกาในเอเชียจะยากมาก แนวทาง pivot ดูใหญ่โต แต่คนในเอเชียกลัว คุณไปเจรจา เขาคุยด้วย แต่คนในประเทศไม่เอาด้วย
ต้องทำแนว Asian Way แบบที่ไทยเคยทำ
วิธีนี้ได้ผลมาร่วมยี่สิบปี และจะเดินต่อไปเรื่อยๆ ไปทำอะไรให้ยากทำไม
---------
สอง ทำแผนความร่่วมมือทางเศรษฐกิจ แบบที่ญี่ปุ่นทำกับเอเชีย
ชวนญี่ปุ่นมาทำโครงการแก้ไขการก่อการร้ายแบบที่มินดะเนาสี่โครงการด้วยจะยิ่งดีมาก มันดูจะมีท่าทีที่ดีกว่า Trans Pacfic Cooperation เยอะ
สาม ยกเลิก travel alert ได้ จะทำให้คนไทยพอใจมาก ที่เขียนเตือนใส่สีตีไข่ให้ดูน่ากลัวนั้น มันไม่จริง เขียนเข้าไปได้ยังไง
อยากเห็นบ้านของพระยาปฏิพัทธิ์ราชประสงค์ ได้ทำหน้าที่สร้างประโยชน์ให้ทั้งสองประเทศอีกครั้ง
เป็น bottom up initiative ที่วอชิงตันน่าจะแฮปปี้
ระลืกถืงแบบสถานทูตอเมริกาในไซ่ง่อน เนี่ยไม่ไหว
ปล ทำเพจภาษาไทยออกมา เป็น response ที่ดีครับ
วันนี้ เห็นอเมริกาเงียบๆ บรรยากาศดีขื้น ต้องทำ engagement ด้วยนิดนืง
===
จดหมายน้อยที่มีผลสั่นสะเทือนมาก
เมื่อ เจ็ดปีที่แล้วในสถานการณ์คับขันของประเทศ
ไม่พูดเยอะ ทำเลย
การทูตโดยประชาชน
ไม่มีพรรคการเมืองทำแบบนี้ได้เลย
นักเรียนรัฐศาสตร์การทูตต้องอ่าน
เป็นบทความประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไปแล้ว,
เหมือนอ่านเฟรเดริค ฟอร์ไซท์555
โฆษณา