10 ก.ค. 2022 เวลา 03:05 • ความคิดเห็น
บทเรียนพันล้านของไม้ฟืน
ตอนผมรู้จักไม้ฟืน พะเนียง พงษธา ครั้งแรกก็คือตอนที่เขามาเรียนหลักสูตรเอบีซีรุ่นหนึ่ง ฟืนน่าจะยังอายุแค่ยี่สิบกลางๆตอนเจอกัน เขาเป็นเด็กหนุ่มหัวฟู ดูเนิร์ดมากๆ ขี้อาย สมถะ แต่ก็เป็นที่รักของพี่ๆ ตอนที่เขาแนะนำตัวก็บอกว่าเป็นนักลงทุน จบมาก็เล่นหุ้นไม่เคยทำงานที่ไหน ผมมาตกใจตอนที่มีคนมาแอบกระซิบว่าพอร์ตฟืนน่าจะหลักหลายพันล้านบาทในตอนนั้น
2
และที่น่าทึ่งกว่าพอรู้ทีหลังก็คือฟืนเริ่มลงทุนได้แค่ห้าหกปี เริ่มแบบงูๆปลาๆ ไม่มีใครสอนและเริ่มจากเงินไม่กี่แสนบาทบวกกับไปเอาพอร์ทหุ้นเก่าๆที่ทิ้งไว้ของพ่อมาเริ่ม
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าฟืนทำได้อย่างไร ก็มีโอกาสได้พูดคุยกับฟืนอยู่บ้าง ถึงรู้ว่าฟืนทุ่มเทและใฝ่รู้อย่างหนัก หนักขนาดอ่านหนังสือการลงทุนจนหลังเดี้ยงแทบเดินไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้คุยอะไรกันมากนักนอกจากเจอหน้าผมก็มักจะแอบถามหุ้นเด็ดจากฟืน ฟืนก็บอกด้วยความเกรงใจและความกลัวว่าผมจะขาดทุนเสมอ
หลังจากนั้นก็ได้เจอกันบ้างเป็นพักๆ ได้ข่าวฟืนไปบวชบ้าง เห็นตามรายงานผู้ถือหุ้นว่าฟืนถือหุ้นใหญ่บริษัทโน้น บริษัทนี้บ้าง ไม่ได้คุยอะไรจริงจังเท่าไหร่จนได้มีโอกาสมาฟังฟืนสัมภาษณ์ในรายการ black swan ของลงทุนแมน จึงได้เห็นวิถีการทำเงินได้เป็นหลายพันล้านของหนุ่มน้อยคนนี้และบทเรียนที่เขาได้มาจากการทุ่มทั้งชีวิตแบบเผาเทียนไขสองด้านว่าต้องแลกมากับอะไรบ้าง เป็นชีวิตของคนหนุ่มที่น่าสนใจและน่าเรียนรู้เป็นอย่างยิ่ง
ฟืนเกิดมาในบ้านที่มีฐานะปานกลาง เข้าใจเรื่องดอกเบี้ยทบต้นมาตั้งแต่เด็ก ทำให้อยากจะเก็บเงินออกเงินเยอะๆ ฟืนเริ่มเล่นหุ้นตามรุ่นพี่ที่คณะ แน่นอนว่าในยุคเริ่มต้นก็เล่นด้วยเงินเก็บสามหมื่นบาทที่อดออมมาทั้งชีวิต รุ่นพี่ในตอนนั้นชวนเล่นแบบหุ้นปั่นหรือหุ้นผีบอก
1
ช่วงแรกๆก็ได้เงินมาง่ายๆบอกตัวไหนขึ้นตัวนั้น จนฟืนเริ่มหลงในความแม่นของรุ่นพี่ก็เลยไปขอเงินแม่มาหนึ่งล้านแล้วลงหุ้นปั่นโดยไม่บอกแม่แต่บอกเพื่อนๆเต็มไปหมดด้วยความมั่นใจ ก่อนที่จะเจอวิกฤตซับไพร์ม หุ้นหนึ่งบาทเหลือหกสตางค์ภายในไม่กี่เดือน ...เป็นบทเรียนใจสลายครั้งแรกในชีวิตเพราะนอกจากเงินจะหมดแล้วยังทำเพื่อนๆเดือดร้อนอีกด้วย
1
ความเจ็บปวดครั้งนั้นทำให้ฟืนอยากมีความรู้เรื่องหุ้นขึ้นมา เลยไปเดินหาหนังสือที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ไปเจอพี่คนหนึ่งโดยบังเอิญแนะนำให้อ่านหนังสือสามเล่ม ตีแตกของ ดร นิเวศน์ ประเมินมูลค่าหุ้นของมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และ value way โดยคุณมนตรี
ซึ่งกลายเป็นหนังสือเปลี่ยนชีวิตที่ทำให้ฟืนเห็นทางของ value investor ที่ไม่เก็งกำไร ประเมินมูลค่าให้เป็นและซื้อต่ำกว่ามูลค่านั้นให้ได้ ในช่วงนั้นอยู่ปีสี่ ฟืนอ่านหนังสือทั้งวันทั้งคืน เริ่มมั่นใจด้วยทฤษฏีจากหนังสือ แล้วก็เลยลงหุ้นตามตำราไปหนึ่งตัว แล้วก็ขาดทุนหนักอีกครั้ง ถึงเริ่มได้บทเรียนที่ทำให้เข้าใจว่านอกจากดูอดีตแล้ว ต้องดูอนาคต ดู cycle ของหุ้นด้วย
2
หลังจากนั้น ฟืนพยายามเก็บหอมรอมริบ พยายามอ่านหนังสืออย่างหนักจนแม่สงสาร แม่เลยแนะนำให้ไปคุยกับพ่อซึ่งมีพอร์ตหุ้นที่เจ๊งหนักสมัยปี 40 แล้วไม่เคยดูพอร์ตอีกเลย
ฟืนเลยไปขอพอร์ตพ่อซึ่งพอมีหุ้นที่มีมูลค่าอยู่บางตัวรวมๆหลักสิบล้านบาทเอามาบริหาร และขอพ่อไม่เรียนปริญญาโทแล้ว เพราะรู้แล้วว่าตัวเองอยากรู้อะไร ขอเรียนด้วยตัวเองตามคอร์สต่างๆ แล้วเริ่มลงทุนอย่างจริงจังเป็นอาชีพหลักแต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จอีกเพราะลงหุ้นยี่สิบสามสิบตัวซึ่งมากเกินไป การลงทุนก็ไม่ได้ไปไหนไกลนัก
1
พอถึงทางตัน ฟืนก็เริ่มอ่าน ไปเจอบลอคชื่อ yoyoway ที่เขียนสอนเรื่องหุ้น ฟืนหลงใหลในเรื่องที่ yoyoway สอนมากถึงกับอ่านแบบไม่นอนไปสี่วัน yoyoway สอนให้มองรอบตัว สอนให้เห็นหุ้นตามชีวิตประจำวัน สอนให้อ่านงบการเงินและหลักการการลงทุนต่างๆ ทำให้ฟืนเริ่มรู้แล้วว่าต้องรู้อะไรบ้าง ฟืนก็เลยไปลงเรียนหลักสูตรตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ไปขอเรียนคอร์สสั้นๆกับคนเก่งๆ อ่านหนังสืออย่างหนักทั้งวันทั้งคืนจนทะลุปรุโปร่ง
แต่ทฤษฏีแม่นอย่างไรก็ตาม ลงสนามจริงฟืนก็เจ็บอีกจากใส่เงินทั้งหมดที่หุ้น jas ที่ฟืนมั่นอกมั่นใจถึงกับกล้าเล่น margin แต่ก็เกิดเหตุการณ์ blackswan หุ้น floor ก่อนงบออก ฟืนแทบหมดตัวไปอีกครั้ง ใจสั่นจากการขาดทุนจนต้องขายทิ้งก่อน jas จะขึ้นอีกรอบ ถึงเริ่มเข้าใจถึงความเสี่ยงที่ตัวเองยอมรับได้และรับไม่ได้จากบทเรียนนี้
1
ต่อจากนั้นก็ยังเจ็บอีกจากหุ้นอสังหาฯ sansiri ที่มั่นอกมั่นใจมาก มีรายได้แน่นอนจากโครงการที่ขายล่วงหน้า แต่ไปเจอ blackswan อีกครั้งจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 54 อีกครั้ง หุ้นที่ถือลงเยอะมากจนท้อถอยต้องตัดใจขายไปที่จุดต่ำสุดด้วยความกลัวและไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงพื้นฐานของหุ้นที่ในที่สุดก็ขึ้นกลับไปคืน
1
ผ่านการลองผิดลองถูกไปสี่ปี เจ็บเยอะจนมีวินัย มีภูมิคุ้มกัน มีความแม่นยำและรู้จักตัวเองมากขึ้น ฟืนค่อยๆเริ่มตั้งตัวได้ และมาโตก้าวกระโดดกับการเลือกหุ้น RS และ Workpoint ที่เป็นหุ้นเปลี่ยนชีวิตจากการไปประชุมผู้ถือหุ้นและศึกษาอย่างจริงจังแบบไม่หลับไม่นอนจนเข้าใจอย่างถ่องแท้ รู้จนเป็นที่พึ่งของตัวเองได้ ตอบคำถามได้ทุกคำถามที่เกี่ยวกับบริษัทที่เลือก
1
หลังจากนั้นก็เริ่มเจอสไตล์ของตัวเองที่ต้องเจาะลึก ศึกษานานอ่านกันเป็นปีๆ เลยเลือกถือหุ้นไม่กี่ตัวเท่าที่จะรู้ได้จริงๆ เคยเจ๊งยังไงมาจะไม่ทำแบบนั้นอีก ความแม่นยำในการเลือกหุ้นที่เข้าเป้าแล้วเข้าเป้าอีก ทำให้ฟืนถึงเป้าหมาย มีเงินมากเกินฝันและมีอิสรภาพทางการเงินตั้งแต่อายุไม่ถึงสามสิบ
ชีวิตที่เหมือนจะดี แต่เพราะฟืนทุ่มเททุกอย่างไปที่การศึกษาหุ้น ไม่มีชีวิตด้านอื่นเลยเพราะคิดว่าการลงทุนและมีเงินมากๆจะเปลี่ยนชีวิตได้ จะได้รับความรัก ไม่มีใครดูถูก เรื่องอื่นๆเลยพักไว้ก่อนหมดเพราะคิดว่ารวยแล้วค่อยพาพ่อแม่ไปเที่ยว สุขภาพที่เสียไปเดี๋ยวก็ใช้เงินซ่อมได้ เพื่อนก็ไม่มีเพราะเสียเวลาที่จะได้ศึกษาหุ้น นอนน้อย ไม่ออกกำลังกายใดๆ หายใจเข้าออกเป็นหุ้นไปหมดเพราะความเชื่อที่ว่ามีเงินมากๆคือความสำเร็จ ไม่น่าผิดตรงไหน
1
แต่ฟืนบอกว่าที่ผิดที่สุดในชีวิตก็คือ ทุกอย่าง ทุกคนไม่เคยรอเรา สุขภาพก็พัง หลังเดี้ยงจนเดินไม่ได้ นอนหงายยังเจ็บหลังตลอดเวลา ตาพัง กรดไหลย้อน และคุณพ่อเสียชีวิตก่อนที่จะได้พาไปไหนมาไหน แฟนก็เลิก อดทนจนทนไม่ไหวเพราะไม่มีเวลาให้ ในวันที่มีเงินมากจนใช้ไม่หมดแต่ก็สูญเสียอย่างอื่นจนแทบหมด จนถึงกับคิดว่าถ้ารอดไปได้จะไม่ทำตัวแบบนี้อีกแล้ว ฟืนบอกว่าอดีตเราทำทุกอย่างเพื่ออนาคตจะมีความสุข แต่ทำให้ปัจจุบันนั้นเจ็บปวดทุกวินาที เงินช่วยอะไรไม่ได้เลย รู้แล้วว่าโมเดลชีวิตนี้ไม่ใช่อีกต่อไป
1
โชคดียังมีอยู่บ้างที่ไปเจอหมอจัดกระดูก ฝังเข็ม กายภาพจนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ฟืนเลยยูเทิร์นร้อยเปอร์เซ็นต์ ทิ้งหุ้น ทิ้งการลงทุนไปหาความหมายในชีวิต ไปทำประโยชน์ตามต่างจังหวัด
1
แต่พอทำอะไรสุดขั้วพอร์ตการลงทุนก็เริ่มพังต้องกลับมาเริ่มศึกษาเริ่มทำการบ้านใหม่ จัดพอร์ตใหม่ก่อนที่จะไปบวชอยู่แปดเดือน ได้เข้าใจถึงการดำรงชีวิต ได้ลงทุนด้านจิตใจ ได้ความเข้มแข็งในใจ ได้รู้ซึ้งถึงความหมายของชีวิตในการทำประโยชน์ให้คนอื่น ในที่สุดฟืนก็เริ่มหาสมดุลของชีวิตได้ด้วยการลงทุนตามสมควรและมีมิติอื่นของชีวิตมากขึ้น
2
ฟืนสรุปในรายการของลงทุนแมนถึงเคล็ดลับของความสำเร็จและบทเรียนของเด็กหนุ่มพันล้านคนนี้ไว้อย่างน่าสนใจ ข้อแรกนั้นฟืนบอกว่าพรสวรรค์คือพรแสวง ชีวิตของฟืนที่มีอิสรภาพทางการเงินก็เกิดจากความเพียรและการแสวงหาล้วนๆ นอกจากแสวงแล้วก็ต้องทำให้ถูกทิศถูกทางด้วยการตั้งเป้าความสำเร็จที่ถูกต้อง หาอาจารย์ให้ถูกคน รู้ว่าเราต้องรู้อะไร ต้องเรียนรู้จากข้อผิดพลาด ผิดจนกลายเป็นวินัย เป็นเกราะกำบังที่ดีของการลงทุน แต่ที่สำคัญคือผิดได้ เจ็บได้แต่ต้องไม่ตาย คือไม่หมดตัวเสียก่อนจากการเสี่ยงเกินตัว
และสุดท้ายก็คือ การทำประโยชน์ให้คนอื่น คนที่เราช่วยได้ เราถึงจะเห็นคุณค่าในตัวเอง มีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเอง เป็นแรงขับที่มากกว่าความต้องการส่วนตัวมาก จึงจะเป็นความสำเร็จที่แท้จริง
บทเรียนของคนหนุ่มที่ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จมีเงินหลายพันล้านแต่พอได้มาจริงๆก็ต้องสูญเสียอะไรไปมากมาย ทำให้ฟืนได้รู้ซึ้งแล้วว่า อิสรภาพทางการเงินไม่ใช่เส้นชัย แต่ต้องควบคู่ไปกับอิสรภาพทางใจที่สงบ มีเหตุมีผล มีความสุข มีใจที่ปกตินั้นจะดีกับชีวิตมากกว่ามาก
3
และในที่สุดฟืนก็ได้คำถามแห่งชีวิตที่ไว้ถามตัวเองเวลาอยากจะกลับเข้าไปหมกมุ่นกับหุ้นอีกว่า …
1
ถ้าเราจะมีชีวิตได้อีกหนึ่งเดือน หนึ่งปี มีอะไรที่เราอยากจะทำบ้าง เพราะจะทำให้เราไม่มองข้ามสิ่งสำคัญไปและมา “รู้งี้” เหมือนกับที่ฟืนเคยเจอมาช่วงหนึ่ง และกลับมาเห็นค่าของคนรอบข้าง ได้ดูแลแม่ มีกัลยาณมิตรที่ดี และได้ขอบคุณทุกคนที่ทำให้เขามีวันนี้
ไม้ฟืน พะเนียง พงษธา
เป็นการตกผลึกของคนหนุ่มที่เคยจุดเทียนไขสองด้านพร้อมกัน ที่มีอะไรให้เรียนรู้เป็นอย่างยิ่ง
ดีใจที่ได้ฟังคลิปสัมภาษณ์ของฟืนในลงทุนแมนมากๆเลยครับ….
1
โฆษณา