อุณหภูมิภายในรถขณะตากแดด(อุณหภูมิภายนอก 33-36องศาเซลเซียส) สามารถฆ่าเชื้อโรคบนวัตถุต่างๆได้หรือไม่ ?
ผมเคยได้ยินข่าวการเสียชีวิตของ “เด็กเล็กๆ” ในข่าวต่างประเทศอยู่สามกรณีที่น่าสะเทือนใจ กล่าวคือ “การจมน้ำในสระว่ายน้ำในบ้าน” , “การที่ผู้ปกครองเผลอหลับแล้วนอนทับเด็กทารก” , และกรณีสุดท้ายคือ
“การที่ผู้ปกครองลืมทิ้งเด็กเล็กไว้ในรถที่จอดตากแดด” จนเด็กเสียชีวิต
จากข้อมูลที่ผมลองค้นดูพบว่า ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 เป็นต้นมา ที่เมืองลุงแซมมีกรณีการเสียชีวิตของเด็กเล็กที่ถูกลืมทิ้งไว้ในรถที่จอดตากแดดนานๆ ราว 1,000 รายเป็นอย่างน้อย
และค่าเฉลี่ยของเด็กๆที่เสียชีวิตในกรณีนี้ต่อปีสูงถึง 38 ราย!
โดยมีสื่อหลายๆสำนักที่ทำการทดลองวัดอุณหภูมิภายในรถขณะจอดตาดแดด
เวลา 01:03 pm
อุณหภูมิภายนอกรถ 38.4 องศา C
อุณหภูมิภายในรถ 39.9 องศา C
เมื่อเวลาผ่านไป
เวลา 01:35 pm
อุณหภูมิภายในรถ 54.6 องศา C
นั่นคือ การจอดรถตากแดดไว้เพียงแค่ราวๆ “ครึ่งชั่วโมง” อุณหภูมิในรถสามารถเพิ่มขึ้นได้มากกว่า 10+
องศา!
จนกระทั่งมีสื่ออีกที่หนึ่งพยายามอธิบายความร้อนภายในรถยนต์ที่จอดตากแดดด้วยการ นำแป้งคุกกี้เข้าไปไว้ในรถแทน “เตาอบ” !
วิธีการป้องกันการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่นี้ มีทั้งการใช้ “เทคโนโลยี” ที่ผู้ผลิตรถยนต์สามารถเพิ่มเติมให้ได้ เช่น การที่รถจะทำการแจ้งเตือนผู้ขับรถเป็นข้อความและเสียงสัญญาณบนหน้าจอในรถว่า “คุณมีเด็กเล็กอยู่ในรถหรือไม่” ก่อนที่ผู้ขับรถจะดับเครื่องยนต์ และอาจส่งข้อความเข้าโทรศัพท์ของผู้ปกครองหลังจากรถถูกดับเครื่องแล้ว
อีกวิธีหนึ่งที่ไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีมากนัก ก็คือ การที่ผู้ปกครองนำ “วัตถุหรือสิ่งของ” ที่ใช้เป็น “สัญลักษณ์” ไว้เตือนใจตัวเองว่า “มีเด็กอยู่ในรถ” ก่อนที่ผู้ปกครองจะเดินจากเด็กและรถไป เช่น การนำตุ๊กตาที่น้องๆชอบเล่น หรือ กระเป๋าที่ผู้ปกครองใช้ประจำตัวไปวางไว้ข้างๆ “เก้าอี้เด็กในรถ” หรือวางตุ๊กตาไว้ตรงที่นั่งผู้โดยสารข้างคนขับ
ที่สุดคือ การเป็น “ผู้ปกครอง” ที่มีหน้าที่ดูแล “ชีวิต” ของเด็กตัวน้อยๆนั้น เป็นภาระหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ และการมี “สติ” คือเครื่องช่วยที่นอกจากคุณจะใช้ดูแลตัวเองแล้ว คุณยังต้องใช้สติดูแลผู้อื่นด้วย
ถ้าคุณมีญาติๆหรือเพื่อนๆที่กำลังดูแลเด็กเล็กอยู่ แชร์ข้อเขียนนี้ออกไปหรือแจ้งเตือนพวกเขาถึงอุบัติเหตุลักษณะนี้ ช่วยกันป้องกันน้องๆจากอันตรายแบบนี้ เพราะไม่มีผู้ปกครองท่านไหนที่จะยอมรับกับการสูญเสียในลักษณะนี้ได้
ผมเชื่อว่าโลกเราต้องสูญเสียเด็กน้อยๆจากเหตุการณ์ลักษณะนี้มาพอแล้วและจงอย่ายอมให้มันเกิดขึ้นอีก! โดยเด็ดขาด!
4ถูกใจ
5แชร์
912รับชม
แสดงความคิดเห็นของคุณ...
