14 ก.ค. 2022 เวลา 04:41 • ไลฟ์สไตล์
ช่วงนี้รู้สึกว่า "ของแพง ค่าแรงไม่พอ"
วันก่อนมีข่าวว่าค่าไฟจะปรับขึ้นเป็นหน่วยละ 5 บาท ผมนี่รีบลุกไปปิดแอร์เลยครับ ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าค่าไฟปัจจุบันอยู่ที่หน่วยละเท่าไหร่ แต่ก็เป็นสัญญาณว่าอะไร ๆ มันต้องแพงขึ้นแน่ ๆ เลย ตั้งแต่ที่น้ำมันขึ้นราคา ค่าอาหารต่าง ๆ ก็ไม่ลดลงเลย
1
ค่าอาหารสดแพงขึ้นหนักมาก
เคยคิดว่าถ้าซื้อวัตถุดิบอาหารสดมาทำเองจะประหยัดค่ากับข้าวไปได้เยอะ แต่ต้นทุนการทำอาหารมีตั้งแต่วัตถุดิบ น้ำมันพืช แก๊ส หรือถ้าใช้เตาไฟฟ้าก็ใช้ไฟฟ้า รวมๆ กันก็พอกับซื้อเขากินเป็นมื้อ ภาพที่ชัดที่สุดก็คือ "ไข่ไก่" ครับ แถวบ้านเคยซื้อไข่ไก่เบอร์ 0 อยู่ที่แพงละ 104 บาท ตอนนี้ 130 บาทก็มี ผมไม่รู้ว่าย่านอื่นขายกันเท่าไหร่ มิน่าละบางร้านคิดค่าไข่ดาวฟองละ 10 บาท (เมื่อก่อน 7 บาท) ผักชีต้นหอมกำละ 10 บาท นับใบได้เลยครับ
2
Food Delivery ต่อให้ตัดค่าส่งแล้ว ค่า GP ก็แพงอยู่ดี
ในย่านที่ผมอยู่บางทีก็ต้องพึ่งพาบริการ Food Delivery อยู่บางมื้อครับ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเราต้องเสียค่า GP เป็นค่าบริการให้กับไรเดอร์และแอปฯ แต่บางทีก็รู้สึกว่าไม่อยากจ่ายค่าอาหารที่ควรจะราคา 50 บาท แต่บวกไปถึง 89 บาท ยอมออกแดดร้อนๆ ขับรถไปที่ร้านดีกว่า มีค่าส่งอีก 20 บาท บวกไปบวกมา อาหารตามสั่งจานเป็นร้อย จ่ายไม่ไหวครับ
3
ร้านสะดวกซื้อ ของปลีกก็แพง
วันก่อนต้องซื้อของบางอย่างในร้านสะดวกซื้อ ราคาเต็ม 97 บาท ในขณะที่ถ้ารออีกหน่อย สั่งซื้อผ่าน Shopee หรือแอปอื่น จะเหลือ 77 บาท ประหยัดไป 20 บาท ต่อแพ็ค ในปริมาณที่เท่ากัน ทำให้ผมคิดว่าถ้าเราเพิ่งบริการร้านสะดวกซื้อทุกวัน เราคงต้องจ่ายส่วนต่างไปเยอะมากต่อวัน ทุกวันนี้เข้าร้านที ขั้นต่ำ 300 บาท ไม่รู้เป็นเพราะเรากินเยอะหรือของมันแพงจริง ๆ
พอของแพงขึ้น โดยเฉพาะของกินของใช้ในชีวิตประจำวัน ทำให้คนเราต้องเลือกจ่ายเฉพาะสิ่งจำเป็นจริง ๆ อะไรที่เป็นของฟุ่มเฟือย เป็นสิ่งเพิ่มเติมอื่นในชีวิต ก็ต้องเว้นจ่ายไป สินค้าบางอย่างก็เลยขายไม่ออก สงสารบริษัทผู้ผลิตที่ต้องปิดตัว แรงงานถูกเลิกจ้าง ส่วนไอ้เราคนธรรมดา จะหาเงินมาซื้อของกินแต่ละวันยังลำบากเลยครับ ค่าแรงเท่าเดิม แต่รายจ่ายเพิ่มขึ้น ผมหวังว่าวันต่อไป ๆ คงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ๆ ที่ดีขึ้นครับ
โฆษณา