14 ก.ค. 2022 เวลา 09:05 • กีฬา
ดราม่าแดงเดือด โดย ธนินท์ธรณ์
ตั๋วผี วัฒนธรรมที่เคียงคู่กับสังคมไทย และสังคมโลกมาช้านาน
บอลนัดแดงเดือดเพิ่งจบไป พร้อมกับข้อกังขาหลายอย่าง ตั้งแต่เริ่มแรก
มาทำความรู้จักกับ สองคน ผู้ทำให้เกิดบอลนัดแดงเดือดนัดนี้
วินิจ เลิศรัตนชัย ดีเจชื่อดัง และท๊อป จิรายุส นักลงทุนรุ่นใหม่
และตัวแปรคนสุดท้ายในการจัดงาน พิมรี่พาย แม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง
"ศึกแดงเดือด" ที่ได้มีขึ้นที่ สนามรัชมังคลากีฬาสถาน ในวันอังคารที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นการพบกันของสองทีมใหญ่แห่งเกาะอังกฤษ ลิเวอพูล และ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เป็นการพบกันครั้งแรกของเอเชีย และครั้งที่ 3 นอกเกาะอังกฤษ
บอลนัดพิเศษนัดนี้ คือ การรวบรวมความสนใจ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ด้านการจัดฟุตบอล คอนเสิร์ต และกิจกรรมบันเทิงกลางแจ้งขนาดใหญ่ของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด
โดยแจ๊คสัน หวัง แห่งวง GOT7 ไอดอลหนุ่มดังจากเกาหลีใต้ และมีเซอร์ไพรซ์เป็น แรปเปอร์สาว มิลลิ ที่ไปสร้างกระแส ซอฟต์พาวเวอร์ ข้าวเหนียวมะม่วงบนเวทีโลกมาร่วมแสดงด้วย ซึ่งทั้งคู่มาแสดงเปิดงาน Red World Opening Live 'Jackson Wang - Magic Man' ความยาว 45 นาที ก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น
ผู้จัด คนแรก วินิจ เลิศรัตนชัย
สี่ทศวรรษของชีวิตการทำงาน วินิจสร้างผลงาน และชื่อเสียงให้สังคมรู้จักในบทบาทที่ต่างกัน ย่อหน้าแรกของประวัติของเขาทางวิกิพีเดีย ให้คำจำกัดความเขาไว้ว่า
"วินิจ เลิศรัตนชัย เป็นอดีตนักจัดรายการวิทยุชื่อดัง และนักธุรกิจจัดคอนเสิร์ตชาวไทย ที่มีผลงานเด่นคือ การแสดงเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ในรูปแบบต่าง ๆ"
ทว่าความคิด ความเชื่อ และการกระทำของเขาต่อการยกย่องมรดก ค่านิยม และ "ซอฟต์เพาเวอร์" ของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก รวมทั้งมุมมองต่อคนไทย ล้วนเป็นเรื่องน่าสนใจ
ในวัย 20 ต้น ๆ วินิจเติบโตมากับวงการวิทยุ ในยุคที่เจ้าของรายการต้องหาเงินมาจ่ายค่าสัมปทาน และค่าเช่าเวลา พร้อม กับการแจ้งเกิดของสถานีวิทยุเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องแข่งขันกันอย่างรุนแรง การประชาสัมพันธ์ศิลปินค่ายเพลงต่าง ๆ จึงเป็นช่องทางหารายได้เข้าบริษัท
เขาเป็นดีเจที่ปฏิเสธวิธีเปิดเพลงรับเงินที่เรียกกันว่า "คิวละพัน วันละเพลง" หรือประสานักฟังเรียกว่า "ตามใจคนจัด ขัดใจคนฟัง"จนทำให้มีแฟนจำนวนมาก ชื่นชอบน้้ำเสียง คอยหมุนคลื่นติดตาม และอยากโทรศัพท์ไปขอเพลงเพราะขอได้จากทุกค่าย
วินิจบอกกับนิตยสาร MiX ว่า เขาเป็นดีเจที่ไม่ได้มีหน้าที่แค่เปิดเพลงให้คนฟัง แต่เป็นดีเจที่มีอิทธิพลสามารถผลักดันให้นักร้องออกอัลบั้มเพลงทำเป็นธุรกิจได้ ด้วยจรรยาบรรณต้องวิจารณ์ได้ว่าเพลงไหนดีไม่ดี
เขายังรู้สึกว่าวิชาชีพถูกดูแคลนกับปัญหาเพลงไทยชอบไปก็อปปี้เพลงจีน และฝรั่ง เขาแก้เผ็ดนำเพลงต้นแบบมาเปิดเทียบให้คนฟัง จนถูกผู้ใหญ่จากบริษัทเทปบางค่ายแจ้งเจ้าของบริษัทที่ทำงานสั่งให้หยุด
ช่วงอ่านข่าวที่สถานีวิทยุพล.ปตอ.ก็มีปัญหาเรื่องคิวละพัน วันละเพลง สมัยนั้นบริษัทเทปที่ออกแผ่นเสียงจ้างดีเจเปิดวันละเพลง ครบเดือนรับเงินหนึ่งพันบาท ครั้งแรกเขาเข้าไปชกดีเจเพราะยอมไม่ได้เมื่อถูกเร่งให้อ่านข่าวเพื่อจะได้เปิดเพลง พอเจอครั้งที่สองถึงขั้นกระโดดถีบเพราะอ่านข่าวยังไม่ทันจบโดนปิดไมค์แบบไม่รู้ตัว ทำให้เขาตัดสินใจลาออก
วินิจให้สัมภาษณ์นิตยสาร Positioning ว่าฝันอยากเป็นดีเจตั้งแต่เรียนมัธยม เริ่มสะสมแผ่นเสียงทำสตูดิโอเองที่บ้าน และหาข้อมูลเพลงจากผู้รู้ทุกเย็นหลังเลิกเรียน ตามร้านขายเครื่องเสียงกับเจ้าของร้าน กับคนขายแผ่นเสียงย่านสะพานเหล็กเพื่อข้อมูลใหม่ ๆ อยู่เรื่อย ๆ ก็เรียกได้ว่า สั่งสมประสบการณ์ด้วยตัวเองมาตั้งแต่ยังเด็ก
จนวันที่เขาจบประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) แผนกการโฆษณา โรงเรียนพาณิชยการพระนคร ปี 2525 เขาต้องเลือกเอาระหว่างจะเรียนต่อ หรือไปตามหาฝันกับงานซึ่งถือเป็นใบเบิกทางไปสู่อาชีพดีเจได้ง่ายขึ้น เขาบอกว่า เป็นปีที่ชีวิตผกผัน
"เราจบปวส.แล้ว จังหวะที่เราจะเรียนต่อก็ไม่มีโอกาสเรียนต่อเพราะว่า ได้งานที่ชอบก่อน ก็คือ งานอ่านข่าวในวิทยุเอเอ็มของปตอ. แล้วก็งานดีเทลขายยา ต้องเลือกเอาอันใดอันหนึ่ง สุดท้ายผมเลือกไปเป็นโฆษกอ่านข่าวเมื่อปี 2525 ผมเองชีวิตมันผกผันผมก็เลยไม่ได้เรียนต่อ" จนในที่สุดมันก็ทำให้เขาเป็นเขาอย่างในทุกวันนี้
เบื้องหลังดราม่ามหาชนเดือดก่อนที่แมตซ์อุ่นเครื่องแดงเดือดระหว่าง แมนยูฯ-ลิเวอร์พูลที่จะจัดขึ้นในไทยวันที่ 12 ก.ค.นี้
เมื่อพิมรี่พายแม่ค้าออนไลน์ชื่อดังซึ่งกลายมาเป็นตัวแปรคนที่สาม ไลฟ์สดเลหลังขายตั๋วเข้าชมกว่า 20,000 ใบ พร้อมจัดโปรฯ ได้ลุ้นดินเนอร์กับนักเตะ และ แจ็กสัน หวัง นักร้องดัง โดยสงสัยกันว่า พิมรี่พาย ไปเอาตั๋วจำนวนมากนี้มาจากไหน? ทำได้อย่างไร? พร้อมกับ "เปิดเครื่องด่า" จัดทัวร์ลงพิมรี่พายและผู้จัดอย่างหนักที่เอาเปรียบแฟนๆ ที่จองซื้อตั๋วราคาแพงก่อนหน้านี้
ร้อนถึงผู้จัดบริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล ตัองออกมาให้ข้อมูลแก้ตัวเชิงยอมรับว่า เป็นตั๋วล็อตใหญ่ที่ถูกเหมามาจริง โดยน่าจะเป็นตั๋วที่กันเป็นโควตาให้สโมสรทั้งสองฝั่ง 30% เอาไปขายในต่างประเทศ แต่ขายไม่หมดจึงนำกลับที่สโมสรอีกรอบ และทางผู้จัดรับรู้เรื่องนี้ ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องจริงทั้งหมดหรือไม่
บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล ได้อ้างต่อว่า หลังจากนั้นพิมรี่พายได้เหมาตั๋วไป แต่ไม่ทราบว่าจากแหล่งใด ผู้จัดยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเอกชนไทยที่ทำหน้าที่ขายตั๋ว
จากนั้นมีหนังสือชี้แจงว่า กรณีการจำหน่ายบัตรเข้าชมวันซ้อมคอนเสิร์ต และมื้อพิเศษกับนักฟุตบอลและแจ็คสัน หวัง ตามที่พิมรี่พายอ้างนั้น ไม่เป็นความจริง
ตามที่มีการนำเสนอข่าวคลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล เรื่อง การจำหน่ายบัตรวันซ้อมคอนเสิร์ต และการจัดมื้อพิเศษกับนักฟุตบอลและแจ็คสัน หวัง เมื่อค่ำวันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมานั้น บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด ผู้จัด THE MATCH Bangkok Century Cup 2022 ขอเรียนชี้แจงว่า ไม่มีการจำหน่ายบัตรเข้าชมวันซ้อมคอนเสิร์ต และไม่มีการจัดมื้อพิเศษกับนักฟุตบอลทั้งสองสโมสร หรือ แจ็คสัน หวังให้กับแฟนคลับตามข่าวที่นำเสนอ
บริษัทฯ ขออภัยเป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้ และขอขอบพระคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจงาน THE MATCH Bangkok Century Cup 2022
อย่างไรก็ดี มีการวิเคราะห์กันว่า ถ้าไม่ใช่ เฟรชแอร์ แล้วจะเป็นใครที่มีตั๋วจำนวนมากไว้ในครอบครองก่อนปล่อยให้พิมรี่พาย ซึ่งก็มองกันไปที่ ผู้จัดร่วม หรือ สปอนเซอร์รายใหญ อย่าง บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ของ นาย"ท๊อป" จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ที่ออกตัวแรงเสนอตัวเป็นสปอนเซอร์รายการนี้เพราะหลงใหลฟุตบอลและเป็นแฟนแมนยูฯ
จะใช่บิทคับ ปล่อยตั๋วออกมาหรือไม่? ถ้าไล่เรียง คอนเน็คชั่นและ เครือข่ายธุรกิจบิทคับมีความเป็นไปได้สูงที่ตั๋วขายไม่ออกเหล่านั้น จะมาจากแหล่งนี้ โดยผ่าน หลักสูตร หรือโปรแกรม ที่เรียกว่า "The chosen one" ที่เป็นกลุ่ม "elite insider" ได้ประโยชน์จากเหรียญ Kub ของบิทคับ ก่อนใคร
โดยนายจิรายุส ใชัเครือข่ายโปรแกรมนี้โน้มน้าวให้เจ้าของธุริกิจ หรือชนชั้นนำของสังคม กลุ่มอีลิท ดารา เซเลป เข้ามาเป็นสมาชิก ซึ่งก็เชื่อว่า พิมรี่พาย อาจจะมีสัมพันธ์กับเครือข่ายนี้ หรือ บิทคับ ร่วมทำมาร์เกตติ้ง หรือ ว่าจ้าง แม่ค้าออนไลน์รายนี้
บิทคับ รับรู้กันดีว่า เป็นเจ้าของตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี่ จากสตาร์ทอัป อัปเกรดขึ้นมาเป็น "ยูนิคอร์น" ภายในเวลาอันรวดเร็ว โดยการขี่กระแสขาขึ้นของ "บิทคอยน์"
พร้อมกับความพยายามในการสร้าง "ลัทธิ" หรือการสร้างบุคลิกให้ธุรกิจและตัวของ "ท๊อป" จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ให้เป็นดั่ง "เจ้าลัทธิ"
ที่ผ่านมามีเจ้าของธุรกิจ และคนดังมาร่วม The chosen one เป็นจำนวนมาก นายท๊อปได้ทุ่มงบประมาณการตลาดโหมโฆษณาทั้งออฟไลน์ผ่านป้ายบิลบอร์ดติดทั่วบ้านทั่วเมือง และ ออนไลน์ เป็นเงินหลักพันล้าน
ขณะเดียวกัน พยายามเข้าไปเป็นสปอนเซอร์ในกิจกรรม หรือ อีเวนท์ที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจ เพื่อทำให้สังคมเชื่อไปในแนวทางเดียวกันกับบิทคับว่าคือผู้ที่จะมาเปลี่ยนแปลงโลกการเงิน และเชื่อมต่ออนาคตด้วยนวัตกรรมใหม่ พร้อมกับการปูพรมกวาดต้อนนักลงทุนหน้าใหม่ไร้ประสบการณ์ นักเรียนมัธยม เด็กมหาวิทยาลัย ที่ยังไม่มีรายได้เป็นของตัวเองด้วยแคมเปญ เช่น 10 บาทก็ลงทุนได้
นายท๊อป และ บิทคับ ถูกวิจารณ์ว่า ทำโฆษณาศูนย์การซื้อขายคริปโตฯอย่าง “บ้าคลั่ง” เอาการตลาดนำหน้าเพื่อหารายได้ เพื่อผลกำไรทางธุรกิจ มากกว่าผลลัพธ์การพัฒนาตลาดคริปโตฯของตนเอง
ซึ่ง ผลจากการจัดงานในครั้งนี้ ทำให้วัฒนธรรม ตั๋วผี ถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง
ตั๋วผี เกิดจาก ดีมาน ซัพพลาย หรือความต้องการที่ต่างกันมาก ในเมื่อ ความต้องการซื้อมาก แต่มีสินค้าตอบสนองน้อย ตั๋วผี จึงบังเกิด
ในอดีต ยุคเริ่มมีโรงหนังในประเทศ มีการฉายหนัง ขายตั๋วหน้าโรงกันเป็นปรกติ คำว่าตั๋วผี ก็เกิดจาก การมีคนไปเหมาตั๋วหนัง ก็หนังโรงนี่แหละ เหมาเอามายืนขายกันหน้าโรงกันดื้อๆโดยบวกราคาเพิ่มเข้าไปอีกนิดหน่อย เรียกได้ว่า ซื้อมาโก่งราคาขายกันตรงนั้นเลย
จนกลายเป็นเรื่องปรกติธรรมดาไป ธรรมดายังไง ย้อนมาดูในปัจจุบัน วัฒนธรรมตั๋วผีในอดีต ทำให้เกิดอะไรบ้าง
ไม่ว่าจะเป็นตั๋วบอลไทย,อังกฤษ ตั๋วคอนเสิร์ต ลามไปถึงนัดฉีดวัคซินโควิท จนถึงเรื่องใหญ่ระดับชาติล๊อตเตอรี่ จนกลายเป็นปัญหาหวยแพง จนรัฐต้องออก สลากฯออนไลน์ ขายในแอปฯเป๋าตัง ซึ่งแม้กระทั่ง การขายออนไลน์ ก็ยังหนีไม่พ้นวัฒนธรรม"ตั๋วผี"
ที่แม้แต่การใช้การลงทะเบียนด้วยไอดีในการซื้อ อย่าง เครื่องเกมส์ SONY PS5 ที่ราคาขาย 16,900 บาท จะถูกร้านค้าอาศัยการจ้างให้ยูสเซอร์อื่น เอาไอดีเข้าไปซื้อ โดยให้ค่าจ้างในการกดซื้อได้ 1,000 -2,000 บาท แลกกับการที่ร้านค้า เอามาวางขายในราคา 26,900 บาท และน่าจะลามไปถึง สลากฯออนไลน์ในที่สุดอีกด้วย
แต่ ในการจัดบอลแดงเดือดนัดนี้ ที่ควรจะมีตั๋วผีตามปรกติ ก็ทำเอาผิดคาด เพราะตั้งแต่ก่อนจัดนับเดือน บ.มีการประชาสัมพันธ์ล่วงหน้า ถึง วัน เวลา สถานที่ และราคาตั๋ว ซึ่งมีเสียงตอบรับออกมาในทำนองที่ว่า ค่าตั๋วแพงสวนกระแสเศรษฐกิจอย่างมหาโหด
ซึ่งเมื่อถึงวันจำหน่ายตั๋วจริง ก็มีผู้เข้ามาลงทะเบียนกดซื้อออนไลน์กันในราคาปรกติส่วนหนึ่ง จนผู้จัด น่าจะเจอปัญหา ตั๋วแพงเกินไป ขายไม่ออก ปัญหาจึงเกิดอย่างที่เราได้รับทราบกัน ว่าการระบายตั๋วให้แม่ค้าออนไลน์ เป็นการเล่นนอกแผน เรียกตัวสำรองลงสนาม ก็ถือว่า พิมรี่พาย เป็นซุปเปอร์ซับ เปรียบได้กับสมัยที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดยังรุ่งในยี่สิบกว่าปีก่อน ปล่อยตัวสำรอง โอเล่ กุนน่า โซลชา ออกมาเมื่อไร ก็ทำประตูให้ทีมได้สมใจเซอร์อเล็ก เฟอร์กูสันเสมอๆ
แต่ปัญหาซุปเปอร์ซับอย่างพิมรี่พายทำแต้ม ขายตั๋วแก้วิกฤติให้ บ.ได้ อาจจะไม่ถูกใจมหาชนอย่างที่โซล์ชาทำ เพราะคนที่ซื้อตั๋วแบบเต็มราคา ย่อมจะไม่พอใจ ที่รู้สึกว่าตนเองนั้น จ่ายแพงกว่าคนอื่น
และตัวพิมรี่พายเองนั้น ก็แก้ตัวกับเรื่องบัตรทานข้าวกับนักเตะ และศิลปินอย่างแจ็คสันหวัง ที่ไม่มีจริงตามที่ตนกล่าวอ้างไปเสียด้วย ซึ่งในจุดนี้ อาจจะเกิดจากการดีลในส่วนที่ บ.ให้พิมรี่พายระบายตั๋วให้ไม่เรียบร้อยหรือไม่ ก็อาจจะเป็นไปได้
แถมซ้ำร้ายสำหรับคนที่ซื้อตั๋วราคาเต็ม หรือซื้อจากพิมรี่พายวันแข่ง หน้างาน ก็มีประกาศแจกตั๋วฟรีอีกด้วย ซึ่งก็ไม่ทราบ ว่าเป็นปริมาณเท่าไหร่ ใช้สิทธิอะไรไปรับ และเสียงตะโกนตำหนิ จากคนที่ไม่ได้ซื้อตั๋ว อยากนั่งดูอยู่ที่บ้าน ก็เผื่อแผ่ไปยัง บ.โทรคมนาคมใหญ่ อย่าง AIS ที่มีปัญหากับการถ่ายทอดสดอีกด้วย
ไม่นับดราม่าหลังจบเกมส์ ที่ทีมชนะอย่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ทิ้งถ้วยรางวัลไว้ในห้องพัก ไม่ได้นำกลับ โดย บ.อ้างว่า เตรียมส่งไปอังกฤษภายหลัง เพราะมีขนาดใหญ่ และน้ำหนักมากเกินไป
ในข้อนี้งงกับคำแก้ตัวจริงๆ
โฆษณา