16 ก.ค. 2022 เวลา 03:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ความก้าวหน้าเทคโนโลยี คือจุดเปลี่ยนสำคัญของกลุ่ม Healthcare
หากพูดถึงกลุ่มอุตสาหกรรม Healthcare สิ่งแรกที่หลายคนนึกถึง คงหนีไม่พ้นสถานที่อย่าง ‘โรงพยาบาล’ แต่หากมองลึกลงไปกว่านั้น Healthcare ในปัจจุบันไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องของสถานที่รักษาอีกต่อไปแล้ว
1
เพราะในปัจจุบัน ‘เทคโนโลยี’ เข้ามามีบทบาทมากขึ้น เรียกได้ว่า เราแทบไม่จำเป็นต้องไปหาหมอถึงที่โรงพยาบาล ก็สามารถตรวจ หรือรักษาได้สะดวกมากขึ้น
สำหรับเทคโนโลยีที่เข้ามายกระดับอุตสาหกรรรม Healthcare ให้ผู้คนสามารถเข้าถึงได้สะดวกมากขึ้นในทุกที่ หนึ่งในนั้นคือ “Telemedicine หรือเทคโนโลยีการแพทย์ระยะไกล” ที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกทั้งตัวแพทย์และผู้ป่วยที่ต้องการเดินทางเพื่อมารักษาโรคโดยเฉพาะ
ในปี พ.ศ. 2564 ข้อมูลจาก Grand View Research บริษัทวิจัยด้านการตลาดในสหรัฐอเมริกา ระบุว่า Market Size ของกลุ่มเทคโนโลยีอย่าง Telemedicine มีมูลค่าถึง 70.4 พันล้านดอลลาร์ และคาดการณ์เอาไว้ว่า ในอนาคตระหว่างปี พ.ศ. 2565 ถึง 2573 จะมีอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) อยู่ที่ 19.5%
ความน่าสนใจในบทบาทของ Telemedicine คืออะไร ?
ข้อมูลจาก Medical News Today ณ วันที่ 20 เมษายน 2563 ระบุว่า โดยส่วนใหญ่ Telemedicine จะถูกใช้เพื่อประเมินให้คำปรึกษาด้านอาการของผู้ป่วยในเบื้องต้นต่อการรักษา เช่น การรักษาสุขภาพจิต การประเมินผลจากการติดเชื้อเพียงเล็กน้อย หรือการเขียนใบสั่งยา เป็นต้น
ซึ่งการมาของ Telemedicine ยังทำให้ผู้ทุพพลภาพสามารถเข้าถึงการดูแลรักษาได้สะดวกมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีข้อดีในเรื่องของการประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของผู้ป่วย
รวมไปถึงต้นทุนทางการแพทย์ที่ต่ำลง และการลดความแออัดภายในของโรงพยาบาลอีกด้วย
จะเห็นได้ว่า Telemedicine นั้นมีประโยชน์และความน่าสนใจเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของกลุ่มธุรกิจ Healthcare เลยก็ว่าได้
หากถามว่า อนาคตของกลุ่ม Healthcare จะไปได้ไกลแค่ไหน หรือจะเป็นแค่เทรนด์ชั่วคราวเท่านั้น ?
ต้องบอกว่า สิ่งที่ KTAM มองเห็น ณ เวลานี้ คือ เรื่องของศักยภาพและความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่ Telemedicine หรือ เทคโนโลยีการแพทย์ระยะไกลเพียงเท่านั้น
แต่ยังมีการนำเทคโนโลยีอื่น ๆ มาประยุกต์ใช้ ผนวกกับการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ทางการแพทย์อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์การแพทย์ รวมไปถึงการคิดค้นยารักษาโรคต่าง ๆ ที่ให้ทันต่อเหตุการณ์ในปัจจุบันและแนวโน้มต่อการเกิดโรคอื่น ๆ ในอนาคต
และเมื่อเทคโนโลยีได้ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรม Healthcare ทำให้ธุรกิจกลุ่มนี้ มีแนวโน้มและโอกาสที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต
📍 สำหรับใครที่สนใจลงทุนในกลุ่ม Healthcare สามารถเลือกลงทุนผ่านกองทุน KT-Healthcare และสำหรับใครที่ต้องการลงทุนไปด้วยพร้อมกับการลดหย่อนภาษีไปในตัว กองทุน KT-HEALTHC RMF ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์เช่นกัน
ทั้ง 2 กองทุนนี้จะมีการลงทุนในกองทุนหลักอย่าง Janus Global Life Sciences Fund ซึ่งเป็นกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป (Retail Fund) ที่เน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์สำหรับการรักษา และพัฒนาคุณภาพชีวิต รวมไปถึงบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย พัฒนา ผลิตและจัดจําหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม
โดยทีมผู้จัดการกองทุนหลักนี้ เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางสาขาชีวเคมี และมีประสบการณ์การเป็นนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนมามากกว่า 20 ปี เน้นการลงทุนรูปแบบ Bottom-up คือการศึกษาไปถึงมูลค่าหุ้นโดยเฉพาะเลยทีเดียว (ที่มา : KTAM)
1
หากสนใจลงทุนกองทุนกลุ่ม Healthcare สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
- กองทุน KT-Healthcare https://bit.ly/2IUMj3p
- กองทุน KT-HEALTHC RMF https://bit.ly/3RnNQQo
KTAM Smart Trade
เปิดบัญชีกองทุนออนไลน์ได้แล้ววันนี้
ง่าย สะดวก ปลอดภัย รวดเร็ว คลิก
☎ สอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนที่ ธนาคารกรุงไทย ผู้สนับสนุนการขาย หรือ บลจ.กรุงไทย โทร. 𝟎𝟐-𝟔𝟖𝟔-𝟔𝟏𝟎𝟎 กด 𝟗
คำเตือน:
ปัจจัยความเสี่ยงที่สำคัญ: ความเสี่ยงทางตลาด (Market Risk) / ความเสี่ยงจากการดำเนินงานของผู้ออกตราสาร (Business Risk) / ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน (Currency Risk) / ความเสี่ยงของประเทศที่ลงทุน (Country Risk) เป็นต้น
กองทุนนี้มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้
กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ในกรณีที่กองทุนไม่ได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุน หรืออาจจะได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนเพื่อการออม และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ หากลงทุนไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด อาจจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีและเสียเงินเพิ่ม
Reference :
โฆษณา