18 ก.ค. 2022 เวลา 14:52 • หนังสือ

ฮ า จิ โ ก ะ

ผู้อ่านหลายคนคงเคยได้ยินเรื่องราวความรักที่แสนซาบซึ้งใจระหว่างเจ้าสุนัข “ฮาจิโกะ” และศาสตราจารย์ท่านหนึ่งในญี่ปุ่นมาบ้าง ซึ่งทำให้เรารู้ว่า การรอคอยนั้นมีความหมายสำหรับใครบางคนยิ่งนัก ...
“ฮาจิโกะ” (Hachiko. El gos que esperava) เป็นผลงานของหลุย์ พรัทส์ (Lluís Prats) นักเขียนชาวสเปน ในภาษากาตาลัน ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นของสเปน และได้มีการแปลเป็นภาษาสเปนโดยออลก้า การ์เซีย ฉบับภาษาไทยแปลโดยอาจารย์รัศมี กฤษณมิษ นักแปลวรรณกรรมเยาวชนภาษาสเปนยุคบุกเบิก
เรื่องแบ่งเป็นสองภาคคือ ภาคแรกในปี ค.ศ. ๑๙๒๔-๑๙๒๕ (พ.ศ. ๒๔๖๗-๒๔๖๘) และ ภาคสองช่วงปี ค.ศ. ๑๙๒๕-๑๙๓๕ (พ.ศ. ๒๔๖๘-๒๔๗๘) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ฮาจิโกะมีชีวิตอยู่
เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อศาสตราจารย์เอซาบูโร อูเอโนะ แห่งมหาวิทยาลัยโตเกียวได้ไปรับสุนัขตัวหนึ่งซึ่งตั้งใจจะให้เป็นของขวัญแก่ลูกสาว
เขาไม่คิดสักนิดเลยว่า เจ้าสุนัขตัวนี้จะกลายเป็นเสมือนเพื่อนสนิทของเขา และเขาจะรักมันมากจนกลายเป็นความผูกพันกับมันอย่างลึกซึ้งในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์
เขาใช้เวลาอยู่กับมันมากกว่าภรรยาเสียอีก ในตอนเช้าเวลาแปดโมงครึ่งเขาจะเดินจากบ้านไปสถานีรถไฟชิบูย่าโดยมีหมาตัวนี้เดินเป็นเพื่อนไปด้วยเสมอจนเพื่อนบ้านและผู้คนที่สถานีต่างคุ้นตา
เมื่อถึงเวลาห้าโมงสิบห้านาทีในตอนเย็น ฮาจิโกะก็จะวิ่งออกจากบ้านไปรอเขาที่สถานี ครั้นได้ยินเสียงหวูดรถไฟเข้ามาก็จะยึดคอขึ้นรอดูนายมันเดินลงมาจากรถไฟ...กิจวัตรประจำวันของฮาจิโกะเป็นเช่นนี้จนเวลาผ่านไป ....
เวลาผ่านไปนานวันก็มีเหตุหนึ่งเกิดขึ้นทำให้ฮาจิโกะที่เฝ้ารอนายมันไม่ได้มีโอกาสได้เจอศาสตรจารย์เอซาบูโรเช่นเคยอีกต่อไป....แต่มันก็ยังคงไปรอศาสตราจารย์ที่สถานีรถไฟ...รอจนผู้โดยสารคนสุดท้ายเดินออกมาและนายสถานีปิดประตู มันก็จะเดินกลับบ้าน และกลับมาใหม่ตอนเย็นทุกวัน เพราะมันจำได้ว่า นายมันไม่เคยผิดคำสัญญากับมันมาก่อน
ทุกคนที่สถานีรถไฟต่างรู้ดีว่านายของฮาจิโกะไม่มีวันกลับมาหามันอีกแล้ว แต่ก็ไม่คาดคิดว่าฮาจิโกะจะกลับมาเฝ้ารอศาสตราจารย์ทุกวันเมื่อได้ยินหวูดเสียงรถไฟตอนห้าโมงครึ่ง มีคนที่สถานีรถไฟบางคนซึ่งไม่ชอบหมา และไม่อยากเห็นฮาจิโกะป่วนเปี่ยนอยู่แถวสถานีรถไฟทุกวันในเวลาเดียวกันคิดว่าสักวันมันคงเบื่อไปเอง แต่เขาคาดผิดถนัด
การรักใครสักคนและเฝ้ารอคอยพบกันทุกวันเมื่อคนที่รักกลับมา เป็นความรักความผูกพันที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง แต่ถ้าคนที่เฝ้ารอนั้นไม่รู้เลยว่าคนที่รักนั้นได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับมาเจอกันอีกแล้ว...แต่ยังคงรอคอยคนรักที่เดิมเวลาเดิมทุกวันนานเป็นปี ๆ คงเป็นความเจ็บปวดยิ่งกว่าสำหรับผู้ที่รับรู้เรื่องราวนี้...
.
.
ฮาจิโกะเฝ้ารอคอยนายที่สถานี
ฮาจิโกะเป็นหมาพันธุ์อาคิตะ ซึ่งเป็นหมาของซามูไรนั้นมันมีความหนักแน่นมั่นคง
ฮาจิโกะเป็นเช่นนั้น...ไม่ว่ามันจะถูกส่งจากบ้านไปอยู่ที่ไกลแสนไกลจากโตเกียวเพียงใด มันก็หาทางกลับมาที่นี่จนได้ หรือแม้เมื่อมันต้องอยู่เพียงลำพังอย่างโดดเดี่ยวขณะที่อายุค่อย ๆ มากขึ้น ฤดูร้อน ฤดูหนาวหมุนเวียนผ่านไปปีแล้วปีเล่า...
ผู้คนที่คุ้นเคยกับมันทยอยห่างหายไปไม่ได้อยู่ดูแลมันอีก ฮาจิโกะก็ยังคงเดินช้า ๆ มาคอยรอรับศาสตราจารย์ที่หน้าสถานีรถไฟ ณ จุดเดิม...เวลาเดิมจวบจนถึงวันสุดท้ายที่มันหมดลมหายใจ
เรื่องของฮาจิโกะ (หรือฮะจิโค ในภาษาญี่ปุ่น) และตัวละครในเรื่องล้วนมีอยู่จริง เรื่องนี้เคยมีการสร้างเป็นภาพยนตร์อเมริกันชื่อ "ฮาชิ หัวใจพูดได้" (Hachi: A Dog's Tale) เมื่อปี ค.ศ. ๒๐๐๙ (พ.ศ. ๒๕๕๒) ซึ่งดัดแปลงมาจากภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่อง Hachikō Monogatari ในปี ค.ศ. ๑๙๘๗ (พ.ศ. ๒๕๓๐)
หลุย์ พรัทส์ ผู้เขียนได้ถ่ายทอดความรู้สึกที่เจ็บปวดของการสูญเสีย ความรักและความหมายที่มีคุณค่าของการรอคอยอย่างซื่อสัตย์และยาวนานโดยปราศจากเงื่อนไขของฮาจิโกะ ที่สถานีรถไฟชิบูย่าได้อย่างซาบซึ่งจนผู้อ่านเองก็คงกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ขณะอ่านเรื่องของฮาจิโกะ นักแปลก็เลือกใช้ถ้อยคำที่ไพเราะลึกซึ้งทำให้เราอ่านด้วยความเข้าใจและเข้าถึงอารมณ์ของเรื่องได้อย่างดี
หนังสือเรื่อง "ฮาจิโกะ" นี้เป็นฉบับตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วโดยสำนักพิมพ์พิคโึโล่ หากใครยังไม่เคยอ่านแอดขอแนะนำว่าควรอ่านสักครั้ง เปิดอ่านแล้วรับรองว่าคุณจะวางไม่ลง คุณจะหลงรักฮะจิโกะและน้ำตาคลอด้วยความรักอย่างแน่นอนค่ะ
#อ่านอีกครั้งก็ยังชอบ #ฮาจิโกะ #HachikoElgosqueesperava #หลุย์พรัทส์ #LluísPrats #นักเขียนชาวสเปน #ออลก้าการ์เซีย #วรรณกรรมแปล #รัศมีกฤษณมิษ #วรรณกรรมเยาวชนภาษาสเปนยุคบุกเบิก #สำนักพิมพ์พิคโคโล่ #ความรักระหว่างคนและสุนัข #การรอคอยอย่างมีความหมาย
โฆษณา