19 ก.ค. 2022 เวลา 12:00 • ความคิดเห็น
กายท่อนบนที่คล้ายกับมนุษย์แต่ท่อนล่างกลับเป็นหางของปลา น้ำเสียงและลำตัวที่งดงามเกินกว่าชายใดจะต้านทาน ผมที่ยาวสลวยพัดไปตามเกลียวคลื่นและสายลมในท้องทะเล และท้ายที่สุดคือใบหน้าอันงดงามที่โผล่ท่ามกลางผิวน้ำของมหาสมุทรอันยิ่งใหญ่
ลักษณะเหล่านี้ก็เป็นภาพที่ใครๆต่างก็จดจำในฐานะ "นางเงือก"
หากจะมีสัตว์ในตำนานหรือเทพนิยายใดที่อยู่มาจนปัจจุบันและยังคงเป็นที่พูดถึงไปทั่วโลก ก็คงจะมีเพียงเหล่านางเงือกที่แม้จะผ่านมาหลายพันปี ก็ยังคงโลดแล่นอยู่ในสื่อ ภาพยนตร์ จนไปถึงในเกมและร้านค้าต่างๆ (โดยเฉพาะ Starb_ck)
มนุษย์กับนางเงือก?
ย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยเมโสโปเตเมีย ตำนานเรื่องเล่าของนางเงือกได้ถูกเล่าขานสืบต่อมาในประวัติศาสตร์มนุษย์อย่างน่าแปลกใจ เพราะทุกทวีปล้วนก็มีเรื่องราวของมนุษย์ครึ่งปลาที่ต่างกันออกไป
Atargatis, Nabatean, c.100 AD, Jordan Archaeological Museum
ในสมัยอาณาจักรอัสซีเรียมีการเล่าถึงตำนานของเทพี Atargatis เทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งว่ากันว่าเทพีผู้นี้เป็นหญิงที่งดงามกว่าใคร แต่ต่อมาเธอได้ตกหลุมรักกับชายหนุ่มเลี้ยงแกะและได้ร่วมรักกันในที่สุด แต่ด้วยความที่นางเป็นเทพีทำให้สามีของนางไม่สามารถรับพลังแห่งเทพขณะร่วมรักได้จนชายหนุ่มต้องเสียชีวิตไปขณะร่วมรัก
เทพีรู้สึกเศร้าเสียใจอยากสุดหัวใจและคิดจบชีวิตของตนด้วยการกระโดดจากหน้าผ่าลงไปยังคลื่นนำ้ที่เกรี้ยวกราดด้านล่าง แต่ด้วยความงามของเธอทำให้เหล่าเทพในทะเลดลบันดาลให้เธอรอดชีวิตและแปลงขามนุษย์เป็นหางปลาเพื่อให้เธอได้กำเนิดใหม่ในฐานะเทพีแห่งท้องทะเล
และนี่คือที่มาของนางเงือกที่เก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ แต่แน่นอนว่าเรื่องเล่าของนางเงือกก็มีอีกมากมายในทั่วทุกมุมโลก
1808, NINGYO, KATSUSHIKA HOKUSAI
ในมหากาพย์ Odyssey ของ Homer สมัยกรีกโบราณ กล่าวถึงนางเงือกว่ามักล่อลวงเหล่านักเดินเรือให้จมลงในน้ำด้วยเสียงอันไพเราะ จนไปถึง Yao Bikuni ของญี่ปุ่นที่เป็นหญิงสาวผู้กินเนื้อของนางเงือกจนทำให้เธอกลายเป็นอมตะกว่า 800 ปี หรืออย่างในทวีปแอฟริกาก็มี Mami Wata ภูตน้ำที่ได้รับการบูชาในร่างครึ่งคนครึ่งปลา แม้แต่ในไทยเองก็มีนางสุพรรณมัจฉาในรามเกียรติ์และนางเงือกในเรื่องพระอภัยมณีที่หลายๆคนคงได้เรียนตอนหนีนางผีเสื้อสมุทร สมัยมัธยม
และแน่นอนว่าหนึ่งในนางเงือกที่มีชื่อเสียงที่สุดก็ คือ งานเขียน The Little Mermaid ของ Hans Christian Anderson ที่ได้รับการดัดแปลงจากโศกนาฏกรรมเป็นภาพยนต์การตูนเจ้าหญิงที่โลกไม่สามารถลืมได้ ( เปิดเพลง Under the sea)
แรงบันดาลใจในการสร้างภาพยนต์  "เงือกน้อยผจญภัย" ของ Disney
จากเรื่องราวต่างๆของนางเงือกก็มาสู่ภาพของนางเงือกในยุคปัจจุบันที่เป็นผู้หญิงครึ่งปลา หน้าตางดงาม จิตใจดีที่ชาวโลกต่างให้ความสนใจ
แต่คำถามคือ ทำไมมนุษย์ที่เป็นสัตว์บนบกกลับคลั่งไคล้ในเรื่องราวและภาพของเหล่ามนุษย์ครึ่งปลาโดยเฉพาะเงือกที่เป็นผู้หญิง ทั้งๆที่ตำนานเรื่องเล่าต่างๆกลับมีสัตว์ประหลาดอื่นๆมากมายที่เป็นผู้หญิงแต่ก็ไม่ได้โด่งดังและเป็นที่รู้จักแบบนางเงือก
หรือแท้ที่จริงแล้ว ลึกๆในก้นบึ้งของหัวใจ นางเงือกอาจมีบางสิ่งที่มนุษย์อย่างเราถวิลหา...
ความลึกลับและความอันตราย คือ เสนห์อันน่าหลงใหล
Frederic Leighton,1858, The Fisherman and the Syren
แม้ว่าในสื่อปัจจุบันจะมีการนำเสนอภาพของนางเงือกเป็นหญิงที่งดงาม ช่วยเจ้าชายและมนุษย์จากเรือร่ม
แต่สำหรับมนุษย์ในยุคที่ยังไม่มีไฟฟ้า การพบเจอนางเงือกคงไม่ใช่เรื่องที่น่าสนุกเท่าไหร่
การเดินเรือที่เป็นการคมนาคมระหว่างประเทศที่สำคัญก็ย่อมเต็มไปด้วยอันตรายจากทั้งโจรสลัดที่คอยจ้องปล้นสะดม จนกระทั่งผืนน้ำอันกว้างใหญ่ที่แม้แต่ในปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถสำรวจได้ทั่วทั้งมหาสมุทร
การออกเดินเรือในแต่ละครั้งย่อมเท่ากับการนำชีวิตเข้าไปเสี่ยงกับความอันตรายที่แทบจะไม่มีใครคาดเดาได้
มหาสมุทรนั้นแม้ด้านหนึ่งจะดูงดงามแต่อีกด้านก็เต็มไปด้วยอันตรายของคลื่นลมและคลื่นน้ำเช่นเดียวกับนางเงือกที่งดงามแต่ก็สามารถพรากชีวิตมนุษย์ได้เป็นว่าเล่น
การบันทึกเรื่องราวของนางเงือกมักกล่าวว่าเป็นเพศหญิงที่มีขาของปลาพร้อมกับพลังที่สามารถทำให้ชายตกหลุมรักและต้องมนต์ในความงามของเสียงที่เธอเปล่งออกมา
เหล่าชายที่ได้ฟังย่อมตกเป็นเหยื่อและหลงรักนางเหล่านั้นสุดใจ จนกระทั่งนางเงือกเรียกพวกเขาเหล่านั้นให้ตามไปอยู่กับเธอในน้ำ อันนำไปสู่เหตุการณ์เรือล่มในที่สุด
จากคำบอกเล่าปากต่อปากและความไม่แน่นอนของท้องทะเล นางเงือกเลยได้กลายเป็นตำนานของสัตว์อันตรายที่ชาวประมงจำต้องระวังด้วยความกลัว แต่ในขณะเดียวกันก็น่าค้นหาด้วยความงามของพวกเธอ
บ้างก็เชื่อว่าจริงๆแล้วชาวประมงคงเห็น พะยูน ที่หากมองไกลๆก็รูปร่างคล้ายคนแต่ด้วยความไม่รู้และความกลัวจึงคิดว่าเป็นนางเงือกตามเรื่องเล่าที่สืบทอดมานั่นเอง
นางเงือก จึงอาจเป็นภาพแทนของความกลัวต่อความไม่รู้ของมนุษย์และท้องทะเลที่ไม่มั่นคงของเหล่าชายนักเดินเรือในสมัย แต่ก็เป็นความอันตรายที่น่าค้นหา
นั้นแต่ความงามที่อันตรายนี้ก็เป็นจุดเด่นที่สำคัญของนางเงือกในสื่อปัจจุบัน
ความงามของเงือกอันเย้ายวน
Knut Ekwall, Fisherman and The Siren
ด้วยรูปร่างและหน้าตาที่งดงามของเงือกสาว ย่อมทำให้ชายใดเห็นก็ต้องตกหลุมรักเธอ
การนำเสนอของวรรณกรรม สื่อภาพยนตร์ต่างๆก็ทำให้ความงามของนางเงือกกลับเป็นความงามที่เหนือกว่ามนุธย์ธรรมดาบนดิน
ไม่ต่างจากดาราที่มีใบหน้างดงามและดูสวยตลอดเวลา ตัวของนางเงือกเองจึงเป็นตัวแทนภาพความงามที่ใครต่างก็ต้องการ
แต่ความงามของเงือกนี้เป็นสิ่งลึกลับ ไม่ใช่สิ่งที่ใครๆสามารถพบเห็นได้ และด้วยจุดนี้เองทำให้การได้ฟังเรื่องราวของนางเงือกที่หายากนี้ ทำให้หลายคนผูกนางเงือกเข้ากับความสวยและงดงามที่แม้ฟังดูเกินจริงแต่ก็เหมือนมีความเป็นไปได้ที่ว่าเราอาจไปเห็นนางเงือกได้ในสักวัน
อีกทั้งภาพจำของนางเงือกนั้นต้องอยู่ในทะเลทำให้ความงามของนางเงือกก็ไปผูกกับชายหาดและทะเล ซึ่งคนส่วนใหญ่ใช้เป็นสถานที่พักผ่อน หย่อนใจ
ความงามที่ลึกลับและภาพจำของทะเลก็ย่อมทำให้หลายคนตื่นเต้นไปกับเรื่องราวของนางเงือก
แต่แน่นอนว่าแม้ความงามอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่มนุษย์ชอบนางเงือกแต่อีกปัจจัยคือ อิสระภาพของนางเงือกที่มีเหนือมนุษย์บนดิน
อิสระภาพของคนในน้ำ
The Little Mermaid (1989)
อ๊ะ แต่มนุษย์เราก็มีอิสระภาพไม่ใช่เหรอ
ก็จริงที่มนุษย์เราแม้จะมีอิสระที่จะสามารถทำสิ่งต่างๆได้ตามใจอยาก แต่เมื่ออยู่ในสังคมแล้ว เราย่อมมีภาระที่ตนต้องแบกรับในโลกความเป็นจริงที่ไม่งดงาม
ภาระและหน้าที่เหล่านี้ก็คือโซ่ตรวนที่มาพร้อมกับคำว่าอิสระภาพในฐานะของมนุษย์
การที่เราเห็นมองนางเงือกที่แหวกว่ายในมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ ได้ค้นพบความลับของโลกในบาดาล และได้เห็นความงามของปะการังที่ไม่มีใครเห็นมาก่อน
ช่างเป็นภาพที่ต่างจากโลกของมนุษย์บนดินที่แม้จะงดงามเพียงใดแต่หลายคนก็ยังไม่สามารถตัดพันธะที่พันตัวของตนได้ และต้องแบกรับสิ่งต่างๆ ความเครียด ความคาดหวังเกินกว่าที่คนคนหนึ่งจะรับไหว
การที่ได้เห็นนางเงือกว่ายนำ้และผจญภัยโดยไม่ต้องกังวลเรื่องของครอบครัว เรื่องของเงิน ได้ออกไปท่องเที่ยวในมหาสมุทรที่แทบจะไม่สิ้นสุดก็อาจเป็นภาพแทนความปรารถนาเล็กๆของมนุษย์ที่จะได้มีความงามและอิสระดั่งเงือกน้อยในท้องทะเลที่จะว่ายนำ้ไปที่ใดดั่งใจอยากนั่นเอง
แม้ว่าในหลายเรื่องราวนางเงือกจะมีจุดจบที่น่าเศร้า แต่ภาพของนางเงือกที่ว่ายนำ้อย่างอิสระคงเป็นภาพที่หลายคนไม่สามารถลืมได้และคงเป็นเหตุผลที่หลายๆคนเองก็หลงรักในเรื่องราวของนางเงือก
ท้ายที่สุดแล้ว ตำนานของนางเงือกจากหญิงงามที่พรากชายหนุ่มลงนำ้จนมาสู่เจ้าหญิงเงือกน้อยที่โด่งดังก็ไม่ได้หายไปวัยเด็กของพวกเราไปแม้แต่แต่น้อย
เรื่องราวของนางเงือกก็ยังคงเป็นประวัติศาสตร์และเรื่องเล่าปากต่อปากที่แม้จะกี่พันปีก็ยังคงอยู่และเป็นสิ่งที่ช่วยสะท้อนความปรารถนาของมนุษย์
ความงามและอิสระภาพของคนในนำ้อาจเป็นความหวังในชีวิตของมนุษย์บนดิน ที่ว่าสักวัน เราอาจสามารถเป็นอิสระและมีความสุขได้อย่างเงือกสาวนั่นเอง
สุดท้ายนี้ขอจบด้วย Quote จากเรื่อง The Little Mermaid ของ Hans Chirstian Anderson ที่แม้ตอนจบจะไม่ได้ Happy แต่นางเงือกก็ได้ปกป้องคนที่เธอรักด้วยหัวใจและชีวิต
“But a mermaid has no tears, and therefore she suffers so much more”
“แต่เงือกนั้นไร้ซึ่งนำ้ตา เธอจึงจำต้องทรมานยิ่งกว่าสิ่งใด"
Reference
โฆษณา