แอบฟังสิบแปดถามแปดสิบ..
ครอบครัวใหญ่ของผมตอนนี้อยู่ในช่วงรุ่นที่สามกำลังเป็นผู้ใหญ่ รุ่นหลานกำลังจะทยอยเข้ามหาวิทยาลัยกันในสองสามปีนี้ ส่วนรุ่นคุณย่าคุณยายก็ใกล้วัยแปดสิบที่ยังแข็งแรง แปดสิบกับสิบแปดนั้นห่างกันมากโดยเฉพาะในวันที่โลกหมุนเร็วด้วยเทคโนโลยี รุ่นใหม่ๆนั้นมีคนตามโซเชียลให้เชื่อให้ฟังมากกว่าคุณย่าคุณยาย
อย่าว่าแต่คุณย่าคุณยายเลย รุ่นพ่อรุ่นแม่ก็ใช่ว่าเขาจะเชื่อ ก็คงเป็นแบบนี้มาทุกยุคทุกสมัย คุณย่าคุณยายสอนก็ดูจะเป็นการบ่นไป พวกรุ่นใหม่ก็ไม่ใคร่จะชอบฟังกันนัก โลกของคนแก่มักจะดูน่าเบื่อในสายตาวัยรุ่นหนุ่มสาวเสมอ
เมื่อวานผมเดินบนลู่วิ่งแล้วบังเอิญได้เห็นวีดีโอที่ยูทูปแนะนำอยู่เรื่องหนึ่ง เป็นช่องยูทูปของคุณยายซานดราวัยแปดสิบสามที่ยังดูสดใสร่าเริง ดูมีความสุขมาก ทำให้ผมต้องหยุดดูด้วยความรู้สึกประทับใจในบุคลิก ผมไปหาประวัติคร่าวๆหลังจากนั้นก็พบว่าคุณยายซานดราเคยเป็นดารา เป็นพิธีกร เคยเล่นละครบรอดเวย์แล้วหันมาเป็นนักเขียนเรื่องราวของชีวิตที่มีความสุขอยู่หลายเล่ม
ในคลิปนั้นคุณยายเล่าว่า หลานสาวอายุสิบแปดเพิ่งมาเยี่ยมระหว่างทางไปดูคอนเสิร์ท คุณยายกับหลานก็ได้มีโอกาสนั่งกินอาหารเช้าคุยกันริมหาด หลานสาวคงประทับใจในความสดใสและสนุกสนานของคุณยาย ก็ถามยายว่า ยายมีคำแนะนำอะไรให้หลานว่าทำยังไงถึงจะพอแก่ไปแล้วจะเป็นอย่างคุณยายบ้าง คุณยายก็นึกถึงบทเรียนที่อยากจะบอกหลานที่ทำให้ยายได้ใช้ชีวิตที่ดีที่มีความสุขขึ้นเรื่อยๆ ยายแปดสิบบอกหลานสิบแปดว่า ชีวิตยายนั้นมีอะไรที่ผิดพลาดมาตลอดทาง
แต่พอทำผิดแล้วก็เรียนรู้และไม่พยายามทำผิดซ้ำอีก คุณยายนึกถึงบทเรียนในชีวิตอยู่หลายข้อที่แนะนำหลานแล้วมาเล่าต่อให้คลิปที่ผมได้ฟังที่ฟังแล้วก็นึกถึงตัวเองที่อยู่ตรงกลางระหว่างแปดสิบกับสิบแปดและก็เห็นจริงตามคุณยายอยู่ทุกข้อ
- ●Do what is right not what is easy
ข้อแรก ยายบอกว่า do what is right not what is easy คุณยายบอกว่าเรามักจะชอบหาทางลัด ทางที่ง่ายที่เอาตัวเองสบายซึ่งอาจจะไม่ดีกับคนอื่นรอบข้างก็ได้ คุณยายบอกว่าต้องคิดถึงคนรอบข้าง อย่าเอาตัวเองเป็นตัวตั้ง บางทีทางง่ายก็คือทางที่ใช่ แต่หลายครั้งไม่ใช่ ทางที่ใช่บ่อยครั้งเป็นทางที่ยากในการเลือก
คุณยายเคยตัดสินใจเลือกทางยากมากกว่าทางง่ายที่สำคัญในชีวิตก็คือตอนที่สามีคุณยายป่วย คุณยายต้องตัดสินใจเลิกงานโทรทัศน์ที่ยายรักมาก แต่พอสามีป่วย ยายรู้ว่าลูกสาวจะต้องมีคนดูแล ถ้ายายเห็นแก่ตัวเอง ลูกก็จะไม่มีทั้งพ่อทั้งแม่ ยายถึงออกจากงานที่รักมาอยู่กับคนที่รักแทน แล้วหางานใหม่ที่พอเลี้ยงครอบครัวได้ เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของยาย
- ●Take action on your dreams
ข้อสอง คุณยายบอกว่า take action on your dreams ยายเคยมีความฝันที่ใหญ่เกินตัวมากจากเด็กหญิงในเมืองเล็กๆที่อยากเล่นละครบรอดเวย์ แต่ยายก็เก็บความฝันนั้นไว้และพยายามฝึกฝนมาตลอด ไปทำทีวีก็ยังเก็บความฝันนั้นไว้ พยายามฝึกทักษะระหว่างทาง ยายใช้เวลาห้าสิบปีถึงจะได้เล่นละครบรอดเวย์จริงๆ ถ้ามีความฝัน อย่าแค่ฝัน แต่ต้องพยายาม ต้อง take action ไปตลอดทางด้วย
- ●Treat others with respect
ข้อสาม คุณยายบอกว่าเราต้อง treat others with respect เราอยากให้คนอื่นทำกับเรายังไง เราก็ต้องทำแบบนั้นกับคนอื่น เป็นบทเรียนที่ยายเรียนรู้มาทั้งชีวิตว่า เมื่อไหร่ที่เรา “ให้” เราจะได้กลับมาเสมอ ถ้าเราส่งความเกลียดชัง ความริษยา พลังลบ มันก็จะกลับมา ถ้าเราส่งความเมตตา ความรัก การช่วยเหลือคนอื่น สิ่งเหล่านั้นก็จะกลับมาเช่นกัน
- ●Trust your instincts
ข้อสี่ คุณยายบอกว่าให้ trust your instincts เมื่อไหร่ที่เราจะต้องตัดสินใจอะไรสำคัญ เจอคนที่รู้สึกว่าใช่ หรือมีความสงสัยอะไรตะหงิดๆ เสียงข้างในเรามักจะกระซิบอะไรที่หลายครั้งเรามักจะไม่ฟัง แต่ทำไปตามความอยาก ความต้องการ แล้วก็จะมาเสียใจทีหลัง แล้วพอมองย้อนกลับไปก็จะจำได้ถึงเสียงข้างในตัวเองที่เรามองข้ามไปเสมอ ยายจึงบอกให้เชื่อ inner voice ตัวเองไว้ให้มากๆ
- ●Learn something new everyday
ข้อห้า ยายบอกให้ learn something new everyday ไม่ว่าจะอายุแค่ไหน โลกนี้มีเรื่องใหม่ให้เรียนรู้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการผูกผ้าพันคอหรือเรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือใหม่หรือทักษะใหม่ๆ ความอยากรู้อยากเห็นในเรื่องใหม่ๆในชีวิต โลกรอบๆตัว เรื่องของครอบครัว ของเพื่อนอย่างลึกซึ้ง ถ้าเราแคร์ก็จะสามารถมีโอกาสช่วยคนอื่นได้ด้วย การที่ไม่เคยหยุดเรียนรู้นั้นจะทำให้เราไม่มีวันแก่ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม เซเลปรุ่นเจ็ดสิบแปดสิบที่มีชื่อเสียงตอนอายุมากๆก็เพราะการที่ไม่หยุดเรียนรู้กันทั้งนั้น
- ●Believe in yourself
ข้อสุดท้าย คุณยายอยากให้หลาน believe in yourself ให้มั่นใจในตัวเอง เชื่อในตัวเอง อย่าให้ความเห็นของคนอื่นมาตัดสินเรา เพราะถ้าเรามัวแต่ฟังเสียงคนอื่น เราก็จะเสียโอกาสสำคัญไปรวมถึงเสียความมั่นใจและคุณค่าในตัวเองไปพร้อมกัน ยายบอกว่ายายเคยใช้ชีวิตเกินครึ่งชีวิตกังวลกับว่าคนอื่นคิดยังไงกับยาย กับคู่ชีวิตยาย กับการแต่งตัวของยาย น้ำหนักตัวที่เพิ่ม ยายกังวลกับภาพลักษณ์ตัวเองมานานและเจอแต่ความทุกข์ จนยายค้นพบคำที่ตกผลึกในที่สุดว่า… Who care!
ยายจบคำตอบที่หลานถามด้วยการบอกว่าให้หลานใช้ชีวิตให้ be memorable. Be proud. Be you …
คุณยายถามทิ้งท้ายในคลิปให้คุณย่าคุณยายที่ฟังคลิปนี้ว่าถ้ามีอะไรที่จะถอดบทเรียนชีวิตที่จะบอกหลานๆได้ เราอยากจะบอกอะไรบ้าง ให้เขียนต่อในคอมเม้นท์ ผมไปตามอ่านก็ได้พบกับปรัชญาชีวิตดีๆมากมายและที่สำคัญก็คือปรัชญาชีวิตเหล่านี้นอกจากจะมาจากประสบการณ์แปดสิบปีแล้ว ยังเป็นคำสอนที่ปรารถนาดีอย่างจริงใจให้กับหลานที่รักของตัวเองนั้นสิ้น
เรื่องราวดีๆแบบนี้น่าจะอยู่ที่จะทำอย่างไรที่หลานวัยสิบแปดที่กำลังสนุกกับโลกรอบตัว เลือกฟังคนที่ดูคูล ดูเท่ห์ ดูร้อนแรงมากกว่าผู้อาวุโสที่ดูน่าเบื่อแน่ๆ ฟังไปก็คงไม่ได้จะเอาไปคิดตามอะไรเท่าไหร่ ฟังจบได้ก็บุญแล้ว เรื่องราวบทเรียนชีวิตแบบนี้กลับกลายเป็นว่าพอเวลาผ่านไป คนที่มีประสบการณ์เล่นจริงเจ็บจริง กำลังตามหาความสุขในชีวิต กำลังอยู่ระหว่าง midlife crisis พอมาฟังคุณยายกลับกระตุกใจได้มากกว่า ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องของยายสอนหลานก็ตาม
ผมก็เลยไปแอบฟังสิบแปดถามแปดสิบ แล้วมาเล่าให้พวกที่อยู่ตรงกลางระหว่างยายกะหลานฟังกันในวันนี้ ก็น่าจะได้ประโยชน์จากการการตกผลึกชีวิตของคุณยายซานดราผู้น่ารัก สดใสและดูมีความสุขคนนี้ไปพร้อมกันด้วยนะครับ…
- 11
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
