กรมวิชาการเกษตร จัดพิธีรับถ้วยรางวัลพระราชทานฯ เนื่องในงานประกวดกาแฟ ปี 2565
กรมวิชาการเกษตร ร่วมกับพันธมิตรภาครัฐและเอกชน จัดพิธีรับถ้วยรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การประกวดเฟ้นหาสุดยอดกาแฟไทย ครั้งที่ 2 ประจำปี 2565 “Thai Coffee Excellence TCE2022” มอบเงินรางวัลและประกาศนียบัตรให้แก่ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศกาแฟอาราบิกา และโรบัสตา พร้อมนำกาแฟคะแนนสูงสุด 5 อันดับแรกไปจัดแสดงให้ชิมในงานมหกรรมพืชสวนโลก EXPO 2022 Floriade Almere ณ ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ เพื่อดันกาแฟไทยสู่เวทีกาแฟระดับโลก
ดร.ชูชาติ วัฒนวรรณ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพืชสวน ประธานคณะอนุกรรมการจัดการประกวดสุดยอดกาแฟ ปี 2565 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร องค์กรระหว่างประเทศ GIZ และภาคเอกชน เข้าร่วมงาน โดยมีนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีฯ ในวันที่ 18 กรกฎาคม 2565 ณ โรงแรมโนโวเทล ฟิวเจอร์พาค รังสิต พร้อมมอบถ้วยพระราชทานฯ ให้กับผู้ชนะทั้ง 4 ราย ได้แก่
1. คุณวิชา แสนรุ่งอรุณ รางวัลชนะเลิศ กาแฟอาราบิกาแบบเปียก (Wet, Fully Wash Process)
คะแนน Cupping Score 85.65, Origin : บ้านมณีพฤกษ์ ตำบลงอบ อำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน
2. คุณวิชัย กำเนิดมงคล รางวัลชนะเลิศ กาแฟอาราบิกาแบบกึ่งแห้ง (Dry, Natural Process)
คะแนน Cupping Score 87.29, Origin : บ้านมณีพฤกษ์ ตำบลงอบ อำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน
3. คุณบงกชษศฎา ไชยพรหม รางวัลชนะเลิศ กาแฟอาราบิกาแบบแห้ง (Semi - Dry, Honey Process)
คะแนน Cupping Score 86.94, Origin : ตำบลอมก๋อย อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่
4. คุณนภัทรินทร์ รัตนพรนภาพันธ์ รางวัลชนะเลิศ กาแฟโรบัสตา ไม่แยกกระบวนการแปรรูป
คะแนน Cupping Score 85.65, Origin : ตำบลริมกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีว่า จากผลสำเร็จของการประกวดสุดยอดกาแฟไทย ปีที่ผ่านมาของกรมวิชาการเกษตร ส่งผลให้เกษตรกรสามารถจำหน่ายกาแฟได้ในราคาที่สูงขึ้นเป็นที่น่าพอใจ และไม่มีผลผลิตคงค้างเหมือนในอดีต เกษตรกรได้เรียนรู้และมีการพัฒนาการผลิตกาแฟพิเศษด้วยตนเอง หรือ specialty coffee มากขึ้นตลอดจนกาแฟไทยเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นในกลุ่ม specialty coffee
เกิดการเชื่อมโยงตลาด และลดช่องว่างระหว่างเกษตรกรผู้ผลิตกับผู้บริโภค ทำให้เกษตรกรสามารถผลิตกาแฟที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค สามารถกำหนดราคาขายได้ด้วยตนเอง หากมีการพัฒนาการผลิตและการแปรรูปให้ตรงกับความต้องการของตลาดกาแฟพิเศษ
ในส่วนของนายระพีภัทร์ จันทรศรีวนสูงสุงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ประธานคณะอำนวยการ ได้มอบประกาศนียบัตรพร้อมเงินรางวัลให้แก่ผู้ได้คะแนนลำดับที่ 1 2 และ 3 ของการประกวดสุดยอดกาแฟอาราบิกา และสุดยอดกาแฟโรบัสตา ประจำปี 2565 รวม 13 ราย โดยเปิดเผยว่า
การจัดประกวดสุดยอดกาแฟไทยครั้งนี้ เพื่อรณรงค์ส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการสวน การผลิตกาแฟตั้งแต่ระดับต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ตลอดห่วงโซ่การผลิต อีกทั้งถือเป็นการยกระดับคุณภาพกาแฟไทยให้มีอัตลักษณ์ของกาแฟเฉพาะถิ่น คุณภาพดีเป็นที่ยอมรับในระดับสากล พร้อมทั้งสามารถเพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ และความยั่งยืนแก่เกษตรกรไทย
การจัดการประกวดในครั้งนี้ กรมวิชาการเกษตรได้คัดสรรสุดยอดเมล็ดกาแฟสายพันธุ์อาราบิกา และโรบัสตาจากแหล่งปลูกทั่วประเทศ ซึ่งในปีนี้มีเกษตรกรส่งกาแฟเข้าร่วมประกวด 245 ตัวอย่าง แบ่งเป็นกาแฟอาราบิกา 184 ตัวอย่าง และกาแฟโรบัสตา 61 ตัวอย่าง
สำหรับเมล็ดกาแฟที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ 1-10 อันดับ จะนำไปประมูลเพื่อให้ผู้ประกอบการธุรกิจกาแฟ และผู้บริโภคกาแฟที่สนใจ ได้มีโอกาสเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์กาแฟชั้นเลิศ พร้อมชิมรสชาติของสุดยอดกาแฟไทย ประจำปี 2565 ที่ผ่านการตัดสินจากผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟที่เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการจัดโรดโชว์กาแฟของผู้ที่ได้คะแนนสูงสุด 5 อันดับแรกของแต่ละประเภท พร้อมกับนำผลิตภัณฑ์กาแฟไปประชาสัมพันธ์สู่เวทีกาแฟสากลระดับโลกต่อไป
สำหรับผลการพิจารณาผู้ที่ได้ประกาศนียบัตรจากกรมวิชาการเกษตร มีจำนวนทั้งสิ้น 233 รายการ แบ่งเป็น 3 ระดับ ตามเกณฑ์ได้รับรางวัลตามมาตรฐานการตัดสินของสมาพันธ์กาแฟโลก (Specialty Coffee Association : SCA) ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิ์ได้ประกาศนียบัตรจากกรมวิชาการเกษตรในทุกประเภท ได้ที่ https://www.doa.go.th/hort/
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
