23 ก.ค. 2022 เวลา 03:02 • ไลฟ์สไตล์
"ความสุขในครอบครัว เริ่มจากพูดจากันดีๆ "
เรามักพูดกันว่า การพูดเป็นศิลปะ เราควรต้องพูดจากันดีๆ
แต่ครอบครัวมักเป็นที่ที่เราละเลยได้ง่ายที่สุด ยิ่งแปลกหน้า ยิ่งสุภาพ ยิ่งเกรงใจ ยิ่งสนิท ยิ่งไม่ระวังคำพูด เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายจะไม่มีวันโกรธเรา เรากลับมักใช้มีดทางวาจาพุ่งเข้าใส่คนในครอบครัว
ครอบครัวไม่ได้แข็งแกร่งไม่มีวันพัง ครอบครัวที่เป็นสุขต้องการการจัดการ ความสุขในครอบครัวเริ่มจากพูดกันดีๆ
. . . . .
"การอยู่ร่วมกันระหว่างสามีภรรยา
การเคารพกันสำคัญกว่าการตำหนิ"
ครอบครัวที่รู้จักพูดกันดีๆ มักมีความรู้สึกเป็นสุข
คนสองคนที่อยู่เคียงกันนานปี มักคิดว่าไม่ต้องระวังน้ำเสียงและท่าทีในการพูดกับอีกฝ่าย ความใส่ใจที่มีอยู่เดิม พอออกจากปากกลับกลายเป็นตัดพ้อและตำหนิ
อยู่ด้วยกันนานขึ้น ความอดทนเลือนหาย แม้จะเกิดจากความปรารถนาดี แต่เวลาพูดไม่คำนึงถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย มีแต่กล่าวโทษตำหนิ นานวันเข้ากลายเป็นวงจรอุบาทว์ ชีวิตครอบครัวจะเกิดรอยร้าวและเกิดวิกฤต
ปัญหาเล็กน้อยทุกปัญหาระหว่างสามีภรรยาจะมีผลกระทบต่อความสุขในครอบครัว แม้จะเป็นคนสองคนที่สนิทสนมรักใคร่กันมากในชีวิตสมรส ก็ยังเป็นคนสองคนที่เป็นปัจเจก ต่างมีความรู้สึกของตน แม้จะสนิทชิดเชื้อกันเพียงใด ก็ถูกวาจาทิ่มแทงให้เสียใจได้
 
การโมโหโกรธเกรี้ยวใส่ญาติสนิท นับเป็นพฤติกรรมที่โง่เขลาและอ่อนแอที่สุด
บ่อยครั้ง การเปลี่ยนวิธีพูด อารมณ์ของทั้งสองคนจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง พูดกันดีๆ แสดงความใส่ใจกันให้มาก ตำหนิกันให้น้อย อย่าเกิดอารมณ์ฉุนเฉียวง่ายๆ เกิดความขัดแย้งไม่ตะโกนตวาดใส่กัน คุยกันตามเนื้อผ้า คำนึงถึงอีกฝ่ายให้มาก อย่าได้ถือว่าเป็นคนสนิทที่สุดแล้วพูดจาไม่ระวัง การพูดจาดีๆ สำคัญมากสำหรับสามีภรรยา
ภายในครอบครัว ถ้าพูดจากันดีๆ ไม่เพียงดีต่อคู่สามีภรรยา ยังดีต่อลูกด้วย การพูดจาดีๆ เป็นแบบอย่างแก่ลูก มีอิทธิพลอย่างสูงต่อการเลี้ยงดูลูกหลาน
. . . . .
"กับลูกหลาน การชมเชยสำคัญกว่าการลงโทษ"
การพูดจานั้นมีอารมณ์ ทำให้คนฟังอบอุ่นก็ได้ ทำร้ายก็ได้
การทำร้ายทางวาจานั้นร้ายแรงกว่าการทำร้ายร่างกาย ทำร้ายร่างกายยังเห็นรอยแผล แต่แผลจากการทำร้ายด้วยวาจานั้นมองไม่เห็น
เด็กๆ มักแยกระหว่างความจริงกับการพูดเล่นไม่ออก พวกเขาจะเชื่อคำพูดที่พ่อแม่พูดเกี่ยวกับตน แล้วทำให้มันกลายเป็นทัศนคติที่มีต่อตนเองไป
 
พ่อแม่ไม่น้อยถนัดสอนด้วยการ “โจมตี” ซึ่งวิธีนี้ไม่อาจบรรลุเป้าหมายที่ทำให้เด็ก “ดี” แต่กลับมีผลกระทบต่อการเติบโตของเด็ก
เด็กที่ถูกตีหรือโจมตีบ่อยๆ จะมีความรู้สึกด้อย มักร่วงลงสู่การปฏิเสธตนเองหรือสงสัยตัวเอง
การโจมตีที่มาจากพ่อแม่ ก่อเกิดผลร้ายที่ไม่เพียงเห็นๆ เฉพาะหน้า มันยังเป็นเหมือนเข็มที่มักทิ่มแทงหัวใจลูกหลานไปในวันคืนอันยาวนานข้างหน้า
เอี๋ยนหยวน [顏元] นักการศึกษาสมัยราชวงศ์ชิงเคยกล่าวว่า “นับความผิดลูกสิบอย่าง ไม่สู้ชมความดีลูกอย่างเดียว”
หมั่นชมเชยลูก ให้กำลังใจ คอยบอกเป็นนัย เด็กจะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ
ในทางจิตวิทยา มีศัพท์ “ผลกระทบปิกมาเลียน” [Pygmalion Effect] นั่นคือ การชมเชย การเชื่อมั่น และการคาดหวังที่สูงขึ้น นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้
เมื่อคนคนหนึ่งได้รับคำชม เขารู้สึกว่าได้รับการสนับสนุน จึงเพิ่มความรู้สึกมีค่าของตนเอง เกิดความเชื่อมั่นในตัวเอง เคารพตนเอง ได้รับแรงผลักให้ก้าวไปข้างหน้า และพยายามจะบรรลุในความคาดหวังที่คนอื่นมีต่อตน
พ่อแม่พูดดีๆ กับลูก ครอบครัวจะสมบูรณ์มีความสุข การเป็นพ่อแม่ไม่ต้องสอบ แต่ต้องศึกษา
... แปล : วิภาดา กิตติโกวิท #MADMANBOOKS
... จาก : 一個家庭的幸福,從好好說話開始
... ภาพ : ไม่ทราบผู้เขียน
1
โฆษณา