25 ก.ค. 2022 เวลา 11:33 • ข่าวรอบโลก
Zero Covid ของจีนจะจบอย่างไร
Blockdit Originals โดย ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร
2
เหลือจีนเพียงประเทศเดียวที่ยังยืนหยัดนโยบาย Zero Covid สุดเคร่งครัด
2
หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า ในเดือนพฤศจิกายน จะมีการประชุมใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในรอบ 5 ปี เพื่อต่ออายุให้กับสีจิ้นผิง สำหรับรัฐบาลจีนแล้ว ความมั่นคงจึงต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง และย่อมจะเลือกแนวทาง Zero Covid ไม่เปิดประเทศต่อไปอย่างน้อยจนกว่าจะผ่านพ้นการประชุม ด้วยความหวาดกลัวการระบาดในวงกว้างและการป่วยหนักหรือตายในอัตราสูง
4
การปล่อยให้ระบาดโดยไม่ควบคุมเสี่ยงเกินไปสำหรับสีจิ้นผิง เมื่อพิจารณาประสิทธิภาพของวัคซีนเชื้อตายของจีน อัตราการฉีดวัคซีนในผู้สูงอายุที่ยังต่ำ ศักยภาพของระบบสาธารณสุขของจีน การขาดภูมิคุ้มกันหมู่ในประชากรเนื่องจากไม่เคยมีการระบาดก่อนหน้านี้ และสัดส่วนผู้สูงอายุที่สูงในประชากรจีน
แม้เมื่อพิจารณาว่าจีนได้มีการฉีดวัคซีนเชื้อตายอย่างแพร่หลายและความรุนแรงของโอไมครอนที่ต่ำลง แต่งานวิจัยของทีมวิจัยจีนที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Medicine ก็ยังประเมินว่า หากปล่อยให้ระบาดโดยไม่ควบคุม จีนอาจมีจำนวนคนตายสูงถึง 1.55 ล้านคน
5
จีนยังคงไม่ยอมอนุมัติการใช้วัคซีน mRNA ที่มีประสิทธิภาพสูง แม้ว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง Fosun จะได้สิทธิการผลิตจากบริษัท BioNTech ของเยอรมัน (เจ้าเดียวกับที่ร่วมพัฒนาวัคซีนไฟเซอร์)
มีบางท่านอธิบายว่าการผลิตวัคซีน mRNA ของ BioNTech ที่บริษัทจีน Fosun ได้สิทธิในการผลิตสำหรับตลาดจีนนั้น ยังคงต้องอาศัยวัตถุดิบหลักในการผลิตนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งในมุมมองของรัฐบาลจีน จะทำให้จีนไม่มีความมั่นคงเรื่องวัคซีน (ผลิตเองไม่ได้ ถ้าฝรั่งไม่ส่งวัตถุดิบให้) ซึ่งในยุคสงครามการค้าและการต่อสู้ระหว่างมหาอำนาจ กลายเป็นความกังวลที่สำคัญของรัฐบาล
6
ดังนั้น วิธีหลักที่จีนใช้ในการควบคุมการระบาดในปีนี้ คือการตรวจเชื้อให้มาก ถี่ และเร็ว โดยเมืองใหญ่ของจีนมีจุดตรวจเชื้อทุกมุมเมือง ช่วงที่จีนสงบจากโรคระบาดเมื่อปีที่แล้ว จีนได้เร่งพัฒนาศักยภาพในการตรวจเชื้อ จนมีศักยภาพตรวจด้วยวิธี PCR ทั่วประเทศได้มากกว่า 15 ล้านตัวอย่างต่อวัน
3
ภายหลังการคลายล็อคดาวน์เซี่ยงไฮ้ ประชากรเซี่ยงไฮ้ทุกคนยังต้องตรวจเชื้อด้วยวิธี PCR ทุก 72 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถสแกนขึ้นรถไฟใต้ดินหรือเข้าซูเปอร์มาร์เก็ตได้ เคร่งครัดและจริงจังกันในระดับนี้เพื่อป้องกันการระบาดอีกรอบ
3
มีสถิติว่าค่าใช้จ่ายรวมของการตรวจเชื้อประชากรจีนในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา อาจมีมูลค่าสูงกว่า ตัวเลข GDP ของประเทศกัมพูชาทั้งประเทศเสียอีก และอาจคิดเป็นถึง 0.62% ของอัตราการเติบโตของ GDP จีนในไตรมาสที่ 2 เลยทีเดียว มีการวิเคราะห์ไปถึงขั้นว่า อุตสาหกรรมการตรวจเชื้ออาจกลายเป็นกลุ่มผลประโยชน์ใหม่ในจีนที่จะขัดขวางไม่ยอมให้จีนเลิก Zero Covid ได้ง่ายๆ ในอนาคต
5
แต่ถ้าฟังความเห็นจากทีมแพทย์ผู้ใหญ่ของจีน จะไม่มีใครที่พูดทำนองว่าจะยืนหยัดนโยบาย Zero Covid กันไปชั่วกัลปาวสาน ส่วนใหญ่จะอธิบายว่าจีนยังต้องใช้แนวทางนี้ในปัจจุบัน เพราะจีนยังไม่พร้อม
นักวิชาการด้านสาธารณสุขของจีนมักอธิบายว่า Zero Covid เป็นการซื้อเวลาเพื่อสี่ “รอ” ได้แก่ รอฉีดวัคซีนให้มากในผู้สูงอายุ รอการคิดค้นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น รอการคิดยารักษาที่มีประสิทธิภาพและผลิตได้ในปริมาณมากพอ และรอการขยายศักยภาพและทรัพยากรของระบบสาธารณสุข (เช่น จำนวนเตียงไอซียูและเครื่องช่วยหายใจ)
รัฐบาลจีนจะเริ่มเปิดเมืองได้เมื่อไร นักวิเคราะห์ทั่วไปประเมินว่า ขั้นแรกคงต้องรอให้สีจิ้นผิงสืบทอดอำนาจให้เรียบร้อยช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2022 เสียก่อน หากฟังจากทีมแพทย์จีน ก็เคยมีการประเมินในช่วงกลางปีว่า น่าจะต้องใช้เวลาเตรียมศักยภาพและทรัพยากรของระบบสาธารณสุขให้มีความพร้อมมากขึ้นอีกประมาณ 6 เดือน (ซึ่งก็จะพอดีกับช่วงหลังการประชุม)
3
ฉากทัศน์ต่อไปของจีนจะหน้าตาเป็นอย่างไร ถ้ามองจากความเป็นไปได้ในการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด ความเป็นไปได้แรก ก็คือ เชื้อกลายพันธุ์ดุขึ้น ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกมองว่ายังคงมีความเป็นไปได้ เพราะไม่จำเป็นว่าไวรัสจะกลายพันธุ์อ่อนลงอย่างเดียว ดังที่เกิดเชื้อเดลตาที่รุนแรงขึ้นกว่าสายพันธุ์เดิม
2
แม้กระทั่งบิลล์ เกตส์เอง ซึ่งทำมูลนิธิต่อสู้กับโรคระบาด ก็ได้แสดงความเห็นว่ามีโอกาสที่เชื้อจะกลายพันธุ์ดุขึ้น แต่เป็นโอกาสที่ค่อนข้างต่ำ แต่หากเกิดฉากทัศน์นี้เกิดขึ้นจริง จีนอาจเป็นประเทศที่ได้เปรียบที่สุดจากการที่ยังคงยืนหยัดนโยบาย Zero Covid อยู่ในปัจจุบัน
5
หากเชื้อคงอยู่ในระดับความรุนแรงอย่างสายพันธุ์โอไมครอน จีนคงรอเงื่อนไขความพร้อมต่างๆ ของระบบสาธารณสุข ซึ่งน่าจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการได้หลังการประชุมในเดือนพฤศจิกายน ส่วนหากเชื้อกลายพันธุ์จนอ่อนแรงเหมือนไข้หวัดธรรมดา จีนก็คงมั่นใจขึ้นที่จะผ่อนคลายได้โดยความสูญเสียต่ำที่สุด
2
ศ.เซี่ยกั๋วจง นักวิเคราะห์เศรษฐกิจจีนที่มีชื่อเสียง กล่าวเปรียบเทียบว่าในปี 1958 รัฐบาลจีนยุคประธานเหมาเคยประกาศโครงการจะกำจัดยุงและแมลงวันให้หมดสิ้นจากแผ่นดินจีน ถามว่าทางลงของรัฐบาลจีนในยุคนั้นคืออะไร คำตอบคือการรณรงค์ดังกล่าวค่อยๆ เงียบหายไปเอง ไม่ได้มีการประกาศเลิกโครงการอะไรทั้งนั้น เพียงแต่ถึงจุดหนึ่งคนก็กลับไปใช้ชีวิตปกติและลืมเรื่องนี้ไป
10
เช่นเดียวกัน เมื่อมีคนถาม เควิน รัดด์ ประธาน Asia Foundation และผู้เชี่ยวชาญเรื่องการเมืองจีนในงานเสวนาหนึ่งว่า Zero Covid ของจีนจะจบลงอย่างไร เขาตอบว่า ถึงวันหนึ่งรัฐบาลจีนก็จะเลิกตรวจ เลิกรายงานตัวเลขคนติดเชื้อ และวิกฤตโควิดก็จะสิ้นสุดลงเองอย่างเงียบๆ
6
มีเสียงแทรกเบาๆ จากกลุ่มผู้ฟังว่า นั่นก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วในโลกตะวันตกมิใช่หรือ
4
โฆษณา