29 ก.ค. 2022 เวลา 03:17 • นิยาย เรื่องสั้น
ท่องไปในโลกนิยาย
"Death in Delft" (16)
ผู้แต่ง เกรแฮม แบรค
ขณะที่หมอชันสูตรทำท่าเหมือนจะยกร่างของเกอร์ทรูย์ดขึ้นปรากฏว่าด็อกเตอร์เดอ แกรฟได้ชิงลงมือก่อน โดยม้วนผ้าสีเงินที่ใช้คลุมร่างเกอร์ทรูย์ดจนคล้ายหมอนแล้วดันเข้าไปบริเวณใต้คอของเธอจนเกิดช่องว่างขึ้นจากนั้นเอามือสอดเข้าไปจับที่ผ้าที่รองร่างศพแล้วเลื่อนผ้าไปทางหัวเตียงจนศีรษะของเกอร์ทรูย์ดพ้นขอบเตียงจึงสามารถปลดเอาหมวกออกมาได้ จากนั้นก็ไปดึงผ้ารองศพที่ปลายเท้าเพื่อขยับให้ศพกลับไปอยู่ในตำแหน่งเดิม
หมอชันสูตรมองเห็นการปฏิบัติอย่างคล่องแคล่วของด็อกเตอร์เดอ แกรฟ แล้วอดนึกชื่นชมในใจไม่ได้
เมื่อสามารถถอดหมวกออกมาจากศพได้แล้วด็อกเตอร์เดอ แกรฟ ได้โน้มตัวลงไปดมใกล้ๆเส้นผมที่อยู่บริเวณคอ
หมอชันสูตรถามขึ้นมาว่า
"ด็อกเตอร์ได้พบร่องรอยใหม่ๆเพิ่มไหมครับ?"
"ผมคิดว่าผมพบนะ แต่ยังไม่ถึงเวลาที่จะบอกจนกว่าผมจะได้ตรวจสอบจนมั่นใจก่อนครับ ว่าแต่คุณหมอได้บอกร่องรอยต่างๆที่คุณหมอพบหมดแล้วใช่ไหมครับ?
"ใช่ครับ ผมได้ชี้แจงไปหมดแล้วครับ"
"ขอบคุณมากครับ"
ด็อกเตอร์เดอ แกรฟ พูดจบก็เอาสองมือมาถูกันพร้อมทั้งพูดลอยๆออกมาว่า
"พอดีผมอยากจะล้างมือให้สะอาด มีใครพอจะเอาน้ำมาให้ผมหน่อยได้ไหมครับ"
พลทหารคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้สุดอาสาไปตักน้ำมาให้ด็อกเตอร์เดอ แกรฟ
ด็อกเตอร์เดอ แกรฟ ล้างมืออย่างระมัดระวัง เมื่อล้างเสร็จเขาได้ถอดแหวนซึ่งอยู่ที่นิ้วมือขวาออกไปเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อโคท เขายืนสงบนิ่งอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นได้เดินไปอยู่ตรงปลายเท้าของศพ แล้วถ่างขาของศพออก เพิ่อพิจารณาดูส่วนเล้นลับ พร้อมกับส่งเสียงอุทานว่า
"เธอยังบริสุทธิ์อยู่!"
"พวกเราควรจะยินดีในเรื่องนี้"
ด็อกเตอร์เดอ แกรฟ พูดด้วยแววตาอันเปล่งประกายซึ่งเมอร์คิวเรียสสังเกตเห็น
"ผมขอแจ้งทุกท่านในที่นี้ว่า เพื่อให้เราสามารถค้นหาความจริงของสาเหตุการเสียชีวิตของเกอร์ทรูย์ดที่ซ่อนอยู่ในร่างของเธอ ผมมีความจำเป็นที่จะต้องผ่าศพพิสูจน์ ไม่ทราบว่ามีใครในที่นี้ไม่เห็นด้วยครับ?"
เมอร์คิวเรียลสตอบโดยไม่ลังเล
"ผมเห็นด้วยแน่นอน เรื่องการผ่าศพพิสูจน์นั้นผมว่าเราสามารถอธิบายให้ครอบครัวของเธอเข้าใจได้ครับ แต่จะดีมากหากด็อกเตอร์เดอ แกรฟจะผ่าศพให้เสียหายน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ"
ด็อกเตอร์เดอ แกรฟ ไม่พูดตอบเมอร์คิวเรียส แต่ได้หยิบถุงเล็กๆออกมาจากกระเป๋าเสื้อ แล้วหยิบของในถุงออกมาให้ทุกคนเห็น มันคือมีดผ่าตัด หลอดโลหะทำจากแร่เงิน จานกระเบื้องเคลือบสีขาว
การผ่าศพได้เริ่มขึ้น ด็อกเตอร์เดอ แกรฟ เอานิ้วคลำบริเวณซี่โครงเพื่อหาตำแหน่งที่จะผ่าอย่างระมัดระวัง เมื่อหาเจอเขาได้เอานิ้วโป้งกดไว้เบาๆเพื่อกำหนดตำแหน่งลงมีด เมื่อมั่นใจแล้วเขาได้กรีดมีดลงบนผิวหนังโดยมีความกว้างของแนวกรีดมากกว่ามีดเล็กน้อยแต่ค่อนข้างลึก
ด็อกเตอร์เดอ แกรฟ พูดขึ้นว่า
"คนที่ตายแล้วจะไม่มีเลือดไหลออกมา"
เขาพูดให้ทุกคนในห้องฟังราวกับว่าเขากำลังสอนวิชาการผ่าตัดให้แก่นักเรียนแพทย์
"เมื่อผมได้หลักฐานที่ต้องการแล้วผมจะใช้เข็มและด้ายเย็บปากแผลให้ปิดสนิทครับ"
จากนั้นเขาได้เอานิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ถ่างรอยกรีดให้กว้างขึ้นแล้วเอาหลอดโลหะสอดเข้าไปลึกประมาณหนึ่งนิ้ว ดูเหมือนว่าเขาจะพยายามสอดให้ลึกกว่านั้นแต่ทำไม่ได้
เขาจึงค่อยๆดึงหลอดออก แล้วเอามือล้วงไปหยิบอุปกรณ์ในถุงออกมา มันเป็นมีดแหลมขนาดเล็กมากเท่าที่เมอร์คิวเรียสเคยเห็น เขาเอามีดเล่มนี้แทงเข้าไปที่รอยกรีดแล้วผ่าให้ลึกกว่าเดิมแล้วจึงสอดท่อเข้าไปอีกครั้ง จากนั้นเขาเอาปากดูดของเหลวให้เข้ามาในท่อแล้วเอานิ้วชี้ปิดที่ปลายหลอด ดึงหลอดขึ้นมาแล้วปล่อยนิ้วที่ปิดหลอดออก ปล่อยให้ของเหลวไหลลงบนจานกระเบื้อง
ด็อกเตอร์เดอ แกรฟ เชิญให้ทุกคนมาดูของเหลวบนจานกระเบื้อง เขายกมันขึ้นมาดมกลิ่นแล้วพูดขึ้นว่า
"ทุกท่านโปรดสังเกตดูว่า ของเหลวบนจานมีอะไรที่พอจะบ่งบอกว่ามีไวน์ปนหรือไม่ครับ"
เมอร์คิวเรียสได้ลองดมแล้วเจอแต่กลิ่นเหม็นแต่ไม่ได้กลิ่นของไวน์เลย
"ผมขอยืนยันว่าผมไม่ได้กลิ่นไวน์เลยครับ"
ด็อกเตอร์เดอ แกรฟ กล่าวขึ้นว่า
"ผมมั่นใจว่าตอนนี้ผมสามารถอธิบายสิ่งที่ผมได้จากการตรวจสอบแล้ว และผมขอแสดงความเสียใจต่อคุณหมอด้วย เพราะผมไม่เห็นด้วยกับการวินิจฉัยของคุณหมอในบางประเด็น และผมจะขออธิบายให้ทุกท่านฟังเพื่อพิจารณา"
เมอร์คิวเรียสเห็นหน้าของหมอชันสูตรแดงก่ำทีเดียวแต่หมอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ด็อกเตอร์เดอ แกรฟ พูดต่อไปว่า
"ทุกท่านลองมองไปที่ต้นแขนจะเห็นลอยช้ำเป็นรูปนิ้วมือของคนครบห้านิ้วทั้งสองข้าง ทำให้เราตัดผู้ต้องสงสัยที่มีนิ้วไม่ครบออกไปได้ ยังมีอีกประเด็นหนึ่ง ถ้าฆาตกรกดร่างของเกอร์ทรูย์ดในท่านอน รอยกดที่ต้นแขนจะต้องเป็นรอยตรงด้านในของแขน แต่ในความเป็นจริงรอยช้ำปรากฏเป็นรูปนิ้วอยู่ตรงต้นแขนด้านนอก"
ด็อกเตอร์เดอ แกรฟ หันไปมองแคลส์แล้วพูดกับเขาว่า
"แคลส์..ในห้องนี้ผมว่าคุณมีต้นแขนที่เล็กสุด ดังนั้นผมขออนุญาตยืมคุณเป็นหุ่นสาธิตหน่อยนะครับ"
ด็อกเตอร์เดอ แกรฟ อธิบายพร้อมๆกับทำท่าแสดง
"ฆาตกรใช้สองมือจับแขนของเกอร์ทรูย์ดไว้แน่นอย่างนี้ แล้วมันบ่งบอกถึงอะไร? สำหรับผมแล้ว ในสถานการณ์อย่างนั้นคงไม่มีอะไรมากไปกว่าการจับแขนเพื่อเขย่าตัวเกอร์ทรูย์ด
ด็อกเตอร์เดอ แกรฟ ปล่อยมือจากแขนแคลส์แล้วเอื้อไปหยิบเสื้อของเกอร์ทรูย์ดขึ้นมาพร้อมทั้งพูดว่า
"จริงอยู่ที่ทั้งผ้ากันเปื้อนและเสื้อต่างก็มีคราบไวน์ติดอยู่ แต่จากการพิสูจน์เรารู้แล้วว่าไม่มีไวน์ในกระเพาะอาหาร จึงสรุปได้ว่าเกอร์ทรูย์ดไม่ได้ดื่มไวน์เข้าไป นอกจากนี้อาหารมื้อสุดท้ายของเธอน่าจะเป็นซุปปลา ส่วนการที่มีคราบไวน์จำนวนมากบนผ้ากันเปื้อนนั่นเป็นเพราะเธอไม่สามารถดื่มไวน์หรือกลืนลงไปได้ นั่นเป็นเพราะว่าตอนนั้นเธอได้เสียชีวิตแล้ว สิ่งแวดล้อมที่ยืนยันได้ก็คือคราบไวน์บนผมของเธอ ไวน์ได้ไหลจากปากผ่านคางแล้วลงไปที่เส้นผมบริเวณคอ เพราะตอนนั้นร่างเธออยู่ในท่านอนราบนั่นเอง.."
ด็อกเตอร์เดอ แกรฟ หยุดพูดสักครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อไปว่า
"ผมขอสรุปตรงนี้เลยว่า การที่คนคนนั้นเขย่าร่างเธอและให้เธอดื่มไวน์นั้นก็เพื่อพยายามทำให้เธอฟื้นขึ้นมาต่างหาก"
ทุกคนรวมทั้งเมอร์คิวเรียลต่างก็อ้าปากค้างกับข้อสรุปของด็อกเตอร์เดอ แกรฟ บัดนี้มันได้เปลี่ยนมุมมองของเมอร์คิวเรียสต่อข้อมูลและเหตุการณ์ต่างๆที่เขารู้มาก่อนหน้าที่นำไปสู่การเสียชีวิตของเกอร์ทรูย์ด
ภาพวาดชื่อ The Anatomy Lesson of Dr. Nicolaes Tulp จิตรกร Rembrandt ภาพจาก wikipedia
โปรดติดตามอ่านในตอนต่อไปและให้กำลังใจด้วยการกดติดตาม
ขอขอบคุณทุกท่านที่มาเยือน
สุธีร์@อ่านเอาเพลิน
โฆษณา