Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สุธีร์@อ่านเอาเพลิน
•
ติดตาม
3 ส.ค. 2022 เวลา 12:32 • นิยาย เรื่องสั้น
ท่องไปในโลกนิยาย
"Death in Delft" (17)
ผู้แต่ง เกรแฮม แบรค
ก่อนที่หมอชันสูตรจะลากลับไปด้วยความหงุดหงิดใจ เขาได้สนทนากับด็อกเตอร์เดอ แกรฟ เกี่ยวกับการค้นพบวิธีการรักษาการปวดฟัน และเทคนิคการใส่ฟันปลอมที่ทำจากปูนแทนฟันจริงที่ใช้ไม่ได้แล้ว ซึ่งเมอร์คิวเรียสฟังแล้วยังรู้สึกไม่มั่นใจว่าจะได้ผลดีหรือไม่ โชคดีที่เขายังมีฟันอยู่ครบแต่ถ้าในอนาคตหากเขาฟันหลอแล้วล่ะก็เขาก็อยากจองคิวเป็นคนไข้ของหมอชันสูตร
เมอร์คิวเรียสและแคลส์เดินออกมาจากอาคารสรรพาวุธมาถึงหน้าโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้คลอง ทั้งสองนั่งพักตรงเก้าอี้ข้างทางพูดคุยกันขณะที่สายตามองไปยังฝั่งตรงข้าม
"ท่านเมอร์คิวเรียสได้เคยเห็นภาพวาดของเฟอร์แมร์ที่ชื่อ'ทิวทัศน์ของเมืองเดลฟท์'ไหมครับ?"
เมอร์คิวเรียสส่ายหน้าเพื่อบอกว่าเขาไม่เคยเห็น
"มันเป็นภาพวาดที่งดงามมากซึ่งผมเองไม่เคยเห็นภาพวาดแบบนี้มาก่อน ในภาพแสดงให้เห็นทิวทัศน์ของเมืองเดลฟท์ซึ่งมองมาจากฝั่งตรงข้ามเราครับ"
1
แคลส์โน้มตัวมาใกล้เมอร์คิวเรียสเหมือนกับจะบอกความลับบางอย่าง
"ท่านครับ ผมอยากจะบอกความลับเกี่ยวกับภาพอันนี้ว่า ถ้าท่านมีโอกาสเห็นภาพนี้แล้วล่ะก็ ให้ท่านมองไปที่ผู้หญิงสองคนที่ยืนเด่นอยู่ในภาพ แม่ผมเป็นหนึ่งในผู้หญิงสองคนในภาพนั้นครับ"
ภาพ View of Delft วาดโดย โยฮันเนส เฟอร์เมร์ ภาพจาก wikipedia
เมอร์คิวเรียสฟังแล้วคิดว่าไม่มีเหตุผลอันใดที่จะไม่เชื่อแคลส์ในตอนนี้ เพราะถ้ามันไม่เป็นความจริง คิดว่าอีกไม่นานคงมีใครต่อใครมาบอกให้รู้หรือไม่ก็บอกว่าผู้หญิงในภาพเป็นแม่ของเขาเช่นกัน
ตอนนี้เมอร์คิวเรียสและแคลส์มานั่งอยู่ที่หน้าร้านเหล้าของโรงแรมแห่งหนึ่งเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์หลังจากที่ต้องทนอยู่ในห้องเล็กๆในอาคารสรรพาวุธเพื่อชันสูตรเกอร์ทรูย์ด ทั้งสองนั่งคุยกันและจิบเหล้าเอลอุ่นๆ สักพักหนึ่งแคลร์ก็พูดขึ้นว่า
"ท่านครับผมคงต้องขอตัวกลับศาลากลางแล้วล่ะครับ"
"ตามสบายเลยครับเดี๋ยวผมหาทางกลับโรงแรมเองได้ไม่ต้องห่วงครับ"
เมอร์คิวเรียสสังเกตุท่าทางอิดออดของแคลส์รู้สึกว่าแคลส์ยังอยากอยู่คุยกับเขามากกว่ากลับไปทำงานเอกสารที่ศาลากลาง
"เย็นนี้เวลาห้าโมง ท่านอย่าลืมนัดทานข้าวเย็นกับคุณแรนค์นะครับ"
แคลส์พูดเสร็จก็อธิบายทางกลับโรงแรมให้เมอร์คิวเรียส
แคลส์สวมเสื้อคลุมแล้วโบกมือลาเมอร์คิวเรียส ปล่อยให้เขาดื่มด่ำกับรสชาติของเหล้าเอลอุ่นๆต่อไป
เมื่อเมอร์คิวเรียสดื่มเหล้าเอลเสร็จ แทนที่จะกลับโรงแรมเขาเกิดเปลี่ยนใจ คิดที่จะไปพบแม่ของเกอร์ทรูย์ดแทน จึงลองสอบถามทางจากหนุ่มบริกรในร้านซึ่งก็สามารถบอกทางได้อย่างชัดเจน เขาจึงได้แจกทิปให้เด็กบริกรตอบแทน
พอเริ่มเดินเมอร์คิวเรียสถึงกับต้องดึงหมวกลงมาบังหน้าเพราะตอนนั้นใบหน้าต้องโดนทั้งลมและเกล็ดหิมะปะทะอย่างจัง
เมอร์คิวเรียสเดินไปตามทางที่หนุ่มบริกรบอกว่าให้เดินจนถึงประตูระบายน้ำแล้วให้มองหาลานกว้างๆแถวนั้น จากนั้นให้เดินเข้าไปแล้วจะเห็นบ่อน้ำทางทิศใต้ แล้วจึงเดินไปทางทิศตะวันตก เวลาเดินตรงแถวนี้ต้องระวังหกล้มเพราะผิวถนนปูด้วยอิฐที่ไม่เป็นระเบียบ
เมอร์คิวเรียสชำเลืองมองบนหน้าต่างเพื่อหาหญิงสาวที่มีเส้นผมยุ่งแซมข้างๆแต่ก็สังเกตุได้ยากเพราะพวกเธอต่างสวมหมวก แต่ปรากฏว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งทำหน้าแปลกใจโดยเอามือป้องปาก เมอร์คิวเรียสจ้องไปที่เธอและจำหน้าเธอได้ ดูเหมือนเธอก็จำเขาได้เช่นกัน เขาเอามือยกหมวกขึ้นนิดหน่อยพร้อมทั้งโบกมือทักทายเธอ
เธอรีบลงมาข้างล่างแล้วเปิดประตูออกมาหาเมอร์คิวเรียส
"สวัสดีครับ"
"สวัสดีคะท่าน"
"ผมชื่อเมอร์คิวเรียส ผมมาจากไลเดนเพื่อมาช่วยท่านนายกเทศมนตรีสืบหาฆาตกรที่ฆ่าลูกสาวคุณครับ"
"เธอชื่อ'เกอร์ทรูย์ด' ค่ะท่าน"
"ผมอยากจะคุยกับคุณแม่เกี่ยวกับตัวเกอร์ทรูย์ด ถ้าคุณแม่จะกรุณา"
เธอพยักหน้าตอบรับก่อนจะพูดว่า
"พวกเขาจะฝังเธอในวันเสาร์นี้ จากนั้นเรื่องราวของเธอก็จะถูกโลกลืม แต่การที่ท่านจะมาพูดคุยกับฉันเกี่ยวกับเรื่องเธอถือว่าเป็นเกียรติกับฉันมากเลยค่ะ เชิญท่านเข้ามาในบ้านอันซอมซ่อของฉันก่อนสิคะถ้าท่านไม่รังเกียจ"
เมอร์คิวเรียสเดินเข้าไปในบ้านตามคำเชิญ ปรากฏว่าของในบ้านถูกจัดเป็นระเบียบเรียบร้อยดีมาก ต่างจากในห้องพักของบรรดาลูกศิษย์เขาที่แสนจะรกรุงรัง
"ฉันต้องขอประทานโทษเป็นอย่างมากที่ไม่มีอะไรมาต้อนรับ"
"ไม่ต้องลำบากหรอกครับ ผมได้ทานของว่างที่ร้านในโรงแรมที่อยู่ตรงข้ามกับคลองที่ผ่านอาคารสรรพาวุธมาก่อนที่จะมาที่นี่แล้วครับ"
"อ๋อ! นั่นคือโรงแรมของโจสนั่นเองค่ะ"
"หนุ่มบริกรที่นั่นช่วยชี้ทางผมมาที่นี่ครับ"
"ใช่หนุ่มที่มีผมดำ อายุประมาณสิบห้าหรือเปล่าคะ? ถ้าใช่เขาก็น่าจะเป็นลูกชายของบ้านตรงบริเวณลานกว้างก่อนถึงที่นี่ค่ะ"
"เขาเป็นเด็กหนุ่มที่ขยันทำงาน ชาวบ้านแถวนี้ต่างสนับสนุนให้เขาแต่งงานกับเกอร์ทรูย์ด"
เธอพูดจบก็สะอื้นร้องไห้ เธอพยายามข่มใจไม่ให้ร้องไห้ด้วยการรวบผ้ากันเปื้อนให้เป็นก้อนแล้วอุดปากตัวเองไม่ให้ส่งเสียง
"คุณแม่อย่าร้องไห้จนเหมือนเป็นการทำร้ายตัวเองเลยครับ สิ่งที่จะดีกับเกอร์ทรูย์ดตอนนี้คือเราต้องค้นหาตัวฆาตกรมาลงโทษให้ได้"
"ฉันขอถามท่านว่าเจ้าฆาตกรจะตกนรกชั่วกัปชั่วกัลป์ไหมคะ"
"เราถูกสอนมาเช่นนั้นครับ"
"ที่ฉันกลัวตอนนี้คือกลัวพระเจ้าจะใจอ่อนแล้วให้อภัยเจ้าฆาตกรค่ะ"
"พระเจ้าจะเป็นผู้ตัดสินความผิด และเราจะต้องมีศรัทธาว่าพระองค์จะให้ความยุติธรรม พวกเราต่างก็มีบาปและต่างก็รอคอยการพิพากษาจากพระองค์"
"สำหรับฉันแล้วฉันมั่นใจว่าฉันไม่ใช่คนบาปหนา ฉันศรัทธาในพระองค์และปฏิบัติตามพระบัญญัติอย่างเคร่งครัด ฉันซื่อสัตย์ต่อสามี และเขาก็ซื่อสัตย์ต่อฉัน ฉันหมั่นทำความสะอาดบ้านเพื่อให้บ้านปราศจากสิ่งชั่วร้าย แล้วทำไมพระองค์ยังประทานเรื่องโหดร้ายแก่ฉัน?"
โปรดติดตามอ่านในครั้งต่อไป
ขอขอบคุณทุกท่านที่มาเยือน
และให่กำลังใจด้วยการกดติดตาม
สุธีร์@อ่านเอาเพลิน
บันทึก
1
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
เรื่องเล่า ไขคดีปริศนาเมืองเดลฟท์( Death in Delft) ผลงานเกรแฮม แบรก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย