Generation z รุ่นที่โดดเดี่ยวสิ้นหวัง ทั้งๆที่เทคโนโลยีสะดวกสะบาย ???
เรียกได้ว่า ข่วงนี้เป็นช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ คล้ายๆกับวิกฤติเศรษฐกิจช่วงต้มยำกุ้งเลยทีเดียว แม้ตอนนี้ยังไม่รุนแรงเท่า แต่หลายๆบริษัทที่เคยผ่านจุดนั้นมาได้ กลับมาล้มหายตายจากไปเพราะวิกขโควิดนี้เช่นกัน
ส่งผลกระทบให้เกิดความเครียด กดดันในชีวิต เรื่องพวกนี้ควรจะเป็นการกดดันและสร้างความเครียดให้กับเหล่าคนทำงาน พวก generation x, และy มากที่สุด แต่จากผลสำรวจพบว่า เหล่า gen z ต่างหากเล่าที่ได้รับผลกระทบ และมีความเครียดสูงและรู้สึกโดดเดี่ยว ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น
เด็กๆ รุ่นนี้ขาดภูมิต้านทานความโดดเดี่ยว …วัยเด็กของแต่ละรุ่น แต่ละสมัยไม่เหมือนกัน แต่ภูมิต้านทานต่อความทุกข์ ถูกสร้างขึ้นมาในวัยเด็ก เชื่อผมเถอะ
วัยเด็กสมัยรุ่นพ่อรุ่นแม่เป็นยุคหลังสงครามโลก หรือแม้แต่สงครามเย็น ในภูมิภาค เป็นยุคยากแค้น แม่เคยเล่าว่า สมัยเด็กๆต้องทำงานเกษตร งานบ้าน และเรียนหนังสือไปด้วย วันไหนไก่ที่บ้านออกไข่ พี่น้อง 5 คน ต้องมาแบ่งไข่ไก่กินกัน ไข่หนึ่งฟองต้องแบ่ง5 ส่วน ของเล่นอย่าให้พูดถึง ต้องไปหาตามป่าตามเขา เอามาเล่นกัน เพราะไม่มีเงินซื้อ เช่น ทำม้าก้านกล้วย เล่นตีล้อยางรถมอเตอร์ไซค์อะไรทำนองนี้
ด้วยความลำบากตั้งแต่เด็ก เมื่อมาเจอยุคเศรษฐกิจตกต่ำ ยังทำให้หวนนึกถึงวันเก่าๆ นึกถึงความลำบากในวัยเยาว์ ภูมิต้านทานความทุกข์ ความโดดเดี่ยว สิ้นหวัง มันก็ถูกกระตุ้นกลับมาทำงานอีกครั้ง
สำหรับวัยทำงานอย่า gen y ส่วนใหญ่ก็วัยกลางคน มีภาระมาก ทั้งต้องดูแลครอบครัวตัวเอง ยังต้องดูแลพ่อแม่ ควรจะเป็นวัยที่โดดเดี่ยวและท้อแท้ที่สุดในตอนนี้ แต่ภูมิคุ้มกันในวัยเด็ก ยังพอมี เพราะพวกเขาอยู่ในช่วง หัวเลี้ยวหัวต่อของเทคโนโลยี ได้เห็นความยากลำบากและความสะดวกสบาย พร้อมๆกัน ได้เล่นเกม ในร้านเกม (ก่อนที่ร้านเกมจะหายไป) ได้เห็นโทรศัพท์จากอันเท่าค้อน ไปจนอันเท่าฝ่ามือ
ได้เล่นลูกข่าง ได้เล่นรถบังคับวิทยุ ได้อ่านการ์ตูน ได้ดูทีวี ไเ้รอคอยการ์ตูนช่วงเช่า ช่วงเสาร์อาทิตย์ ได้รู้ว่า มีสิ่งดีๆรออยู่ ในอนาคต ได้เปรียบเทียบดี ร้าย ของเทคโนโลยี ได้เห็นคนที่แย่กว่า ได้เห็นคนที่ดีกว่า ได้เห็นว่าการศึกษาช่วยชีวิตเขาได้
อนิจจา … ภูมิคุ้มกันวัยเด็ก แทบไม่มีในเด็กgen z
เด็กgen z ตื่นมาพร้อมกับ iPhone , ig ,Fb และแอพฯอื่นๆที่มีมากมายตอบสนองความต้องการ ความบันเทิง ที่เสริฟมาให้ตั้งแต่ลืมตาตื่น ไม่จำเป็นต้องรอ ไม่จำเป็นต้องพยายามอะไร
อยากเด่นอยากดัง มีทุกยุค ทุกสมัยทุกgeneration แต่มันไม่มากเท่านี้ เท่ายุคนี้ เพราะ เมื่อก่อนอาจจะมีแค่ดารานักแสดงที่ออกมาโชว์ชีวิตหรูหราตามรายได้อันมากมายที่พวกเขาได้รับ แต่ตอนนี้แม้แต่คนทั่วไปก็เอาแต่โชว์ชีวิตหรูหรา เพื่อเรียกยอดกดไลท์ กดแชร์ในโซเชียลมีเดียของพวกเขา เมื่อเด็กgen z เห็นก็เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจว่าทำไมไม่มีอย่างเขาบ้าง ทั้งๆที่ ก็เป็นคนทั่วไปเหมือนกัน ไม่ว่าสิ่งที่แสดงออกมาจะเป็นชีวิตหรูหราจริง หรือแค่สร้างขึ้นมาเท่านั้น
รวมถึง การประสบความสำเร็จของเหล่า YouTuber ที่ส่วนใหญ่มีเงินรายได้เข้ามาเป็นหลักล้านบาท และสร้างคอนเท้นอวดรวย อย่าง ซื้อรถสปอร์ตหรู มาทาสีพ่นสีเล่น หรือแจกเงินคนเดินถนน หรือทุบไอโฟนรุ่นใหม่โชว์ แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้สามารถเรียกความสนใจจากคนทั่วไปได้อย่างง่ายดายจะมีคนเข้ามาดูวิดีโอแบบนี้เป็นจำนวนหลายล้านวิว
วิดีโอแบบนี้หากมีเป็นจำนวนมากจะสร้างบรรทัดฐานใหม่สำหรับเหล่าวัยรุ่นgen z ขึ้นมาซึ่งพวกเขามีความศรัทธาในเหล่าYouTuber ที่พวกเขาติดตามเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดกระแสการอยากมีอาชีพสาย YouTuber ซึ่งในความเป็นจริงแล้วคนที่จะเป็น YouTuberในแบบที่สามารถเลี้ยงชีพได้มีเงินเยอะๆแบบที่เขาโชว์ให้เห็นนั้นมีจำนวนน้อยมาก
สิ่งหลอกลวงเหล่านี้กำลังบั่นทอนจิตใจและสร้างความโดดเดี่ยวและความคาดหวังในการมีชีวิตที่หรูหราฟู่ฟ่าให้กับคนเจเนอเรชั่นนี้เป็นอย่างมาก ทั้งทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วชีวิตที่พวกเขามีอยู่ในปัจจุบันนั้นก็ถือว่าสะดวกสบายและดีมากกว่าในอดีตเป็นอย่างมาก
เหล่า generation z กำลังทำการทำลายตัวเองด้วยสิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้นมามันเป็นการบั่นทอนทีละน้อยทีละน้อยกัดกร่อนชีวิตและจิตวิญญาณของพวกเขาด้วยพวกเขาเอง
ทางเดียวที่จะหยุดยั้งคือการสร้างภูมิคุ้มกันความโดดเดี่ยวให้กับตนเองรับรู้ความเป็นจริงในสังคมว่าสิ่งที่พวกเขาเห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริง และพวกเขาสามารถมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นที่ยอมรับของสังคมในแบบนั้น เพียงแค่เป็นคนดีและมีความสุขกับชีวิตที่เป็นอยู่ก็เพียงพอแล้ว
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
