12 ส.ค. 2022 เวลา 14:00 • ไลฟ์สไตล์
เปิด 7 วิธีสร้างรายได้จาก “TikTok“ พร้อมหลักเกณฑ์การ “ยื่นภาษี” แบบไหนต้องเสียภาษีอย่างไร
เปิด 7 วิธีสร้างรายได้จาก “TikTok“ พร้อมหลักเกณฑ์การ “ยื่นภาษี” แบบไหนต้องเสียภาษีอย่างไร
หลังเปิดตัวเพียงไม่กี่ปี “TikTok” ก็กลายเป็นแพลตฟอร์มที่มาแรงยืนหนึ่ง ถึงขนาดที่เจ้าแห่งโลกโซเชียลมีเดียอย่าง เฟซบุ๊ก และ ยูทูบ ยังขอเดินตามรอย ลงมาลุยทำคลิปวิดีโอสั้นกับเขาบ้าง
ขณะที่ในประเทศไทยเอง TikTok ก็ได้รับความนิยมสูงมาก โดยพบว่า ไทยอยู่อันที่ 8 ของโลก ด้วยจำนวนผู้ใช้งานมากถึง 35.8 ล้านคน หรือคิดเป็น 63.6% ของประชากรทั้งประเทศที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
นอกจากความสนุกแล้ว ในระยะหลังก็มีผู้ใช้งานที่สามารถสร้างรายได้จากการเล่น TikTok อย่างเป็นกอบเป็นกำมากขึ้น
ข้อมูลจาก Inflow Accounting ผ่านบทความ “7 วิธีสร้างรายได้จาก “TikTok” พร้อมเกณฑ์การเสียภาษี ต้องทำอย่างไรบ้าง” (https://bit.ly/3SgI3MQ) ได้ระบุถึง “7 วิธีสร้างรายได้จาก TikTok” ไว้ดังนี้
📌 1.ได้ของขวัญ ซึ่งสามารถแบ่งรายได้จากของขวัญที่ได้รับเป็น 2 แบบ คือ
- ได้ของขวัญจากการไลฟ์สด วิธีการนี้ผู้ที่สามารถมีรายได้จากการไลฟ์สดได้นั้น จะต้องมีผู้ติดตาม 1,000 คน (follower) และต้องมีอายุมากกว่า18 ปี สามารถสร้างไลฟ์สดเพื่อพูดคุยกับผู้ติดตามของตนเองได้ ซึ่งถ้าหากผู้ติดตามถูกใจและส่งของขวัญให้ ไม่ว่าจะเป็นอมยิ้ม ลูกโป่ง ดอกไม้ หรือหัวใจ เป็นต้น โดยแต่ละชนิดมีมูลค่าต่างกัน ก็จะทำให้มีรายได้จากการเก็บของขวัญเหล่านี้นั่นเอง
​- ได้ของขวัญจากการทำคลิปวิดีโอ รายได้จากการทำคลิปวิดีโอนั้น ใช้ได้เฉพาะบัญชีทั่วไป บัญชีธุรกิจทำไม่ได้ และสามารถใช้งานโหมดวิดีโอGifte ได้ ก็ต่อเมื่อมีผู้ติดตาม 1 แสนคน มีอายุมากกว่า 18 ปี รวมถึงต้องใช้Account นี้เป็นเวลา 30 วันต่อเนื่อง หากมีคนกดส่งของขวัญให้ก็จะมีรายได้เกิดขึ้น
​ทั้งนี้ ของขวัญที่ได้รับจากทั้ง 2 วิธี เมื่อสะสมครบตามจำนวนที่กำหนด จะสามารถกดโอนเข้าสู่บัญชีของตนเองเป็นเงินสดจริงได้ ซึ่งเงินที่ถอนจาก TikTok ทาง TikTok ไม่มีการเรียกเก็บภาษี สามารถนำไปใช้จ่ายได้เลย แต่สิ้นปีให้นำไปรวมเป็นรายได้เพื่อชำระภาษีด้วย
📌 2.ชวนเพื่อนเล่น TikTok เป็นการสร้างรายได้ลักษณะเหมือนค่าคอมมิชชั่น ซึ่งจะได้ค่าคอมมิชชั่นก็ต่อเมื่อเพื่อนที่แนะนำเข้ามาเล่นใน TikTok ตามจำนวนวันที่กำหนดเป็นเวลามากกว่า 10 นาทีต่อวัน สูงสุดคือ 14 วัน ถ้าเล่นครบจึงจะได้รับค่าแนะนำ
1
เมื่อถอน TikTok Rewards เข้าบัญชีตนเองแล้ว จะต้องนำไปรวมเป็นรายได้เพื่อชำระภาษีประจำปีด้วยเช่นกัน
📌 3.ขายสินค้าแบรนด์ตัวเอง ถ้าหากเป็นเจ้าของแบรนด์ มีแบรนด์สินค้าเป็นของตัวเอง สามารถใช้ TikTok ในการโปรโมต ประชาสัมพันธ์สินค้าของตัวองได้
📌 4.รับงานรีวิว เป็นวิธีที่มีผู้สนใจมากที่สุดเนื่องจากรายได้ดี โดยรีวิวสินค้าให้กับแบรนด์ต่างๆ และได้รับเงิน ค่าสปอนเซอร์จากแบรนด์นั้นๆ รายได้แล้วแต่ชื่อเสียงและการตลาดของแต่ละคน เช่น หากหน้าตาดีหรือดัง ก็จะมีสินค้าติดต่อเข้ามาให้รีวิวให้เยอะ อาจมีการตกลงกันว่า 1,000 ไลค์ ค่ารีวิว10,000 บาท เป็นต้น
📌 5.การทำ Affiliate Marketing คือการนำลิงก์สินค้าจากแบรนด์ดังมาโปรโมตให้ แล้วได้รับค่าคอมมิชชั่นในการโปรโมต กล่าวคือเราสามารถนำลิงก์สินค้าและบริการต่างๆ จากเว็บไซต์ มาแนะนำเพื่อส่งคนไปซื้อสินค้าบนเว็บไซต์นั้นๆ และจะได้ค่าคอมมิชชั่นจากการขายสินค้าเป็นค่าตอบแทน ยิ่งส่งคนไปซื้อสินค้าได้มากเท่าไร ก็จะได้ค่าคอมมิชชั่นที่สูงขึ้น
📌 6.TikTok Shop สามารถหารายได้ได้ทั้งผู้ขายสินค้าและครีเอเตอร์ ในส่วนของผู้ขายสินค้าสามารถนำสินค้าเข้าไปวางขายใน TikTok Shop ได้เลยส่วนครีเอเตอร์ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยการเข้าร่วมเป็นครีเอเตอร์ของ Shop Seller จะทำรายได้ได้จากการนำสินค้าของผู้ขายใน TikTok Shop เอามาแนะนำ ถ้าแนะนำได้จะได้รับค่าแนะนำ หรือคอมมิชชั่นนั่นเอง
📌 7.ครีเอเตอร์ มาร์เก็ตเพลส (Creator Marketplace) ผู้ที่สร้างรายได้จากวิธีนี้ ต้องมีผู้ติดตาม 10,000 คนขึ้นไป จากนั้นจะมีการเชิญจากTikTok ให้เข้าร่วม โดยวิธีการรับรายได้คือทางแบรนด์ต่างๆ สามารถค้นหาผู้ใช้ TikTok ที่เกี่ยวข้องเพื่อจ้างรีวิวสินค้า ซึ่งขึ้นกับเรื่องที่ต้องการโฟกัส สถานที่ และการเข้าถึง
แต่ทราบหรือไม่ว่า จากทั้ง 7 รูปแบบที่เราสามารถทำรายได้จาก TikTok นั้น รายได้ที่เข้ามา มีวิธีการ “ยื่นภาษี” ที่แตกต่างกัน โดยสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
โฆษณา