2 ส.ค. 2022 เวลา 07:34 • ปรัชญา
ประวัติพุทธสาวก 5 นาที : พระปิลินทวัจฉะ
พระปิลินทวัจฉะ เกิดในตระกูลพราหมณ์วัจฉโคตร เมื่อโตขึ้นเกิดศรัทธา จึงได้เข้ามาบรรพชาอุปสมบทในพระพุทธศาสนา
หลังจากอุปสมบทเป็นภิกษุแล้ว ไม่ประมาท ตั้งใจบำเพ็ญความเพียรในวิปัสสนากรรมฐาน ต่อมาก็ได้บรรลุพระอรหันตผล เป็นพระอเสขบุคคลในพระพุทธศาสนา
เมื่อพระบรมศาสดาประทับอยู่ที่พระเวฬุวันมหาวิหาร อันเป็นกลันทกนิวาปสถาน (สถานที่ให้เหยื่อกระแต) ในกรุงราชคฤห์ ในเวลานั้นท่านได้ร้องเรียกภิกษุทั้งหลายด้วยวาทะว่า วสละ ซึ่งแปลว่า เป็นคนถ่อย อันเป็นคำหยาบคาย พวกภิกษุจึงพากันเข้ากราบทูลเนื้อความนั้นแก่พระผู้มีพระภาคเจ้า
พระองค์ทรงรับสั่งให้เรียกตัวท่านเข้ามาเฝ้า แล้วรับสั่งถามว่า "ดูก่อนปิลินทวัจฉะ เราได้ทราบข่าวว่าเธอร้องเรียกพวกภิกษุทั้งหลายด้วยวาทะว่า วสละ เป็นความจริงหรือ ?"
พระเถระจึงกราบทูลว่า "เป็นความจริงพระพุทธเจ้าข้า"
ลำดับนั้นพระผู้มีพระภาคทรงระลึกถึงบุพเพสันนิวาส ของท่านพระปิลินทวัจฉะแล้ว ตรัสกับภิกษุทั้งหลายว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธออย่ากล่าวตำหนิปิลินทวัจฉภิกษุเลย เธอมิได้โกรธแค้นเรียกร้องพวกเธอด้วยวาทะว่า วสละ ดอก ปิลินทวัจฉภิกษุนี้ เคยถือกำเนิดในตระกูลพราหมณ์มาแล้ว 500 ชาติ เธอก็เลยมีวาทะว่า วสละ มาแล้วสิ้นกาลช้านาน เพราะเหตุนั้น เธอจึงร้องเรียกภิกษุทั้งหลายด้วยวาทะเช่นนั้น"
ครั้นต่อมา ท่านพระปิลินทวัจฉะนั้น ได้รับการยกย่องจากพระบรมศาสดาว่า เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ผู้เป็นที่รักใคร่เจริญใจของเทพยดา
ครั้นท่านดำรงชนมายุสังขารอยู่โดยสมควรแก่กาลแล้วก็ดับขันธปรินิพพาน
โฆษณา