2 ส.ค. 2022 เวลา 08:10 • ความคิดเห็น
รีวิว คอร์ส Rewrite ของพี่โจ้แห่ง Readery
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
หลายครั้งที่ฉันคุยกับฝรั่งที่บ้านว่า ความน่ากลัวของโลกทุกวันนี้ก็คือมนุษย์ตายยากเหลือเกิน Expectaion Life ของเรายืนยาวขึ้นทุกปี สมัยก่อนคนอายุ 60-70 ก็เตรียมตัวตายได้แล้ว ปัจจุบันยาวนานไปจนถึง 80-90ปี แล้ว ถ้าเราเกษียณตอนอายุ 60-65 เราต้องอยู่ต่ออีก 15-20 ปีเลยนะ
ไอ้เรื่องกลัวว่าจะแก่จนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ยังไม่เท่ากับความกลัวที่ว่าก่อนจะช่วยตัวเองไม่ได้นั้น จะอยู่ยังไงวะ จะเอาอะไรกิน จะหาเงินหาทองยังไงช่วง 20 ปีที่ไม่ได้ทำงาน หลายคนบอกว่าเราต้องสะสมเงินทองเตรียมไว้ ต้องวางแผนการลงทุน เพื่อจะให้มีทรัพย์สมบัติยังชีพช่วงที่บริษัทห้างร้านไม่จ้างเราเอาไว้ใช้งานแล้ว
ละเธอดูการลงทุนตอนนี้ ละเธอดูดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารตอนนี้ ละเธอดูภาวะเงินเฟ้อที่เริ่มส่งสัญญาณตอนนี้ มันมีอะไรรับประกันได้บ้างว่า เงินทองที่เธอสะสมไว้จะยังมีค่ามีราคาให้เราจับต้อง หรือให้เราขุดออกมาใช้ได้ตอนหลังเกษียณบ้างมั้ย??
ฉันถามฝรั่งไปว่าถ้าเราลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เช่น ห้องพัก บ้านพัก คอนโด อะไรพวกนี้ล่ะ ยังพอจะเป็นอะไรที่ปลอดภัยมั้ย? ยังไงคนก็ยังต้องอยู่ต้องอาศัยใช่มั้ย อย่างน้อยเราก็ยังมีเงินค่าเช่าบ้านที่ได้รับรายเดือนอยู่นะ ฝรั่งถามกลับมาว่า ถ้าภาวะเงินเฟ้อรุนแรง หรือเศรษฐกิจย่ำแย่จนคนไม่มีเงินมาจ่ายค่าเช่าบ้านล่ะ เราจะไล่เค้าออกเหรอ เราจะใจดำทำได้มั้ย?
ฉันคิดแล้วก็ใจฝ่อ ไม่มีอะไรรับประกันได้เลยว่า ความมั่งคั่งทรัพย์ศฤงคารทั้งหลายที่เรากอดเอาไว้จะยังคงอยู่กับเราในอีก 20-30 ปีข้างหน้า ต่อให้เราแบ่งตะกร้าการลงทุนไว้หลากหลายก็ตาม
“เราจะลงทุนในอะไรได้ที่จะปลอดภัยในอนาคต?” ฉันรำพึงเบา ๆ
“ลงทุนใน Ability ของตัวเองไง” ฝรั่งตอบ
1
นั่นคือสิ่งที่ฝรั่งข้างตัวฉันทำมาตลอดระยะเวลา 20 ปีที่รู้จักกันมา
และนี่ก็คือที่มาของฉันเองที่ลงเรียนคอร์ส Rewrite ของพี่โจ้ ซึ่งอาจจะเปรียบเทียบไม่ได้เลยกับการลงทุนใน Abilities ของฝรั่ง เพราะสิ่งที่ฝรั่งเรียนรู้มากมายหลากหลายสาขาอาชีพ สามารถที่จะทำให้เขาไปประกอบกิจการทำงานอะไรก็ได้ที่จะเลี้ยงปากเลี้ยงท้องในยามข้าวยากหมากแพง หรือเศรษฐกิจล้มครืนลงมาแบบสายฟ้าฟาด
Abilities ของฉันมีไม่มาก ว่ากันตามจริงควรจะเขียนด้วยคำนามเอกพจน์ Ability ด้วยซ้ำ
ฉันรู้ว่าตัวเองมีความสามารถในการเขียน ซึ่งเป็นทักษะที่ฉันไม่เคยทิ้งและหมั่นฝึกฝนเพื่อทำให้ดีอยู่เสมอ การเคยมีหนังสือเป็นของตัวเองสองสามเล่ม ทำให้อีโก้ในตัวเองมันพองคับแน่นจนบางครั้งก็คิดว่าตัวเองแน่ ตัวเองเจ๋ง และไม่เคยหาความรู้เพิ่มเติม ซึ่งคนที่ไม่ต้องฉลาดมากนักก็รู้ว่า ศาสตร์ของการเขียนนั้นเรียนทั้งชีวิตก็ยังไม่จบไม่สิ้น คลาส Rewrite ของพี่โจ้ทำให้ฉันรู้ว่าความคิดนั้นไม่เคยผิด เรายังต้องเรียนมันไปทั้งชีวิตนี่แหละ
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
ต่อไปนี้คือการรีวิวคอร์ส Rewrite ที่ฉันลงเรียนไปทั้งหมด 5 คอร์สตลอดทั้งเดือนกรกฎาคม
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
เราเริ่มคอร์สแรกที่ชื่อว่า Trust you writer’s mind ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่คิดว่าตัวเองเขียนไม่ได้ เขียนไม่เป็น ไม่รู้จะเขียนอะไร ในคลาสเราจะได้กลับเข้าไปเชื่อในสัญชาตญาณลึก ๆ ของตัวเองอีกครั้ง เอาชนะความกลัวทั้งหลายที่คิดไปเองว่าเราเขียนไม่ได้ เขียนไม่เป็น ไม่ว่าจะเป็นความกลัวการถูกตัดสินจากทั้งตัวเองและคนอื่น หรือความกลัวอื่น ๆ ซึ่งการเรียนเป็นกลุ่ม Online ผ่านโปรแกรม Zoom ทำให้เราได้แบ่งปันประสบการณ์จากผู้เรียนคนอื่น ๆ ด้วย
บอกตามตรงว่าทีแรกฉันคิดว่า ฉันไม่น่าจะเหมาะกับคลาสนี้เท่าไหร่ เพราะฉันเองนั้น Trust ในการเขียนของตัวเองเต็มที่ ฉันไม่มีปัญหาในเรื่องนี้
แต่เมื่อได้เข้าเรียนแล้ว กลับได้ค้นพบเทคนิคใหม่อย่าง Free Writing ที่ดึงศักยภาพบางอย่างออกมา การปล่อยให้ตัวเองก้าวผ่านความกลัวบางอย่าง กล้าจะลงไปแตะในจุดที่ไม่อยากแตะ ไม่อยากเขียน เพราะกลัวความเจ็บปวด กลัวการดึงปีศาจร้ายขึ้นมา แต่แท้จริงแล้วการเขียนคือการสำรวจขยะในใจ สำรวจความลับที่เราฝังไว้ แล้วเคลียร์มันออกไป ทำให้บ่าและไหล่ที่แบกความล่องหนอันแสนหนักนั้นเบาสบายขึ้น
อีกสี่คลาสที่เหลือคือ
Know your life Theme
Free writing workshop : Dialogue
Free writing workshop : I see
You are what you believe
1
ทุกคลาสที่ลงเรียน แทบจะไม่ได้เรียนทฤษฎีการเขียนอะไรที่ซับซ้อน แถมเมื่ออ่านชื่อคลาสแล้วฉันยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าฉันจะได้เรียนอะไรใหม่รึเปล่า
ในคลาสจะไม่มีการสอนวิธีเขียนยังไงให้ดี ไม่มีหลักวิชาการใด ๆ ให้จับต้องเป็นชิ้นเป็นอัน มีแค่หลักกว้าง ๆ แนวทางใหญ่ ๆ ให้เรามุ่งเดิน แต่สิ่งที่ได้ในทุกคลาสก็คือวิธีการดึงเอาความเป็นธรรมชาติในการเขียนเราออกมา ในระหว่างเรียนจะมีการปฏิบัติร่วมกันคือการเขียนสั้น ๆ ตามหัวข้อต่าง ๆ อยู่เป็นระยะ ซึ่งทุกคนที่เรียนจะแปลกใจในตัวเองเสมอว่า “กูเขียนมันออกมาได้ยังไงวะเนี่ย”
สิ่งที่ได้ในคลาสเสมอก็คือ “ทริค” คือกุญแจสำคัญของการเขียน พี่โจ้ไม่ได้มาจับมือสอนเขียน ทั้งยังแทบจะไม่ได้บอกเลยว่าต้องเขียนยังไง แต่สามารถดึงทุกคนให้เขียนเรื่องราวภายในออกมาเขียนได้อย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยโจทย์ต่าง ๆ ที่ถูกออกแบบมาอย่างดี
หลายครั้งที่มีคนได้ปลดล็อคบางสิ่งบางอย่างในจิตใจ หลายครั้งที่มีคนได้สลัดความทุกข์ที่ยึดเอาไว้มานานเป็นยี่สิบปีจนใจเบาและสบายขึ้น จนฉันบอกพี่โจ้ไปว่า คลาสของพี่มัน Beyond คลาส Writing ไปแล้ว มันคือคลาสบำบัดจิตใจมากกว่า ฉันว่าคลาสของพี่โจ้เหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่อยากพูดคุยกับตัวเอง อยากรู้จักตัวตนแท้ ๆ ของตัวเอง และอยากพัฒนาตัวเองให้ดีงามขึ้น
1
แต่ถ้า Focus แค่เรื่องงานเขียนล่ะ เราจะได้อะไรจากการพัฒนาทักษะการเขียนรึเปล่า? แน่นอน หากจับเอาเฉพาะเทคนิคในการเขียน ทุกคลาสมีเทคนิคพิเศษที่เราจะเอาไปใช้ได้แน่นอน เราสามารถพัฒนาการวางโครงเรื่อง การสร้างคาแรคเตอร์ การเขียนบรรยาย เทคนิคพิเศษเหล่านี้แทบจะไม่มีใครสอนเราแบบย่อยง่าย ๆ ภายในสามชั่วโมงแบบที่พี่โจ้สอนหรอก
สิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ การเป็น Host หรือผู้คุมการเรียนการสอนของพี่โจ้ นี่คือคนที่สามารถคุมสภาพแวดล้อมของการเรียนได้ดีมาก ๆ คนหนึ่ง สามารถดึงจุดเด่น อธิบายจุดพร่องของนักเรียนได้อย่างไม่มีที่ติ ตอบคำถามได้ทุกคำถาม อธิบายความซับซ้อนของอารมณ์นักเรียนได้แบบคนที่มีประสบการณ์มายาวนาน เป็นคนที่มีรังสีและรัศมีของความน่าไว้ใจและปลอดภัยแผ่ซ่านรอบตัว และเป็นคนที่รู้จริงในเรื่องที่ตัวเองกำลังพูดและสอนซึ่งนี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด
เอาล่ะ การที่ฉันอวยมาก ๆ นี่ไม่ได้แปลว่าฉันรับค่าจ้างค่าตัวอะไรมานะ เธอก็รู้ฉันไม่ใช่คนปลิ้นปล้อนตอแหล ฉันคิดอะไรฉันก็ว่าไปตามนั้น สำหรับฉันการลงทุนใน Ability ของตัวเองในครั้งนี้ ฉันรู้สึกคุ้มค่ามาก ๆ และคิดว่ามันจะต่อยอดทักษะงานเขียนของฉันให้เพิ่มพูนขึ้นไปอีกแน่ ๆ
ส่วนเธอที่อ่านมาถึงตรงนี้ ไม่ว่าจะลงทุนกับทรัพย์ศฤงคารอะไรเอาไว้ อย่าลืมลงทุนกับ Abilities ของตัวเองกันล่ะ
❤️
ใครที่สนใจคลาสของพี่โจ้ สามารถติดตามได้ที่เพจ Rewrite ใน Facebook ซึ่งความพิเศษคือเมื่อลงเรียนแล้ว สามารถลงเรียนซ้ำได้ฟรีกี่ครั้งก็ได้

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา